คุณแม่ต้องรู้! น้ำนมเหลืองดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการเจ็บป่วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในน้ำนมแม่มีสารอาหารครบถ้วนสำหรับลูกน้อย โดยเฉพาะน้ำนมเหลือง (Colostrum) หรือหัวน้ำนมที่หลั่งออกมาในช่วง 1-3 วันแรกหลังคลอดเท่านั้น ยิ่งมีน้ำนมเหลืองมากก็จะทำให้เจ้าตัวน้อยได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล หากคุณแม่ยังไม่เข้าใจว่า น้ำนมเหลืองคืออะไร ต้องอ่านบทความนี้

 

น้ำนมเหลืองคืออะไร ทำไมถึงดีที่สุดกับลูกน้อย

คุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งคลอดลูก ในช่วงแรก ๆ ที่น้ำนมมา หากลองสังเกตดูจะพบว่า สีของน้ำนมค่อนข้างเหลือง บางท่านอาจตกใจว่าทำไมน้ำนมจึงไม่เป็นสีขาวรู้สึกกลัวไม่ยอมให้ลูกทาน เพราะคิดว่าสีของน้ำนมแบบนั้น คือน้ำนมที่มีความผิดปกติ บางท่านถึงกับบีบทิ้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ เพราะน้ำนมเหลือง (Colostrum) หรือนมแม่ที่หลั่งออกมาในช่วง 1-3 วันแรกหลังคลอดมีความสำคัญต่อทารกเป็นอย่างมาก อุดมด้วยสารอาหารอย่างเข้มข้น เช่น แลคโตเฟอร์ริน, MFGM, DHA มีประโยชน์ต่อทารกอย่างรอบด้าน ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต รวมถึงพัฒนาการทางสมอง และที่สำคัญที่สุด น้ำนมเหลืองนั้นเปรียบเสมือน “วัคซีนธรรมชาติ” จากอกแม่สู่ลูกน้อย เพราะมีภูมิคุ้มกันสูง

 

 

น้ำนมเหลือง วัคซีนธรรมชาติจากอกแม่สู่ลูกน้อย

น้ำนมเหลืองนั้นคือสุดยอดนมแม่ เปรียบเสมือนวัคซีนธรรมชาติจากอกแม่สู่ลูกน้อย มีภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ อยู่มาก ช่วยต่อต้านเชื้อโรค ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย รวมทั้งช่วยป้องกันแบคทีเรียในลำไส้ของทารกได้ มีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า ทารกที่ได้กินนมแม่ล้วน ๆ ในตั้งแต่ระยะแรก ๆ ไปจนถึงช่วง 6 เดือนจะมีสุขภาพดี เพราะน้ำนมเหลืองนั้นจะช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ท้องเสีย และการแพ้ต่าง ๆ ให้แก่เด็กได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ดังนั้นคุณแม่มือใหม่ ควรจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องน้ำนมเหลืองนี้เอาไว้ และเมื่อทราบถึงประโยชน์ของน้ำนมเหลืองนี้แล้ว ก็ไม่ควรบีบน้ำนมเหลืองทิ้งไปนะ

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แลคโตเฟอร์ริน สารอาหารสำคัญในน้ำนมเหลือง พิสูจน์แล้วว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

น้ำนมเหลืองอุดมด้วยสารอาหารสำคัญจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ “แลคโตเฟอร์ริน” ซึ่งเป็นโปรตีนที่พบมากในนมแม่ มีสัดส่วนสูงถึง 15-20% ของโปรตีนทั้งหมด โดยจะมีปริมาณสูงที่สุดในระยะน้ำนมเหลือง

พิสูจน์แล้วว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย

  • ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
  • แลคโตเฟอร์รินมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคที่เป็นอันตรายได้โดยตรง โดยแลคโตเฟอร์รินนั้นจะไปดึงธาตุเหล็กที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของแบคทีเรียก่อโรคในทารก ทำให้เชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นไม่สามารถเจริญเติบโตหรือเพิ่มจำนวนได้ และถูกกำจัดออกจากร่างกายในที่สุด ดังนั้นจึงช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย
  • กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ลดโอกาสการติดเชื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ
  • ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร ด้วยการเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สุขภาพ และทำให้ผนังลำไส้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดท้องเสีย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

แลคโตเฟอร์รินช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กผ่าคลอด

เด็กผ่าคลอดอาจมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ เนื่องจากไม่ได้รับจุลินทรีย์ชนิดดีผ่านทางช่องคลอดแม่ จึงทำให้มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายกว่า คุณแม่สามารถฟื้นฟูภูมิคุ้มกันให้ลูกได้ตั้งแต่แรกคลอดด้วยการให้นมแม่ เพราะมีสารอาหารที่ส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยเฉพาะใน “น้ำนมเหลือง” ที่มี “แลคโตเฟอร์ริน” ก็จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและลดโอกาสในการเจ็บป่วยให้เด็กผ่าคลอดได้เช่นกัน

 

สารอาหารอื่น ๆ ในน้ำนมเหลือง ที่มีประโยชน์กับลูก

นอกจากแลคโตเฟอร์รินแล้ว ในน้ำนมเหลืองนั้น ยังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ดีต่อสุขภาพและพัฒนาการที่รอบด้านของลูกน้อย ทั้งพัฒนาการสมอง ภูมิคุ้มกัน และระบบทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็น

  • MFGM (Milk Fat Globule Membrane) เยื่อหุ้มอนุภาคไขมันที่พบได้ในนมแม่ ประกอบด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิดที่มีประโยชน์ต่อลูกรัก เช่น ฟอสโฟลิปิด สฟิงโกไมอีลิน แกงกลิโอไซด์ มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง ภูมิคุ้มกัน และระบบทางเดินอาหาร มีงานวิจัยรองรับว่าถ้าเด็กได้รับนมแม่ซึ่งมี MFGM อย่างเพียงพอในช่วงขวบปีแรกจะช่วยพัฒนาสมอง ให้มีทั้ง IQ และ EQ ที่สูงกว่าเด็กที่ไม่ได้รับ MFGM
  • DHA กรดไขมันจำเป็นที่มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการสมองและการมองเห็นของลูก ช่วยให้การส่งสัญญาณประสาทมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้เร็ว
  • 2’-FL ใยอาหารชนิดที่พบได้มากที่สุดในนมแม่ เป็นอาหารที่สำคัญของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ใหญ่ ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดี และยับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรค ป้องกันการติดเชื้อของลำไส้ และยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย

 

 

ถ้าน้ำนมเหลืองน้อย คุณแม่ควรทำอย่างไร

เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่า นมแม่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทารก โดยเฉพาะน้ำนมเหลืองที่เป็นนมแม่ส่วนที่ดีที่สุดที่ลูกน้อยไม่ควรพลาด อย่างไรก็ตาม อาจมีคุณแม่บางคนที่ไม่สามารถให้นมลูกได้ตามที่ต้องการ เช่น มีโรคเสี่ยงต่อการส่งต่อเชื้อสู่ทารก ตัวอย่างเช่น ไวรัสตับอักเสบเอและบี รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น การรับยาบางชนิด หรือการตรวจพบนิโคตินในร่างกาย เป็นต้น

อีกหนึ่งปัญหาที่คุณแม่อาจพบ คือ การที่ร่างกายของคุณแม่ผลิตน้ำนมเหลืองได้น้อยมาก ซึ่งน้ำนมเหลืองจะพบได้เพียง 1-3 วันหลังคลอดเท่านั้น แต่ปริมาณของน้ำนมเหลืองจะมีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสุขภาพของคุณแม่แต่ละคนด้วย

วิธีการรับมือที่ดีที่สุด คือ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาแนวทางแก้ไข หรือแนะนำนมสูตรที่มีสารอาหารที่พบในน้ำนมเหลือง เช่น แลคโตเฟอร์ริน หรือ MFGM เป็นต้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

 

24 ชั่วโมงแรก หากพอมีน้ำนม แม้ไม่มาก ก็อาจเพียงพอต่อทารก

อย่างไรก็ตามคุณแม่อย่ากังวลมากเกินไป หากพบว่ามีน้ำนมเหลืองน้อยหลังคลอด เพราะความจริงแล้ว อาจเพียงพอต่อความต้องการของทารกแรกเกิด เนื่องจากทารกแรกเกิด 24 ชั่วโมงแรกมีขนาดของท้องเล็กมากนั่นเอง แต่ก็ควรรับคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อรับมือในช่วงต่อ ๆ ไป เพื่อป้องกันปัญหาการให้นมลูกน้อย

ที่สำคัญ แม้ลูกจะมีอายุเกิน 6 เดือนขึ้นไปแล้ว การได้รับสารอาหารที่พบได้ในน้ำนมเหลืองนั้น ก็ยังคงส่งผลดีต่อภูมิคุ้มกันของลูกในระยะยาวเช่นกัน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญให้ลูกมีพัฒนาการโดยรวมที่ดีกว่าในอนาคต

 

หากคุณแม่ต้องการค้นหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแลคโตเฟอร์ริน หรือน้ำนมเหลือง สามารถดูได้ที่นี่ คลิก

 

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิธีนวดกระตุ้นน้ำนมไม่พอ เทคนิคสำคัญช่วยแก้ปัญหาท่อน้ำนมอุดตัน

สีน้ำนมแม่ น้ำนมใส ที่ปั๊มออกมา ลูกจะกินได้ไหม ทำไมนมแม่มีหลายสี

วิธีกระตุ้นน้ำนม ให้มีน้ำนมเยอะ ๆ สำหรับแม่มือใหม่กลัวน้ำนมน้อย ลูกไม่พอกิน

ที่มา :

webmd, mommyliciousjuice

บทความโดย

Sutthilak Keawon