นิทานสำหรับลูกในท้อง พ่อแม่อ่านเถอะ อ่านแล้วดีต่อลูกในท้อง

พัฒนาการทางสมองของลูกน้อย พ่อแม่สามารถสร้างให้ลูกได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์เลยนะคะ ด้วยวิธีง่าย ๆ คือการหยิบหนังสือนิทานซักเล่มมาเปิดอ่านให้ลูกในท้องฟังนี่แหละ แม้ตอนนี้ลูกยังไม่เห็นภาพ แต่ทารกในท้องนั้นสามารถได้ยินและรับรู้เรื่องราวต่างๆ จากน้ำเสียงที่พ่อแม่เล่าได้นะคะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นิทานสำหรับลูกในท้อง อ่านแล้วทำให้ลูกในท้องสมองดี

มีข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า สมองของทารกเมื่อครบอายุครรภ์ 20 สัปดาห์นั้นจะเริ่มมีการพัฒนาการ สามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆ ได้ การเริ่มพูดกับลูก เล่านิทานให้ลูกฟัง จะช่วยทำให้ลูกในครรภ์มีพัฒนาการด้านสมองและด้านความคิดมากขึ้น หนังสือหรือ นิทานสำหรับลูกในท้อง ที่พ่อแม่จะเลือกอ่านให้เบบี๋ในท้องฟัง ควรมีเนื้อหาที่ไม่หนักแน่น และใช้คำพูดเล่าเรื่องด้วยนำเสียงที่อ่อนโยน

การอ่านหนังสือและคุยกับลูกตั้งแต่ในครรภ์จะมีส่วนช่วยกระตุ้นด้านประสาทสัมผัสของลูกน้อย และสร้างวงจรในสมองของลูกได้ดี โดย พญ.จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง กล่าวว่า “ประโยชน์ของการอ่านหนังสือกับสมองของลูกนั้น สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างวงจรต่าง ๆ ในสมองของลูกตั้งแต่เริ่มต้นได้ดี” ทั้งการได้ยินเสียงจากพ่อแม่ ความรู้สึกภายในที่มีต่อพ่อแม่ และได้รับความรักจากการลูบสัมผัสผ่านหน้าท้อง สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกในท้องคุ้นเคยกับพ่อแม่ได้ตั้งแต่ยังไม่คลอด

"ประโยชน์จากการการอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่อยู่ในท้อง เด็กจะมีความจำเกี่ยวกับคำ แม้ว่าเด็กจะไม่ได้ยิน แต่เด็กจะคุ้นชินกับคำ และประโยคที่พ่อแม่อ่านให้ฟัง ยิ่งถ้าพ่อแม่มีการต่อยอดหลังลูกคลอดออกมา เด็กก็จะยิ่งมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีขึ้น และเรียนรู้ได้เร็วขึ้น" โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำแบบนี้ซ้ำ ๆ สอนลูกก่อนถึง 3 ขวบเท่าไหร่ ลูกจะมีชุดคำเป็นหมื่น ๆ ในสมอง ซึ่งจะมีผลต่อสติปัญญาของเด็กอย่างมาก

หนังสือนิทานประเภทไหนเหมาะสำหรับอ่านให้เบบี๋ในท้องฟัง

คุณแม่ซื้อเตรียมไว้เลยอ่านให้ลูกในท้องฟังวันนี้เก็บไว้ใช้ได้จนหลังคลอด เป็นหนังสือประเภทไหนก็ได้ นิทานชาดกที่มีคติสอนใจ หรือจะเป็นนิทานในเทพนิยาย ที่มีเนื้อหาเข้าใจง่ายและไม่เครียด

ตัวอย่างนิทานที่เหมาะสำหรับอ่านให้ลูกในท้องฟัง คลิก!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ทั้งนี้นอกจากการอ่านหนังสือ คุณพ่อคุณแม่อ่านจะเปลี่ยนมาเป็นการพูดคุยกับลูกพร้อมลูบท้องเบา ๆ ความอ่อนโยน ละเมียดละไมจากสัมผัส และน้ำเสียงอันอ่อนโยนที่เปี่ยมด้วยความรัก จะเป็นการสร้างภาวะอารมณ์ทางบวกให้กับลูก ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นสมองทั้งอารมณ์และความคิดได้อย่างง่าย ๆ โดยไม่ผ่านกิจกรรมที่ซับซ้อน อันจะเป็นฐานของการสร้างความฉลาดทางอารมณ์และสติปัญญาได้ตั้งแต่แรกเกิด

รู้อย่างนี้แล้ว พ่อแม่อย่ารอช้านะคะ หาหนังสือนิทานมาอ่านให้ลูกในท้องฟังกันค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรระวังคือ หลีกเลี่ยงการดูโทรทัศน์ระหว่างตั้งครรภ์หรือเปิดให้ลูกดูเป็นประจำก่อนวัย 6 ขวบ เพื่อให้สมองของลูกพัฒนาไปตามธรรมชาติ ไม่ถูกกระตุ้นด้วยภาพและเสียงมากเกินไป อันจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กสมาธิสั้นได้นะคะ

หากเห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ ร่วมแชร์และแบ่งปันประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ ไปให้ถึงคุณแม่อ่านอื่น ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อ ๆ กันนะคะ 

วิธีเล่นกับลูกในท้อง ยิ่งเล่น ลูกยิ่งฉลาดตั้งแต่อยู่ในครรภ์นะจ๊ะ

มีข้อสังเกตว่า ทารกที่ได้รับการกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เมื่อคลอดออกมาแล้วจะเลี้ยงง่าย อารมณ์ดี ฉลาด หัวไว เรามาดูกันว่า วิธีเล่นกับลูกในท้อง กระตุ้นพัฒนาการแบบง่ายๆ มีอะไรบ้าง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิธีเล่นกับลูกในท้อง

1. คุยกับลูกในท้อง

ทราบหรือไม่ว่า ทารกสามารถได้ยินเสียงได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ซึ่งระบบการได้ยินของลูก จะเริ่มพัฒนาเมื่ออายุครรภ์ได้ 24 – 26 สัปดาห์ขึ้นไป โดยลูกน้อยจะเริ่มได้ยินเสียงหัวใจ และเสียงของคุณแม่ และเริ่มจดจำเสียงของคุณแม่ได้ เพราะฉะนั้น การคุยกับลูกตั้งแต่ที่เค้ายังอยู่ในท้องจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่กับลูกน้อย

หากตั้งชื่อลูกไว้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะเริ่มเรียกชื่อลูก หรือหากยังไม่ได้ตั้งชื่อ ก็อาจจะเรียกเค้าว่า เจ้าตัวเล็ก หรือเบบี๋ก็ได้ พูดกับลูกว่าคุณกำลังทำอะไร อยากโชว์อะไรให้ลูกรู้ก็พูดได้เลยค่ะ และเมื่อลูกเกิดมา ลูกก็จะจำเสียงของคุณแม่ได้ และรู้สึกถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่น ที่เกิดจากการพูดคุย อีกทั้งยังจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการการได้ยิน และช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของลูกได้อีกด้วย แต่อย่าไปเล่า หรือพูดเรื่องเครียดๆอย่างเช่น ไม่มีเงิน หรือถูกหวยกินให้ลูกฟังนะค่ะ เดี๋ยวลูกจะพลอยเครียดตามไปด้วย

2. อ่านหนังสือให้ลูกฟัง

การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง ตั้งแต่เค้ายังอยู่ในท้อง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกในท้อง คุณแม่อาจจะอ่านหนังสือนิทาน พร้อมทำท่า หรือใช้นิ้วทำท่าปูไต่ หรือใช้นิ้วทำท่าคนเดินบนหน้าท้องเพื่อเล่นกับลูก โดยอาจจะอ่านออกเสียงให้ลูกได้ยิน เพื่อที่เค้าจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆไปในตัว

3. เปิดเพลงฟัง ฮัมเพลงไปกับลูก

ลองเปิดเพลงเบาๆ แล้วร้องเพลง หรือฮัมเพลงคลอไปกับเสียงเพลง หรือคุณแม่อาจจะนั่งลงพร้อมใส่หูฟังที่ท้อง และเปิดเพลงให้ลูกฟัง ซึ่งเพลงที่เปิดนั้นไม่ใช่แค่เพียงเพลงกล่อมเด็ก หรือเพลงคลาสสิคเท่านั้น แต่คุณแม่สามารถเปิดเพลงปกติที่คุณแม่ชอบฟัง เพื่อให้ลูกได้ฟังไปด้วยก็ได้นะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพลงป๊อป เพลงลูกทุ่ง หรือเพลงสากลก็ได้ และคุณแม่ก็อาจจะรู้สึกได้ว่าลูกดิ้นตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน แถมยังช่วยคลายเครียดให้กับแม่ท้องได้อีกด้วย

4. เล่นกับลูกด้วยการลูบท้อง

ในช่วงใกล้คลอดนั้น แม่ท้องมักจะชอบลูบคลำท้องเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการลูบท้องนั้น จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของทารกในครรภ์ ให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ในเวลาที่คุณพ่อ หรือคุณแม่ ลูบหรือสัมผัสทารกในครรภ์ผ่านทางหน้าท้องนั้น ผิวของทารกจะสัมผัสกับผนังด้านในของมดลูก และบางครั้งแม่ท้องอาจจะรู้สึกได้ว่า ลูกน้อยเคลื่อนไหวโต้ตอบ หรือลูกมีการขยับตัวไปตามมือที่ลูบท้อง หรืออาจจะรู้สึกว่าลูกเตะขาเพื่อโต้ตอบ เหมือนลูกกำลังเล่นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่

นอกจากนั้นแล้ว การลูบหน้าท้อง ยังเป็นการส่งผ่านความรู้สึกไปยังลูกในท้อง ซึ่งวิธีการลูบท้องนั้น อาจจะลูบเป็นวงกลม จากบนลงล่าง หรือจากล่างขึ้นบน บริเวณไหนก่อนก็ได้นะค่ะ ที่สำคัญ อย่าลืมใช้หัวใจและความรู้สึกส่งผ่านมือตอนที่ลูบไปด้วยนะค่ะ

5. เล่นจ๊ะเอ๋กับลูกโดยใช้ไฟฉาย

นี่คือเกมที่อาจจะสนุกที่สุด ที่คุณแม่สามารถเล่นกับลูกในท้องได้! โดยคุณแม่อาจจะใช้ไฟฉาย ส่องไฟลงไปบริเวณหน้าท้อง เพื่อกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็น โดยการเล่นแบบนี้จะยิ่งได้ผลดีเมื่อลูกเริ่มดิ้นในท้อง แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องเล็งให้แสงเข้าตรงกับลูกตาของลูก เพียงแค่ส่องให้ลูกรู้ว่ามีแสงส่องเข้ามาก็พอแล้ว

เวลาที่เล่นจ๊ะเอ๋กับลูกโดยใช้ไฟฉาย หลายครั้งลูกจะเคลื่อนไหวตามแสงไฟ หากลูกน้อยมีการตอบสนอง เช่น เตะ หรือดิ้น นั่นก็หมายความว่าเค้าสามารถรับรู้ได้ และเกิดการตอบสนองนั่นเองค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับไฟฉายนั้น ควรเป็นแบบ 2 ท่อน หรือ 3 ท่อน หลอดธรรมดา ห้ามใช้แบบหลอดแรงสูงเด็ดขาด เพราะแสงที่จ้าเกินไป แทนที่จะเป็นผลดี แต่กลับจะทำให้เกิดอันตรายต่อจอประสาทตาของทารกได้

วิธีเล่นกับลูกในท้องดังที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากจะช่วยในเรื่องพัฒนาการต่างๆของทารกตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์แล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่และลูกในท้องได้อีกด้วยนะค่ะ


อ้างอิงข้อมูล : www.manager.co.th

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

แม่ท้องอ่านหนังสือเสริมความฉลาดทารกตั้งแต่ในครรภ์

ความสำคัญของการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Napatsakorn .R