5 เรื่องจริงที่น่าอัศจรรย์ของ ทารกในครรภ์
คุณแม่รู้มั้ย.. ลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์รอเวลาที่จะออกมาลืมตาดูโลก เขาทำอะไรอยู่ในท้องคุณแม่กันบ้าง อยากรู้อยากเห็นกันบ้างไหมค่ะว่าพัฒนาการของ ทารกในครรภ์ เป็นอย่างไร?
#1 หนูได้ยินเสียงคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์เลยนะ
เมื่อทารกในครรภ์อายุ 16 สัปดาห์ โครงสร้างของหูเริ่มที่จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเพียงพอที่จะรับเสียงต่าง ๆ ได้ ในตอนนี้แหละที่หนูน้อยจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของแม่ เสียงการกินและการย่อยอาหาร เสียงหายใจ เสียงเดิน เสียงพูดคุย เสียงดนตรี เสียงจากการออกกำลังกาย และอื่น ๆ ที่ผ่านเข้ามาจากผนังหน้าท้อง ทารกยังเรียนรู้ในการแยกแยะเสียงต่าง ๆ ในขณะที่ยังอยู่ในครรภ์อีกด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณแม่และคุณพ่อ จึงควรที่จะเริ่มพูดคุยกับลูกน้อยได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นอกจากพัฒนาการที่จะได้รับการถูกกระตุ้นแล้ว ลูกน้อยยังคุ้นชินเสียงของพ่อแม่ก่อนเกิดอีกด้วยนะคะ
#2 หนูสามารถมองเห็นแสงจากภายนอกได้
ในช่วงอายุครรภ์สัปดาห์ที่ 26 และ 28 ดวงตาของทารกน้อยในครรภ์จะมองเห็นลาง ๆ แต่พวกเขาสามารถที่จะมองเห็นแสง อย่างแสงจากไฟฉายที่ส่องมาบนหน้าท้องของแม่ หรือแสงจากความสว่างภายนอกบ้านที่จ่ะช่วยกระตุ้นการมองเห็นของลูกในครรภ์ได้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนได้แนะนำให้คุณแม่ได้ออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ่อย ๆ เพื่อช่วยให้ดวงตาของลูกน้อยพัฒนาขึ้น
#3 หนูรับรู้รสชาติของอาหารที่แม่ทานเข้าไปได้นะ
ต่อมรับรสของทารกในครรภ์นั้นเริ่มพัฒนาขึ้นในประมาณสัปดาห์ที่ 11 และสมบูรณ์เต็มที่ราวสัปดาห์ที่ 28 – 29 รสชาติจากอาหารที่แม่ทานจะถูกส่งผ่านไปยังสายรกที่ติดอยู่กับผนังด้านในของมดลูกเชื่อมระหว่างมดลูกของแม่และต่อไปยังสายสะดือเข้าสู่ลูก นักวิทยาศาสตร์บางส่วนนั้นเชื่อว่าทารกในครรภ์นั้นยังสามารถได้กลิ่นของอาหารด้วยเช่นกัน
เรื่องจริงที่ทารกในครรภ์รู้สึก
#4 อะไรที่แม่จ๋ากินเข้าไปนั้นจะส่งผลกับความชอบอาหารในอนาคตของหนูด้วย
จากการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าถ้านั้นหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด ทารกน้อยก็จะมีโอกาสที่จะทำเช่นเดียวกันในอนาคต อย่างเช่นแม่ที่ชอบกินผักตอนท้อง ก็จะมีส่วนที่ช่วยปลูกฝังนิสัยกินผักให้กับทารกตั้งแต่ในครรภ์ได้ อะไรก็ตามที่แม่ได้ทานตั้งแต่ลูกน้อยยังอยู่ในครรภ์จนถึงช่วงที่ทารกกินนมแม่ นอกจากสุขภาพแข็งแรงที่ลูกจะได้รับสารอาหารเหล่านี้ผ่านจากรกและน้ำนมคุณแม่โดยตรงแล้ว ยังมีแนวโน้มที่จะส่งผลถึงความชอบของทารกตามคุณแม่เมื่อโตขึ้นมาด้วยนะคะ นักวิจัยจึงสรุปได้ว่า รูปแบบการทานอาหารของแม่จะสามารถส่งผลถึงลักษณะนิสัยการทานอาหารของลูกน้อยได้ด้วย
#5 อยู่ในท้องหนูก็รับรู้อารมณ์แม่ได้นะ
งานวิจัยจาก Psychological Science พบว่า เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เข้าสู่เดือนที่ 6 ลูกในครรภ์จะสามารถรับรู้อารมณ์ของคุณแม่ได้ ถ้าแม่มีความเครียด มีอารมณ์เศร้า ที่เรื้อรังยาวนานนั้นก็จะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ลูกในท้องเต็ม ๆ ได้ค่ะ มีรายงานพบว่า แม่ที่มีภาวะเครียดในระหว่างตั้งครรภ์ จะส่งผลทำให้ลูกน้อยที่คลอดออกมามีอารมณ์ซึมเศร้า และไวต่อการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ง่าย มีผลถึงปัญหาทางจิตใจ และการปรับตัวทางสังคมของลูกตามมาได้เช่นกัน ดังนั้นทางที่ดีในระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่อย่าพยายามเครียด หากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายและสร้างความสุข เพื่อตัวเองและลูกในท้องนะจ๊ะ
credit content : sg.theasianparent.com
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
ต้องรู้! การดิ้นของทารกในครรภ์ 8 เดือน มีผลทำให้ท้องแข็งและคลอดก่อนกำหนดได้
ภาวะ แท้งค้าง ยากที่จะรู้ได้ว่าทารกในครรภ์เสียชีวิตมานานเท่าไหร่แล้ว