ดื่มชาตอนท้องดีหรือไม่
ก่อนท้องคุณแม่หลาย ๆ คนมักจะชอบดื่มชา กาแฟจนเรียกว่าติดแล้วหละ เมื่อถึงเวลาที่ตั้งครรภ์จริง ๆจะให้เลิกดื่มไปเลยก็คงยาก ปกติสำหรับแม่ท้องแล้ว เป็นที่รู้กันดีว่าไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณคาเฟอีนเกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะจะทำให้แท้งง่ายค่ะ แต่สำหรับแม่ท้องที่ชอบดื่มชามาดูกันว่า ดื่มชาตอนท้องนั้นดีหรือไม่
ชาเขียว
ชาเขียว ในแง่ของคาเฟอีนนั้น ไม่ใช่ไม่มีเลยนะค่ะ เพียงแต่ปริมาณต่อ 1 ถ้วยอยู่ที่ประมาณ 10-50 มิลลิกรัมเท่านั้น ถ้าเทียบแล้วแตกต่างกับกาแฟลิบลับ ดังนั้น ชาเขียวจึงไม่ใช่ข้อห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพียงแต่ไม่ควรดื่มบ่อยนัก
ชาสมุนไพร
ชาสมุนไพร แม้จะไม่มีคาเฟอีนแต่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะสมุนไพรหลายชนิดยังไม่มีการศึกษาความปลอดภัยในคนตั้งครรภ์ยกเว้น ชาเปปเปอร์มินต์ และชาขิง ซึ่งช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง และจัดว่าปลอดภัย
ชาสมุนไพรนิยมดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพ และเป็นยาแก้อาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ มากกว่าค่ะ ไม่มีคาเฟอีน และส่วนใหญ่มีวิธีทำง่าย ๆ โดยหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตากลมจนแห้ง แล้วค่อยเก็บใส่โหลมิดชิด เมื่อต้องการดื่มก็นำมาชงกับน้ำร้อนแล้วกรอง ปรุงรสด้วยน้ำผึ้งก็ได้ค่ะ
– ชาขิง แก้คลื่นไส้อาเจียน
– ชาตะไคร้ ช่วยย่อยอาหาร แก้วิงเวียน
– ชาใบเตย ช่วยคลายร้อนหอมชื่นใจ และลดน้ำตาลในเลือด
– ชามะตูม มีกลิ่นหอมหวานบำรุงธาตุ แก้ร้อนใน
– ชาโป๊ยกั๊ก ชาโป๊ยกั๊ก หรือโป๊ยกั๊กที่เป็นเครื่องเทศในผงพะโล้ มีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง อาเจียน และช่วยย่อยอาหารย่อยยาก ปรับการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกติ
– ชาเปปเปอร์มินต์ มีคุณสมบัติช่วยเร่งการย่อยอาหารให้เร็วขึ้น ทำให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉง สดชื่น
– ชากุหลาบ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ช่วยลดการอักเสบของผิว อุดมไปด้วยวิตามิน A, B3, C, D และ E ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลผิวพรรณ
รู้ไว้!!!!ชาดอกคำฝอย ต้องห้ามสำหรับคนท้อง
ชาดอกคำฝอย ชาสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่มีผู้นิยมดื่ม มีสรรพคุณมากมายที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ช่วยบำรุงระบบประสาท ลดความเครียด ช่วยบำรุงหัวใจ และบรรเทาอาการโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดไขมันในเส้นเลือด ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น ป้องกันอาการโรคความดันโลหิตสูงแก้หวัดคัดจมูก ขับเสมหะ และสามารถแก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติได้อีกด้วย
จากสรรพคุณทั่วไปอาจจะดูว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่สรรพคุณในเรื่องแก้ประจำเดือนมาไม่ปรกติ คือ การขับเลือดนั่นเอง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์สามารถทำให้มดลูกเกิดการบีบตัว ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับแม่ตั้งครรภ์ จึงเป็นเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่เองและทารกน้อยในครรภ์ค่ะ
ผลของคาเฟอีนที่มีต่อแม่ท้องและทารกในครรภ์
1. คาเฟอีนมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ โดยขับน้ำและแคลเซียมออกจากร่างกาย ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของแม่และทารกในครรภ์
2. ในการดื่ม ชา กาแฟ มักจะผสมครีมเทียมและน้ำตาล ซึ่งครีมเทียมและน้ำตาลนั้นไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของแม่ ส่วนการดื่มน้ำอัดลมบางชนิดก็มีสารคาเฟอีน หรือสารเคมีอื่นผสมอยู่อีกด้วย
3. คาเฟอีนจะทำให้นอนหลับยากขึ้น ซึ่งการนอนหลับพักผ่อนที่พอเพียงเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการเติบโตของทารกในครรภ์
4. คาเฟอีนจะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กที่เป็นสารสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
5. มีงานวิจัยพบว่า การดื่มคาเฟอีนที่มากเกินขนาดมีผลให้หัวใจของทารกในครรภ์เต้นเร็วผิดปกติ และอาจมีการชักกระตุก และมีภาวะโรคเบาหวานในเวลาต่อมา
เรื่องน่ารู้ วิธีลดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
คุณแม่สามารถลดอาการหงุดหงิดจากการติดคาเฟอีนได้โดยในช่วงเริ่มต้น ควรลดปริมาณลงทีละน้อย จนไม่ต้องดื่มเลย หรืออาจจะใช้วิธีดื่มกาแฟที่สกัดคาเฟอีนออก แทนการดื่มกาแฟปกติ นอกจากนี้ควรพยายามรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ด้วยการกินอาหารบ่อยขึ้น เลือกกินโปรตีนเพิ่มขึ้น ทานอาหารพวกแป้งและน้ำตาลให้มากพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็จะสามารถช่วยลดอาการที่เกิดจากการขาดคาเฟอีนลงได้ และหายไปในที่สุดค่ะ
เครื่องดื่มสำหรับแม่ท้องทางที่ดีไม่ควรมีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ แม้จะไม่ได้เป็นข้อห้ามแต่เพื่อความปลอดภัยต่อแม่ท้องและทารกในครรภ์ ลองหันมาดื่มเครื่องดื่มประเภทอื่นทดแทนจะดีกว่าค่ะ คุณแม่ท่านไหนมีสูตรทำน้ำผลไม้อร่อย ๆ หรือสูตรสมูทตี้ ในช่วงหน้าร้อน นำมาแชร์กันก็ได้นะคะเพื่อเป็นประโยชน์ต่อแม่ท้องคนอื่น ๆ ด้วยค่ะ
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์
เคล็ดไม่ลับ กินชาเขียวอย่างไรช่วยทำให้พุงยุบชัวร์ ๆ