สภาพดิบๆ ของ ชีวิตแม่ลูกอ่อน เหน็ดเหนื่อย สุข และสงบปนๆ กันไป

ความเหน็ดเหนื่อยที่ของการเป็นแม่ที่จะต้องเจอตั้งแต่เริ่มแรกหลังคลอด และยาวนานไปตลอดในช่วง 2 ปีแรกที่คุณแม่จะต้องเจอกับความเหน็ดเหนื่อย ความสุข และความสงบปน ๆ กันไป

ชีวิตแม่ลูกอ่อน ในช่วง 2 ปีแรกต้องทำให้คุณแม่ยอมรับเลยว่ามันเป็นเรื่องที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตได้มากจริงๆ มันทำให้ชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งได้เปลี่ยนไปจากอีกคนกลายเป็นอีกคนเพราะสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในชีวิตนั่นคือการได้มี “ลูก”

สภาพดิบๆ ของ ชีวิตแม่ลูกอ่อน เหน็ดเหนื่อย สุข และสงบปน ๆ กันไป

คนเป็นแม่นั้นจะไม่ได้หลับ จนกว่าลูกจะได้หลับ จะไม่อิ่ม จนกว่าลูกจะได้กินอิ่ม และจะอุ้มลูกแบบไม่มีวันหมดแรงแม้จะล้าแขนมากขนาดไหน

องค์ประกอบทางกายภาพของการเป็นแม่นั้น ทำให้เราทึ่งได้ตั้งแต่การผลิตน้ำนมจากคนที่ไม่เคยมีน้ำนมไหลเพื่อให้ลูกได้ดูดนมแม่

ถ้าไม่นับจากการคลอดลูกแล้ว การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นเป็นหนึ่งในความสุขอันยิ่งใหญ่ในชีวิตของคนที่ได้เป็นแม่จริง ๆ แม้มันจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างมากด้วยเช่นกัน

และแน่นอนงานแม่จะมีวิวัฒนาการไปอย่างต่อเนื่องในตลอดช่วงชีวิตของลูก

นี่แหละที่เราจะได้เห็นภาพดิบ ๆ กันแบบชัด ๆ กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของแม่ ความหย่อนคล้อยของเต้านม ความเจ็บปวดบนผิวหนังจากการรอยหยิกและขีดข่วนที่เจ้าตัวน้อยได้ฝากไว้ให้ ช่วงเวลาของการเจ็บป่วย และอารมณ์แห่งความรักทั้งหมดที่ไหลพูนออกมา

หวังว่าเมื่อคนเป็นแม่ได้เห็นแล้ว จะรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง การแอบร้องไห้เพราะความเหนื่อยท้า อาการจิตตก ความท้อแท้จากการที่มีน้ำนมไม่เพียงพอต่อลูก กลายเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดาเพราะยังมีแม่อีกหลายคนบนโลกที่มีความรู้สึกเช่นเดียวไม่ต่างกับคุณ

Ogier-Bloomer ช่างภาพที่ได้ถ่ายทอดภาพตัวเองกับลูกน้อยในเซทนี้ออกมา ได้กล่าวว่า การที่เธอได้กลายมาเป็นแม่คนนั้นได้เปลี่ยนมุมมอง และความเข้าใจความรู้สึกต่อแม่ของตัวเองได้ลึกซึ้งมากขึ้น

แม่หลังคลอดก็ Strong ได้ ด้วย 5 วิธีดูแลตัวเองแบบง่ายๆ

แม่บางคนอาจจะคิดว่าหลังคลอดแล้วอะไรๆ ก็น่าจะเข้าที่เข้าทางขึ้น สุขภาพร่างกายที่เคยเปลี่ยนแปลงไปตอนตั้งท้องน่าจะกลับมาดังเดิม แต่จริงๆแล้ว หลังจากคลอดลูกแล้วก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย และจิตใจของแม่อย่างต่อเนื่อง แม่บางคนเลี้ยงลูกด้วยตัวเองเต็มตัว แม่บางคนต้องทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย ยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอลง และแน่นอนว่าเมื่อสุขภาพของแม่ไม่แข็งแรง ย่อมทำให้ดูแลลูกได้ไม่เต็มที่

1. พยายามขยับร่างกายเดินไปเดินมา

แม่บางคนอาจคิดว่าเมื่อคลอดลูกใหม่ๆ ร่างกายไม่แข็งแรง ควรอยู่กับที่ นั่งๆนอนๆ บนเตียง แผลจะได้หายไวๆ แต่แท้จริงแล้ว ยิ่งขยับร่างกายมากเท่าไหร่ ยิ่งดีกับร่างกายและแผลคลอดของแม่มากขึ้นเท่านั้นค่ะ เพราะจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และแผลฝีเย็บของคุณแม่สมานตัวเร็วขึ้นด้วย

แต่แนะนำว่า การเคลื่อนไหวร่างกายของคุณแม่ในช่วงแรกนั้น ควรเป็นไปอย่างระมัดระวัง ไม่เคลื่อนไหวเร็วจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการหน้ามืดได้ เนื่องจากระหว่างทำคลอดแม่เสียเลือดไปค่อนข้างมาก และพยายามอย่ายกของหนักๆ หรือทำอะไรที่จะเกิดการกระทบกระเทือนต่อมดลูกได้ค่ะ

2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ข้อนี้ต้องบอกว่าอาจจะยากสำหรับแม่หลายคนนะคะ ยิ่งแม่ๆ ที่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองอาจจะหาเวลานอนพักได้ยากซักหน่อย เพราะเจ้าตัวน้อยมักจะร้องงอแงเรียกหาแม่อยู่ตลอดเวลา ไหนจะต้องทำงานบ้านหรือธุระส่วนตัวอีก

แต่อยากให้แม่ๆ หาเวลานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวันค่ะ อาจจะอาศัยช่วงที่ลูกนอนหลับตอนกลางวัน หลับไปพร้อมกับลูกก็ได้ค่ะ อีกทริคนึงที่จะทำให้แม่มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น คือการให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเต็มที่ ให้เค้ากินจนอิ่ม (อิ่มแบบพอดีๆไม่แน่นท้องเกินไปนะคะจะทำให้เค้าหลับได้สบายและนานขึ้น ไม่ค่อยร้องงอแงด้วยค่ะ แม่หลังคลอดควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายของแม่ฟื้นตัวเร็วขึ้น และสภาพจิตใจก็จะแจ่มใสขึ้น พอแม่แข็งแรงอารมณ์ดีก็จะเลี้ยงลูกได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นนะคะ

3. กินอาหารที่มีประโยชน์ ดีทั้งกับตัวแม่และลูกน้อย

อาหารที่เหมาะกับแม่หลังคลอด คือ อาหารอ่อนๆ ที่ย่อยง่าย เพราะแม่หลังคลอดมักมีอาการท้องผูก และแม่ๆ ที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติจะยังไม่กล้าเบ่งหนักมากในช่วงนี้ แม่ควรเลือกกินอาหารที่มีใยอาหารสูง โดยเฉพาะแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ยิ่งต้องใส่ใจเรื่องอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเป็นพิเศษ

การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้ร่างกายของแม่ฟื้นตัวเร็ว ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอจากการตั้งครรภ์และการคลอดได้ นอกจากนี้ ยังทำให้ร่างกายของแม่มีสารอาหารที่เพียงพอในการผลิตน้ำนมให้ลูกอีกด้วยค่ะ

นอกจากเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว แม่ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เช่น อาหารรสจัด อาหารที่ปรุงไม่สุก อาหารหมักดอง เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือแม่บางคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมน้อยก็อาจจะกินอาหารที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นน้ำนมแม่ได้ เช่น ขิง หัวปลี ปลาแซลมอน ลูกซัด การกินอาหารที่มีโปรตีนสูง และดื่มน้ำเยอะๆ ก็ช่วยได้ค่ะ

4. ตรวจร่างกายหลังคลอด และไปพบหมอทันทีที่เกิดความผิดปกติ

แม่หลังคลอดบางคนไม่ยอมไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพตามนัด เพราะคิดว่าไม่จำเป็นอะไร ตอนนี้เราแข็งแรงดีแล้ว แต่ความจริงแล้วแม่ควรไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพ เช็คร่างกายในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังคลอด  เพื่อเช็คปากมดลูก อุ้งเชิงกราน รวมถึงฝีเย็บ หรือแผลผ่าคลอด เพื่อหาความผิดปกติต่างๆ และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเพื่อป้องกัน และรักษาได้ตั้งแต่ขั้นต้น

หากแม่คนไหนมีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น มีเลือดออกมากผิดปกติ น้ำคาวปลามีสีหรือกลิ่นผิดปกติ ปวดท้อง , ปวดหัว อย่างรุนแรงและนาน หรือมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ควรรีบไปพบคุณหมอทันทีค่ะ

5. ให้ลูกเข้าเต้า กินนมแม่บ่อยๆ มีแต่ดีกับดี

แม่ๆ รู้มั้ยคะว่าการให้ลูกเข้าเต้ากินนมแม่บ่อยๆ นอกจากจะทำให้ลูกได้กินนมแม่ได้เต็มที่แล้ว ยังดีกับร่างกายแม่ด้วยนะคะ เพราะการให้ลูกกินนมแม่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก โรคหัวใจ และโรคกระดูกพรุนได้

นอกจากนี้ ยังช่วยลดความการเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของแม่ ช่วยให้รูปร่างและน้ำหนักของแม่กลับสู่ปกติได้เร็วขึ้นด้วยค่ะ เพราะการให้นมลูกทำให้ร่างกายของแม่เผาผลาญพลังงานได้ถึง 500 กิโลแคลอรี่ต่อวันเลยนะคะ แม่คนไหนอยากกลับมาหุ่นดีไวๆ ต้องให้ลูกกินนมแม่เยอะๆ เลยค่ะ

แต่แม่บางคนอาจมีปัญหาน้ำนมน้อย น้ำนมไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูก แม้จะกินหัวปลี และไก่ผัดขิงจนแทบเบื่อ หรือให้ลูกเข้าเต้าบ่อยแค่ไหน ก็ยังมีน้ำนมได้ไม่เยอะเท่าที่ควร ก็อาจมองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประสิทธิภาพในการช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมมาเสริมอีกแรงได้ค่ะ อย่างเช่นมาดา (MADA) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยทั้งเรื่องสุขภาพโดยรวมของแม่และช่วยเพิ่มน้ำนมแม่ ได้แก่

  • ขิง : สมุนไพรชั้นยอดที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทำให้น้ำนมแม่ไหลดีขึ้น รวมถึงช่วยฟื้นฟูร่างกายของแม่ๆให้กลับมาแข็งแรงดีขึ้น
  • ลูกซัด : สมุนไพรเพิ่มน้ำนมที่ดีเยี่ยมและเห็นผลเร็วชัดเจน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล และไขมันในเลือดให้เป็นปกติ ช่วยลดอาการฮอร์โมนแปรปรวนของแม่หลังคลอดได้ด้วย
  • เห็ดหลินจือแดง : ช่วยล้างสารพิษที่ตกค้าง และเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  • แคลเซียม : แอสคอร์เบต วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้แผลของแม่ๆหายเร็วขึ้น
  • ซีตรัส ไบโอฟลาโวนอยล์ : จากพืชตระกูลส้ม เป็นแอนตี้อ็อกซิแดนท์ ช่วยป้องกันการแก่ก่อนวัย และช่วยเรื่องการไหลเวียนของโลหิต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการทำงานของวิตามินซี
  • เบต้ากลูแคน : เพิ่มภูมิคุ้มกัน และลดอาการภูมิแพ้
  • โอเมก้า3 : บำรุงระบบประสาทและสมอง ลดภาวะซึมเศร้าของแม่หลังคลอดได้

credit content :www.parentsone.com และ  www.huffingtonpost.com

บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :

ขอต้อนรับสู่ชีวิต มนุษย์แม่ลูกอ่อน สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงเปลี่ยนแปลงได้ครั้งใหญ่ในชีวิต

แม่ลูกอ่อนอ้วน 120 กก. ลดน้ำหนักหลังคลอด ได้หุ่นเซี้ยะ อย่างกับคนละคน เธอทำได้ไง!

บทความโดย

Napatsakorn .R