จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกในท้องแข็งแรง ร่างกายสมบูรณ์ดี ไม่มีอาการผิดปกติ สิ่งเหล่านี้คุณแม่อาจสังเกตด้วยตัวเองได้ค่ะ ในระหว่างรอไปตรวจกับคุณหมอ ถึงแม้ว่าวิธีการตรวจสุขภาพร่างกายของทารกในครรภ์คุณแม่จะสามารถทำได้ แต่ทางที่ดีคุณแม่ควรได้รับการตรวจอย่างละเอียดจากคุณหมอจะดีกว่าค่ะ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.ดูจากน้ำหนักตัวของคุณแม่
ช่วงเวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่บางคนก็อยากทานทุกอย่างที่ขวางหน้า บางคนกลับรู้สึกว่าม่อยากจะกินอะไรเอาสักอย่างเลย ต้องพยายามหาวิธีเพิ่มน้ำหนักเอาให้ได้ เนื่องจากว่าการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวคุณแม่ มีผลต่อเด็กในท้องนั่นเองค่ะ ซึงตัวเลขที่ดีที่สุดคือ คุณแมควรมีน้ำหนักเพิ่ม 13-15 กิโลกรัมในระหว่างที่ตั้งครรภ์ แต่ตัวเลขนี้ก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวคุณแม่ก่อนต้งครรภ์ด้วยนะคะ ซึ่งคุณแม่อาจดูตารางเทียบน้ำหนักได้ที่ ตารางน้ำหนักทารกในครรภ์
2.ระดับฮอร์โมน
เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป คือ ฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนเป็นตัวการที่ทำให้คุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านร่างกาย และอารมณ์ค่ะ ซึงระดับฮอร์โมนที่สำคัญที่ต้องดูเราเรียกว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน โดยปกติแล้วคนท้องควรมีค่าฮอร์โมนเอสโตรเจนประมาณ 1,200 กรัม เพื่อที่จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของมดลูก และช่วยให้ทารกในครรภ์มีสุขภาพที่ดีด้วยค่ะ
3.หน้าท้องของคุณแม่
ขนาดหน้าท้องก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถบอกได้ว่าลูกในท้องแข็งแรงหรือไม่ค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าลูกในท้องจะมีขนาดตัวเล็กหือใหญ่ เพราะบางคนก็มีหน้าท้องที่เล็กแม่จะตั้งครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว แต่กลับบ้านคนท้องใหญ่แล้วแม้จะตั้งครรภ์เพียงไม่กี่เดือน และถ้าเป็นครรภ์แฝดขนาดท้องก็จะใหญ่กว่าท้องลูกคนเดียว ซึ่งขนาดของหน้าที่อาจต้องให้คุณหมอเป็นคนช่วยดูค่ะ
4.การเต้นของหัวใจ
ลักษณะการเต้นของหัวใจ มีส่วนสำคัญกับลูกในท้องเป็นอย่างมาก ซึ่งอัตราการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ควรอยู่ระหว่าง 110 – 160 ครั้งต่อวินาทีค่ะ เนื่องจากว่าเป็นอัตราที่บบ่งบอกว่าทารกมีการเจริญเติบโตที่ดี ซึ่งในแต่ละไตรมาสตำแหน่งการตรวจอัตราการเต้นของหัวใจลูกก็จะแตกต่างกัน คุณแม่ไม่ต้องตกใจนะคะถ้าลองฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์แล้วไม่ได้ยิน คุรแม่อาจจะหาตำแหน่งของทากไม่เจอค่ะ แต่สำหรับคุณแม่ไตรมาสสุดท้ายแล้ว สามารถฟังเสียงหัวใจตรงท้องตำแหน่งไหนก็ได้ค่ะ เนื่องจากน้องมีขนาดตัวที่ใหญ่แล้ว ทำให้ฟังเสียงได้ง่ายขึ้นค่ะ
5.การดิ้นของทารกในครรภ์
การเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่จะบอกได้ว่าลูกในท้องปกติดีไหม ในช่วงอายุครรภ์ตั้งแต่ 16 – 20 สัปดาห์ขึ้นไป การที่ทารกดิ้นน้อยลง มักเกิดร่วมกับภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง และอยู่ในภาวะอันตราย โดยทารกจะดิ้นน้อยลงหรือหยุดดิ้นเป็นเวลา 12 – 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะเสียชีวิต สำหรับคุณแม่ที่อยู่ในช่วงใกล้คลอด หากรู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลงก็ไม่ต้องตกใจนะคะ เป็นเรื่องปกติ และถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแสดงว่าทารกเตรียมพร้อมใกล้คลอดแล้วค่ะ
ที่มา: boldsky
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
คนท้องเดินทางไกลได้ไหม ต้องทำอย่างไร คนท้องกี่เดือนห้ามเดินทางไกล
วิธีป้องกันคลอดก่อนกำหนด คลอดก่อนกําหนด อาการอย่างไร แม่ท้องกลัวลูกคลอดก่อนกำหนด
คนท้องเวียนหัว หน้ามืด เกิดจากอะไร มีวิธีแก้อาการวูบบ่อยไหม