ลูกจะกลายเป็นเด็กที่มี "ความพยายาม" มากขึ้น ถ้าเห็นว่าพ่อแม่พยายามมากแค่ไหน

ลูกจะกลายเป็นเด็กที่มี "ความพยายาม" มากขึ้น ถ้าเห็นว่าพ่อแม่พยายามมากแค่ไหน จงเหนื่อยจงพยายามให้ลูกเห็น สามารถทำได้ค่ะ เพราะมันคือทักษะที่ดีต่อลูกนั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลูกจะกลายเป็นเด็กที่มี “ความพยายาม” มากขึ้น ถ้าเห็นว่าพ่อแม่พยายามมากแค่ไหน

ลูกจะกลายเป็นเด็กที่มี “ความพยายาม” มากขึ้น ถ้าเห็นว่าพ่อแม่พยายามมากแค่ไหน อ้างอิงจากผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT ที่ตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ (Science)

ไม่ใช่แค่เด็กโต แต่เด็กเล็กก็ด้วย

งานวิจัยที่ผ่านมาหลายต่อหลายชิ้นมักจะเก็บข้อมูลนี้จากเด็กในวัยเรียน อย่างประถมและมัธยมเท่านั้น เช่น งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด พบว่าเด็กมัธยม 1 คิดว่าความฉลาดหรือไอคิวนั้นเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ความพยายามนั้นเป็นสิ่งที่กำหนดความสำเร็จได้มากกว่า

การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าเด็กวัยเรียนที่มีความชำนาญในงานที่ซับซ้อนจะมีส่วนประสบความสำเร็จด้านการศึกษาต่อไปในชีวิต อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถบอกได้ว่า สมองของเด็กๆ นั้นพัฒนาทักษะเหล่านี้อย่างไรและเมื่อใด

เมื่อพ่อแม่พยายาม ลูกจะพยายาม

ผลของงานวิจัยพบว่าเด็กๆ วัยเพียง 13 เดือนเท่านั้น สามารถเฝ้าดูคุณพ่อคุณแม่พยายามทำอะไรสักอย่างหนึ่งล้มเหลวซ้ำไปซ้ำมา จนในที่สุดก็บรรลุเป้าหมายได้ค่ะ

ในงานวิจัยชิ้นนี้ทำการเก็บข้อมูลจากเด็กวัย 13-18 เดือน จำนวนมากกว่า 260 คน (รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครอง) ทำการเปิดกล่องดนตรี โดยแบ่งเด็กออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • กลุ่มแรกเป็นเด็กๆ ที่เฝ้ามองพ่อหรือแม่พยายามอย่างหนัก ที่จะแกะกุญแจออกจากคาราบิเนอร์ พลางพูดกับลูกไปด้วย เช่น แม่สงสัยจังเลยว่าจะเอากุญแจออกมายังไงนะ เป็นระยะเวลาถึง 30 วินาที
  • กลุ่มสองเป็นเด็กๆ ที่เฝ้ามองพ่อหรือแม่พยายามแบบง่ายดาย โดยไม่ต้องดิ้นรนมาก เป็นระยะเวลา 10 นาที จากนั้นทำซ้ำอีก 2 ครั้ง ภายในเวลาประมาณ 20 วินาที
  • และกลุ่มสุดท้าย เป็นเด็กไ ที่ไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น

ต่อมาให้เด็กๆ ทุกกลุ่มเปิดกล่องดนตรีเอง โดยที่พ่อหรือแม่จะเดินออกจากห้องไป ซึ่งกล่องดนตรีนั้นจะมีปุ่มหลอกอยู่ปุ่มนึงและปุ่มที่เปิดได้จริงอยู่กลุ่มนึง

พบว่าแม้เด็กๆ จะไม่พบปุ่มจริง แต่เด็กกลุ่มที่เห็นพ่อแม่พยายามอย่างหนัก จะกดปุ่มหลอกมากจำนวนครั้งกว่า บ่อยกว่า และไม่มีการล้มเลิก เทียบกับเด็กอีก 2 กลุ่มค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แม้ว่าจะไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่นักวิจัยก็หวังว่า การศึกษาทดลองในครั้งนี้จะทำให้พ่อแม่ไม่ต้องทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องง่ายต่อลูก เพื่อที่จะปลูกฝังและให้ลูกเห็นตัวอย่างบางส่วน ของการดิ้นรนก่อนที่จะประสบความสำเร็จค่ะ แต่งานวิจัยนี้ไม่ได้พูดถึงในกรณีที่พ่อแม่พยายามแต่ก็ยังไม่สำเร็จนะคะ

ช่วยให้เด็กๆ มีความพยายามมากขึ้น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ จนทำสำเร็จในที่สุด

ที่มา Huffingtonpost

บทความที่น่าสนใจ

ลูกติดอยู่ในรถ เกือบตาย ถ้าไม่ได้สอนลูกให้หนีออกมาได้

อยากให้ลูก “รวย” และใช้เงินเป็นต้องทำยังไง 7 วิธี เลี้ยงลูกให้รวย รวย รวย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา