คณิตศาสตร์สิงคโปร์ เป็นอย่างไร ดีอย่างไร ทำไมต้องให้ลูกเรียน

คณิตศาสตร์สิงคโปร์ เป็นอย่างไร

คณิตศาสตร์สิงคโปร์ คือวีธีการสอนคณิตศาสตร์แบบพิเศษ ที่คิดค้นขึ้นเมื่อปี 1982 สำหรับเด็กอนุบาลไปจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรแห่งชาติภายใต้การกำกับของกระทรวงศึกษาธิการของประเทศสิงคโปร์

ก่อนจะมีหลักสูตรนี้ โรงเรียนประถมศึกษาในสิงคโปร์ใช้แบบเรียนคณิตศาสตร์จากต่างประเทศ และในปี 1981 Curriculum Planning and Development Division (then Curriculum Development Institute of Singapore) ได้เริ่มวางแผนในการพัฒนาหลักสูตรใหม่ขึ้น จนในที่สุด เมื่อปี 1982 ก็ได้มีการกระจายชุดแบบเรียนชื่อว่า ‘Primary Mathematics’ ไปทั่วประเทศ และมีการปรับปรุงแบบเรียนใหม่ในปี 1992 ที่เน้นการแก้ปัญหาเพิ่มมากขึ้น

ความนิยมของวิชาคณิตศาสตร์สิงคโปร์ในต่างประเทศ

ที่ผ่านมาได้มีการประเมินระดับนานาชาติ โดยหลักสูตรใหม่นี้ ส่งผลอย่างชัดเจนในการประเมินระดับนานาชาติที่จัดโดย Trends International Mathematics and Science Society (TIMSS) เพื่อประเมินนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 และมัธยมศึกษาปีที่ 2

ซึ่งจากการประเมินนี้ นักเรียนสิงคโปร์ได้อันดับ 1 ในปี 1995, 1999 และ 2003 จึงทำให้นักคณิตศาสตร์ นักการศึกษาในต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจกับวิชาคณิตศาสตร์ของสิงคโปร์มากขึ้น รวมถึงแบบเรียนต่าง ๆ ที่ใช้กันอย่างเช่น Primary Mathematics

ในปี 1998 เจฟและดอว์น โธมัสจากรัฐโอริกอน สหรัฐอเมริกา ตั้งบริษัทชื่อ Singapore Math^TM  เพื่อตีพิมพ์แบบเรียนสำหรับโรงเรียนและพ่อแม่ที่สอนลูกที่บ้านทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ทั้งคู่เคยใช้แบบเรียนนี้สอนลูกของพวกเขา

ขณะที่วิชาคณิตศาสตร์สิงคโปร์ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โรงเรียนในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ เช่น สหราชอาณาจักร แคนาดา และอิสราเอลก็เริ่มใช้แบบเรียนนี้เช่นกัน ซึ่งหลายโรงเรียนยืนยันว่าคะแนนสอบของนักเรียนเพิ่มมากขึ้นจากการเรียนแบบเรียนนี้

คณิตศาสตร์สิงคโปร์ มีเนื้อหาอะไรบ้าง

วิชา คณิตศาสตร์สิงโปร์ มุ่งเน้นการสร้างทักษะด้านคณิตศาสตร์เบื้องต้นมากกว่ามุ่งเน้นเนื้อหาบทเรียน

วิชาคณิตศาสตร์สอนให้เด็กมุ่งเน้นหลักการไม่มากแต่ในเชิงลึก โดยใช้หลักการเรียนรู้ 3 ขั้น ได้แก่ รูปธรรม รูปภาพ และนามธรรม โดยมุ่งให้เด็กใช้หลักการดังกล่าวและวิเคราะห์ว่าทำไมหลักการจึงใช้ได้ผล

หลักการเรียนรู้ 3 ขั้น

หลักการเรียนรู้นี้มาจากทฤษฎีของเจอโรม บรูเนอร์ นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน โดยเขาแนะนำให้คนเรียนจากอุปกรณ์ที่อยู่ในชีวิตจริงที่จับถือได้เป็นอันดับแรก จากนั้นค่อยทำความเข้าใจเป็นรูปภาพและเป็นสัญลักษณ์

ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ใช้วิธีการนี้สอนลูก เด็ก ๆ จะเข้าใจสิ่งที่เรียนมากขึ้น ไม่ใช่แค่จำสิ่งที่เรียนได้เท่านั้น

ขั้นตอนแรกของหลักการ 3 ขั้นเป็นหลักการนามธรรม โดยครูสามารถใช้อุปกรณ์ที่เด็กสามารถสัมผัสได้ เช่น ลูกเต๋า ตัวต่อ หรือดินสอสี เพื่อใช้สอนหลักคณิตศาสตร์ เช่น การบวก และการลบ

หลังจากนี้ เด็ก ๆ จะสามารถคิดเป็นภาพได้ และเพิ่มความรู้มากขึ้นโดยใช้ภาพแผนผังที่เรียกว่า ‘โมเดลแท่ง’ โดยแท่งสี่เหลี่ยมหมายถึงตัวเลข  โดยวิธีการนี้สามารถใช้สอนการลบ การคูณ การหาร เศษส่วน อัตราส่วน และเลขทศนิยม

‘หลักการสำคัญ’ ของระบบวิชาคณิตศาสตร์สิงคโปร์

มี 2 หลักการ ที่เด็กจะได้เรียนจากระบบคณิตศาสตร์สิงคโปร์ ผ่านวิธีการแก้ปัญหา

หลักการส่วนประกอบทั้งหมด

หลักการนี้สอนให้เด็กเข้าใจหลักการของ ‘ส่วนประกอบ’ และการบวกรวมส่วนประกอบเพื่อสร้าง ‘ผลรวมทั้งหมด’

ตัวอย่างคำถาม: “ถ้าอิซาเบลมีลูกบอล 3 ลูก และลีแอนน์มีลูกบอล 2 ลูก ทั้งคู่มีลูกบอลทั้งหมดกี่ลูก?”

เด็กสามารถวาดรูปแท่ง เพื่อแทนจำนวนทั้งหมด จากนั้นแบ่งออกเป็นส่วนที่เล็กลง

เด็กสามารถใส่ตัวเลขในสี่เหลี่ยมทั้งสองอัน แล้วบวกจำนวนทั้งสองเข้ากันดังรูปด้านล่าง:

หลักการเปรียบเทียบ

ขณะที่หลักการส่วนประกอบทั้งหมด ใช้แท่งเต็มแสดงจำนวนทั้งหมด หลักการเปรียบเทียบนั้น จะใช้แท่ง 2 แท่ง แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน

ตัวอย่างคำถาม: “ถ้าเอมิลีมีดินสอ 5 แท่ง และยางลบ 3 ก้อน เอมิลีมีดินสอมากกว่ายางลบเท่าไหร่?”

สามารถหาคำตอบของคำถามได้ดังต่อไปนี้:

เมื่อเด็กสามารถใช้หลักการทั้งสองนี้ เพื่อแก้โจทย์คณิตศาสตร์ได้คล่องแล้ว พวกเขายังสามารถใช้หลักการนี้ เพื่อแก้โจทย์เศษส่วน อัตราส่วน และเลขจุดทศนิยมได้ในขั้นต่อไป เพียงแค่หลักการง่าย ๆ นี้ สามารถส่งเสริมให้ลูกของคุณเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้จากความเข้าใจ ไม่ใช่การท่องจำ และมีความสุขกับการเรียนคณิตศาสตร์

รู้อย่างนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ลองนำหลักการคณิตศาสตร์ง่าย ๆ นี้ใช้สอนเจ้าตัวเล็ก เพื่อพื้นฐานคณิตศาสตร์ที่แข็งแรง และแม่นยำของเจ้าตัวเล็กกันนะครับ

ที่มา sg.theasianparent

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษอนุบาล แบบเรียนเสริมภาษาอังกฤษ แจกฟรี 100+ ชุด!!

โรงเรียนทางเลือกคืออะไร สอนแบบไหน แล้วจะเหมาะกับลูกหรือเปล่า

เลี้ยงลูกอย่างไร ให้เป็นอัจฉริยะ เก่ง ฉลาด นิสัยดี

*ภาพและข้อมูลมีลิขสิทธิ์เจ้าของโดย บริษัท ทิคเกิ้ลมีเดีย จำกัด ไม่อนุญาตให้คัดลอกข้อมูล และนำรูปภาพไปเผยแพร่ต่อไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืน ทางบริษัทฯจะดำเนินการตามกฎหมาย เว้นแต่ได้มีการขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรกับทางบริษัทฯเรียบร้อยแล้ว