เปิดเงื่อนไขสำหรับนักท่องเที่ยวใน การเดินทางเข้าไทยในช่วง COVID-19 ในปัจจุบันไวรัสโคโรน่าไวรัส ซึ่งเป็นที่มาของโรค COVID-19 นั้น ทำให้ทุกคน ต้องคอยระวังตัว และดูแลสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น และถึงแม้ว่าจะมีหลายประเทศที่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางเข้าประเทศตัวเองได้นั้น แต่ในประเทศไทย ทางรัฐบาลได้ประกาศว่าเราพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ใน การเดินทางเข้าไทยในช่วง COVID-19 นั้นประเทศไทย ได้เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวให้สามารถเดินทางเข้ามากันแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยประเทศไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวสัปดาห์ละ 100 – 300 คน หรือ 1,200 คนต่อเดือน
นักท่องเที่ยว หรือชาวต่างชาติ ที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้ามาในแประเทศไทย จึงต้องแจ้งความจำนงผ่านตัวแทนบริษัทของ ททท. ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมข้อมูลนักท่องเที่ยว และจะช่วยเรื่องวีซ่า รวมทั้งเอกสารต่าง ๆ และจะได้ลงตราเป็นประเภท ” นักท่องเที่ยวพิเศษ Special Tourist Visa (STV) ” แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการตรวจลงตราครั้งละ 2,000 บาท และอยู่ในประเทศไทยได้ 90 วัน
แต่หากครบกำหนดแล้ว นักท่องเที่ยวต้องการที่จะอยู่ต่อ ก็สามารถยื่นคำความจำนงขออยุ่ต่อได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มครั้งละ 2,000 บาท ก็จะอยู่ในไทยได้อีก 2 ครั้ง (ครั้งละ 90 วัน) ถ้าหากรวมทั้งหมดแล้ว นักท่องเที่ยว จะสามารถอยู่ในไทยเป็นระยะยาวได้ถึง 270 วัน ทั้งนี้ เมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา ก็ต้องเข้ากักตัวใน State Quarantine หรือ Alternative State Quarantine (ASQ) ทุกคน
ปัจจุบันชาวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก มีทั้งนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว นักเรียนนักศึกษา รักษาพยาบาล และกลุ่มอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงได้มีการออกหนังสือรับรอง หรือ COE เพื่อรองรับชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยทุกประเภทการเดินทาง และคาดว่าจะเป็นอีกทางหนึ่ง ที่ช่วยกระตุ้นให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้เพิ่มมากขึ้น และทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นด้วย
ประเทศไทยได้เปิดรับชาวต่างชาติแบบเฉพาะกลุ่ม โดยล่าสุดได้ปลดล็อกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ 30 วัน (ผ.30) รวมทั้งหมด 56 ประเทศให้สามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องตรวจลงตราวีซ่า หรือไม่ต้องขอวีซ่า โดยใช้เพียงแค่หนังสือรับรองเพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย หรือใบ COE และกักตัว 14 วัน
โดยจะให้ชาวต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางเข้าไทยสามารถยื่นขอ COE ช่องทางออนไลน์ผ่าน www.coethailand.com พร้อมนำบุ๊กกิ้ง ตั๋วโดยสารเครื่องบิน ประกันการเดินทาง บุ๊กกิ้งโรงแรมมาอัพโหลดได้เลย จากนั้นทางสถานทูตจะอนุมัติ COE เพื่อเดินทางได้เลย
ที่ผ่านมาก็มีต่างชาติยื่นขอ Tourist Visa และได้เข้ามาแล้วเป็นจำนวนมากและคาดว่าจะรับเพิ่มได้อีก จึงลดขั้นตอนเรื่องวีซ่าออกไป เพราะหลายประเทศที่ยังเดินทางไปติดต่อเพื่อขอวีซ่าลำบาก และบางประเทศยังล็อกดาวน์อยู่ จึงเปิดให้ขอ COE ทางออนไลน์แทน
นอกจากนี้ยังได้รีบดำเนินการเพื่อผ่อนคลายมาตรการให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มและได้ขยายระยะเวลาที่อาศัยในประเทศไทยให้กับกลุ่ม ผ.30 จากเดิมที่อาศัยได้ 30 วัน ให้สามารถอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ 45 วัน (ผ.45)
ทั้งนี้ คาดว่าการผ่อนคลายดังกล่าวนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้รับกับจำนวนโรงแรมที่ใช้กักตัว (ASQ) ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 120 แห่ง ทั่วประเทศ
ดังนั้นได้มีการกระตุ้นให้มีต่างชาติเดินทางเข้ามาให้ได้ถึงหลักแสนคนต่อเดือน หรือไม่ต่ำกว่า 10% ของภาวะปกติ จึงได้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และไม่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศเกิน 150 วัน
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามามากขึ้น จำเป็นต้องมีโรงแรมสถานที่กักกันทางเลือกให้เพิ่มขึ้นอีกด้วยเช่นกัน
จากปัจจุบันโรงแรม ASQ ส่วนใหญ่ จะอยู่ในกรุงเทพฯ จำเป็นต้องเพิ่มโรงแรม ASQ ไปทั่วประเทศ หรืออย่างน้อยในเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ ของไทย เพื่อเป็นการเตรียมรองรับจำนวนชาวต่างชาติที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
หากสามารถเพิ่มโรงแรม ASQ ได้ทั่วประเทศจะทำให้ ประเทศไทย มีศักยภาพที่ดียิ่งขึ้น
เงื่อนไขหลัก 3 ข้อ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางเข้าไทย มีอะไรบ้าง มาดูกัน !!
- ต้องเป็นบุคคลต่างด้าว หรือเป็นชาวต่างชาติ ที่มีความต้องการมาพำนักระยะยาว (Long Stay) ในประเทศไทย
- ต้องยอมรับ และปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ตามที่ประเทศไทยประกาศ และต้องกักตัวในสถานที่ที่ให้เลือก 14 วัน
- ต้องมีหลักฐาน ที่อยู่อาศัยระยะยาวในประเทศไทย
-
- หลักฐานการชำระเงิน สำหรับโรงแรม หรือโรงพยาบาลในการกักตัว 14 วัน
- แสดงหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี
- สำหรับชาวต่างชาติที่จะใช้โรงแรม เป็นที่พักในการพำนักระยะยาวภายในประเทศไทย จะต้องมีหลักฐานการชำระเงินโรงแรมนั้น ๆ (เป็นหลักฐานคนละตัวกับโรงแรม ที่ใช้เป็นสถานที่กักตัว)
- หากชาวต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ที่พักอาศัย เช่น คอนโดมิเนียม หรือกรรมสิทธิ์นั้นเป็นของคนในครอบครัว ให้แสดงสำเนาโฉนดของที่พักอาศัยนั้น ๆ
- หลักฐานการเช่าที่พัก อาทิเช่น คอนโดมิเนียม หรือบ้านพัก
- หากชาวต่างชาติ ต้องการซื้อที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม (ที่ระบุว่าซื้อได้ตามกฎหมาย) สามารถแสดงหลักฐาน ในการชำระเงินดาวน์ในการซื้อ
ท่าอากาศยาน เตรียมตัวรับมืออย่างไร!?
สำหรับทางด้าน ท่าอากาศยานได้เตรียมความพร้อม เรื่องมาตรการด้านความปลอดภัย เกี่ยวกับการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด โดยปัจจุบันมีเพียงไฟลท์บิน ที่เข้ามาด้วยความจำเป็น เช่น รับคนกลับประเทศ ส่วนเที่ยวบินภายในประเทศเดิมมี 100 เที่ยวบินต่อวัน แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 50 เที่ยวบินต่อวันเท่านั้น
และในส่วนของมาตรการคัดกรอง ยังคงทำตามขั้นตอน โดยจะต้องตรวจเรื่องการทำประกันสุขภาพ หนังสือเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงใบรับรองการตรวจ COVID-19 ในรอบ 72 ชั่วโมง ของกลุ่มชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามา ซึ่งท่าอากาศยาน ก็ได้แยกอีกอาคาร ไว้สำหรับรองรับผู้โดยสาร ที่ต้องเข้ารับการตรวจ และรอผลการตรวจเป็นเวลาประมาณ 90 นาที และยังมีการจัดจุดแอลกอฮอล์ล้างมือ และการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายทุกประตูทางเข้าออก และตั้งหน่วยทีมแพทย์พยาบาลในการติดตามอาการที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง รวมถึงกรณี หากพบว่ามีนักท่องเที่ยวติด COVID-19 สัมผัส เดินผ่าน ภายในท่าอากาศยาน จะต้องกักตัวพนักงานที่ทำงานใกล้ชิดทันที ให้ทำงานอยู่ที่บ้านเพื่อเฝ้าดูอาการ 14 วันอีกด้วย
ที่มา : www.wonderfulpackage.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
นักท่องเที่ยว เลือกใช้เวลากับคนรักเป็น สิ่งสำคัญในปี 2021
แนวโน้มการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมนักท่องเที่ยว 9 สิ่ง หลังจากยุคโควิด-19 หมดลง
เที่ยวในยุคโควิด อย่างไร ให้ปลอดภัย และห่างไกลจากไวรัส