100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 53 การอัลตราซาวด์ ตรวจความผิดปกติได้หรือไม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การอัลตราซาวด์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณแม่ท้องทุกคนคุ้นเคย เพราะการอัลตราซาวด์เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้พบเจอและได้เห็นพัฒนาการลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นอกจากพัฒนาการของลูกแล้ว การอัลตราซาวด์สามารถตรวจความผิดปกติได้หรือไม่ วันนี้ theAsianparent Thailand มีคำตอบมาให้คุณพ่อคุณแม่กัน

 

การอัลตราซาวด์ คืออะไร

การตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) หรือ การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เป็นการตรวจที่ใช้คลื่นเสียงในการสร้างภาพลูกในท้องคุณแม่ โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจจะปล่อยคลื่นเสียงผ่านร่างกายคุณแม่ คลื่นเสียงนี้จะสะท้อนกับกล้ามเนื้อ ไขมัน อวัยวะในช่องท้อง และร่างกายของทารก รก น้ำคร่ำที่อยู่ในมดลูกของคุณแม่ แล้วสะท้อนกลับมายังอุปกรณ์ตรวจรับเพื่อแปลงเป็นภาพทางหน้าจออีกครั้ง

นอกจากนี้ การตรวจอัลตราซาวด์ยังสามารถบ่งบอกตำแหน่งการตั้งครรภ์ และจำนวนทารกในครรภ์ได้อีกด้วย รวมถึงยังเป็นวิธีการตรวจนับอายุครรภ์ที่แม่นยำ โดยไม่สร้างความเจ็บปวดต่อคุณแม่และทารกน้อยในครรภ์แต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก

 

การอัลตราซาวด์ ตรวจความผิดปกติได้หรือไม่

นพ.อดิศร อักษรภูษิตพงศ์ สูตินรีแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์โรงพยาบาลพญาไท 3 ได้ให้ข้อมูลว่า แม้การตรวจอัลตราซาวด์จะไม่สามารถเห็นความผิดปกติหรือความพิการทุกอย่างได้ แต่ด้วยความสามารถและประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยส่วนใหญ่จะสามารถตรวจความผิดปกติได้มากถึง 80-90%

ข้อจำกัดที่ทำให้การตรวจอัลตราซาวด์ไม่สามารถพบความผิดปกติได้ ประกอบด้วย การระบุชนิดของอวัยวะที่เกิดความผิดปกติ เช่น มือ-เท้า, แขน-ขา, ทางเดินหายใจ จะตรวจพบได้ยากมาก, ท่าของทารกขณะการตรวจ (นอนคว่ำ, ปิดหน้า, หนีบขา), คุณแม่มีรูปร่างอ้วน หรือ ความผิดปกตินั้นเกิดขึ้นภายหลังหรือมีความชัดเจนมากขึ้นภายหลังจากการตรวจอัลตราซาวด์ที่ทำไปในช่วงแรก คุณแม่จึงควรรับตรวจอัลตราซาวด์อย่างน้อยไตรมาสละ 1 ครั้ง (ทุก 3 เดือน)

บทความที่เกี่ยวข้อง : การตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ คืออะไร จำเป็นต่อแม่ท้องมากน้อยแค่ไหน?

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

อายุครรภ์เท่าไหร่ถึงอัลตราซาวด์ได้

โดยปกติแล้ว การตรวจอัลตราซาวด์สามารถตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 11-13 สัปดาห์ เพื่อตรวจยืนยันอายุครรภ์ และทำให้ทราบกำหนดวันคลอด โดยการตรวจจะวัดความยาวของศีรษะจนถึงกระดูกก้นกบลูก และดูลักษณะของทารกในครรภ์ รวมถึงวัดความหนาของช่องทางเดินน้ำเหลืองเพื่อตรวจภาวะดาวน์ซินโดรมของลูกในท้อง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ข้อมูลวัตถุประสงค์ในการอัลตราซาวด์

ช่วงอายุครรภ์ 6-8 สัปดาห์

  • ตรวจยืนยันการตั้งครรภ์, จำนวนทารก และดูการเต้นหัวใจ
  • ตรวจภาวะตั้งครรภ์ ว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะท้องนอกมดลูก-ท้องลม หรือไม่
  • ตรวจว่ามีเนื้องอกมดลูก หรือ ถุงน้ำรังไข่ ซึ่งอาจจะกระทบต่อการตั้งครรภ์ หรือไม่

 

10-14 สัปดาห์

  • ตรวจหาความพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรงบางอย่าง
  • วัดความหนาของผิวหนังบริเวณต้นคอ (Nuchal Translucency) เพื่อช่วยในการตรวจคัดกรองความเสี่ยงกลุ่มอาการดาวน์ (Down syndrome)

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

18-22 สัปดาห์

  • ตรวจความผิดปกติหรือความพิการของทารกอย่างละเอียด (Anomaly Scan)
  • ตรวจการเจริญเติบโต และน้ำหนักตัวของทารก
  • ตรวจตำแหน่งรก สายสะดือ และปริมาณน้ำคร่ำ

 

28-36 สัปดาห์

  • ตรวจความผิดปกติของทารกอีกครั้งก่อนคลอด
  • ตรวจการเจริญเติบโต และน้ำหนักตัวของทารก
  • ตรวจสุขภาพทารก, การหายใจ และการเคลื่อนไหว
  • ตรวจสุขภาพรก, ปริมาณน้ำคร่ำ, ประเมินภาวะรกเสื่อม
  • ตรวจความเร็วเลือดในสายสะดือและทารก (Dopplerstudy)
  • ตรวจยืนยันท่าของทารกก่อนการคลอด

บทความที่เกี่ยวข้อง : 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 46 ใบอัลตราซาวด์บอกอะไรบ้าง

 

 

ผลอัลตราซาวด์เชื่อถือได้แค่ไหน

แม้ว่าการตรวจอัลตราซาวด์จะเป็นการตรวจการเจริญเติบโตของลูกน้อย แต่ก็ยังมีโอกาสผิดพลาดได้ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ นั้น มาจาก

  • อวัยวะของทารกในท้องกับนอกท้องจะไม่เหมือนกัน
  • อวัยวะทารกบางอย่างเล็กมากจนอาจมองไม่เห็น เช่น นิ้วเด็กหรือหัวใจ
  • ท่าทางของทารกในครรภ์บางท่า อาจบดบังการมองเห็นอวัยวะต่าง ๆ ได้
  • อวัยวะทารกยังไม่สมบูรณ์ อาจไม่สามารถบ่งบอกความผิดปกติได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จึงอาจเกิดความผิดปกติหลังคลอดได้

 

การเตรียมตัวก่อนอัลตราซาวด์

  • หากนัดตรวจอัลตราซาวด์ตอนเช้า คุณแม่ควรงดน้ำ, อาหาร ตั้งแต่หลังเที่ยงคืน หรือ 6 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจเป็นอย่างน้อย
  • หากนัดตรวจอัลตราซาวด์ตอนบ่าย ควรรับประทานอาหารเช้าที่ไม่มีไขมัน, งดน้ำ, อาหาร และยาทุกชนิด ตั้งแต่หลัง 8 โมงเช้า จนกว่าจะตรวจเสร็จ
  • หากเข้ารับการตรวจช่องท้อง คุณแม่อาจปวดปัสสาวะขณะตรวจ และต้องกลั้นปัสสาวะไว้ก่อน แต่หากไม่ปวดปัสสาวะ คุณหมอจะให้ดื่มน้ำก่อนตรวจ 30-60 นาที เพื่อทำให้กระเพาะปัสสาวะมีน้ำเต็ม ทำให้คุณแม่สามารถตรวจอัลตราซาวด์ได้
  • หากเข้ารับการตรวจช่องคลอด คุณแม่ควรปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับการตรวจ

 

คุณหมออดิศรยังกล่าวต่อว่า คุณแม่ควรได้รับการตรวจอัลตราซาวด์อย่างน้อย 1 ครั้ง ในช่วงอายุครรภ์ 18-22 สัปดาห์ โดยสูติแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (maternal-fetal medicine, MFM) เพื่อตรวจหาความพิการในทารก (anomaly scan) และติดตามพัฒนาการของทารก ปัจจุบันแนะนำว่าคุณแม่ควรได้รับการตรวจอัลตราซาวด์อย่างน้อย 1 ครั้งในทุกไตรมาส

สำหรับคุณแม่บางท่านที่มีภาวะแทรกซ้อนผิดปกติ เช่น ทารกน้ำหนักตัวน้อย, น้ำคร่ำน้อย, ครรภ์เป็นพิษ, เบาหวาน, ครรภ์แฝด เป็นต้น จะได้รับการตรวจอัลตราซาวด์ที่ถี่กว่าปกติและตรวจละเอียดมากขึ้น บางครั้งอาจต้องได้รับการตรวจทุกเดือน ทุกสัปดาห์ หรือทุกวัน

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 45 เตรียมตัวก่อนไปอัลตราซาวด์

คนท้องต้องฉีดอะไรบ้าง 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 5 สมุดวัคซีนแม่ท้อง

อาการผิดปกติแบบไหนที่คนท้องต้องไปพบหมอ 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 11

ที่มา : โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลสมิติเวช, enfababy

บทความโดย

Khattiya Patsanan