8 ที่เที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์โลก หลายคนชอบที่จะท่องเที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์ และโบราณสถาน โดยแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่น่าสนใจก็มีอยู่มากมายทั่วโลก อีกทั้งหลายแห่งยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจขึ้นไปอีก โดยในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์กับ 8 ที่เที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์โลก กัน มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
1. Teotihuacan ประเทศเม็กซิโก
โบราณสถานที่สำคัญที่สุดในเม็กซิโก ซึ่งถูกสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อราว ๆ 100 ปี ก่อนคริสตกาล และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1987 ที่นี่ไม่เพียงแค่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ยังเป็นที่ตั้งของพีรามิดที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโกที่มีชื่อว่า พีระมิดสุริยัน (Pyramid of the Sun) โดยที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศและได้รับการรักษาเป็นอย่างดี
2. Pompeii ประเทศอิตาลี
เมืองโบราณของอาณาจักรโรมัน ที่ถูกทำลายโดยเถ้าและหินจากภูเขาไฟวิสุเวียส (Vesuvius) ที่ปะทุครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 79 จนทำให้ที่นี่กลาเป็นเมืองโบราณที่ถูกฝังไว้นานหลายพันปี โดยมีการค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1534 และมีการสำรวจอีกครั้งในปี ค.ศ. 1863 และด้วยความที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นเมืองมรณะ ทำให้เมืองนี้มีจุดดึงดูดที่น่าสนใจของผู้คนทั่วโลก ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ และได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997 ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาที่แห่งนี้มากกว่า 2 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว
3. Mont Saint-Michel ประเทศฝรั่งเศส
วิหารคริสตจักรที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลชายฝั่งแถบตะวันตกของฝรั่งเศส เดิมทีวิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษทางการเมืองในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส โดยในภายหลังได้มีการรณรงค์ยกเลิกการเป็นสถานที่คุมขังและได้มีการบูรณะจนกลายเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยตัววิหารมีการออกแบบผสมผสานระหว่างโกธิกและโรมาเนสก์และด้วยความเก่าแก่ของตัวปราสาทที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ทำให้วิหารแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกตะวันตก ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจมาเยี่ยมชมมากกว่า 3 ล้านคน
บทความที่น่าสนใจ : 7 พิพิธภัณฑ์ ระดับโลก ที่ควรไปซักครั้ง หลังหมดโควิด มีที่ไหนบ้าง
Mont Saint-Michel ประเทศฝรั่งเศส ( ภาพจาก pixels.com )
4. Great Pyramid of Giza ประเทศอียิปต์
หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ พีระมิดชื่อก้องโลก เมืองกีซา ประเทศอียิปต์ โดยมหาพีระมิดแห่งกีซานั้นเป็นที่เก็บศพของฟาโรห์คูฟู อีกทั้งยังเป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุด โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์เผยให้เห็นว่าพีระมิดแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 20 ปี โดยสร้างเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่ 2,560 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งนอกจากพีระมิดแล้วที่นี่ยังมี มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของมหาพีระมิด โดยพีระมิดแห่งกีซา ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1979
5. The Parthenon ประเทศกรีซ
วิหารโบราณที่ตั้งอยู่บนเนินอะโครโปลิส ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดงานสถาปัตยกรรมของกรีก ซึ่งตัววิหารถูกสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราว ๆ 447 ปี ก่อนคริสตกาล วิหารแห่งถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานสำหรับบูชาเทพีอะธีนา (Athena) เทพีแห่งสติปัญญาตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณ และด้วยความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งความเก่าแก่ของตัววิหาร จึงทำได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี ค.ศ. 1987 และเมื่อปี 2004 วิหารพาร์เธนอนได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เพื่อรองรับการเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศกรีซได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ทำให้ตัวมหาวิหารกลับมามีสภาพดีอีกครั้ง
The Parthenon ประเทศกรีซ ( ภาพจาก freepik.com )
6. The Taj Mahal ประเทศอินเดีย
วิหารนี้ตั้งอยู่ในเมือง Agra ประเทศอินเดีย มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Shah Jahan เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานและที่เก็บศพของ Mumtaz Mahal พระมเหสีคนโปรดของพระองค์ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักก็ไม่ผิดเสียทีเดียว โดยตัวของมหาวิหารถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1632 – 1653 โดยใช้หินอ่อนสีขาวในการสร้างที่นี่ขึ้นมา โดยมหาวิหารนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี ค.ศ. 1983 ในฐานะ “ เพชรน้ำเอกของศิลปะมุสลิมในอินเดีย และเป็นหนึ่งในงานชิ้นเอกที่ได้รับการชื่นชมในระดับสากล ” โดยที่นี่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมราว ๆ 7-8ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว
บทความที่น่าสนใจ : ประวัติวันวิสาขบูชา วันวิสาขบูชา 2564 วันสำคัญทางศาสนา
7. Machu Picchu ประเทศเปรู
เมืองโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่บนเทือกเขาในประเทศเปรู ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างของอารยธรรมโบราณของชาวอินคา โดยอารยธรรมแห่งนี้ได้ถูกปล่อยทิ้งไว้นับร้อยปี เพราะการขยายอาณานิคมของชาวสเปน ต่อมาจึงกลายมาเป็นแหล่งโบราณคดีชื่อดังและในปี ค.ศ. 1983 ยูเนสโก (UNESCO) ได้กำหนดให้ มาชู ปิกชู เป็นมรดกโลก ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จนต่อมาในปี ค.ศ. 2007 มาชู ปิกชู ได้รับเลือกให้เป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการลงคะแนนทั่วโลกผ่านอิเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ
8. Angkor Wat ประเทศกัมพูชา
ศาสนสถานสุดยิ่งใหญ่ ที่ได้ชื่อว่าเป็นศาสนาสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยนครวัดถูกสร้างในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยใช้เวลาในการก่อสร้างที่ค่อนข้างนาน ทำให้ได้รับอิทธิพลจากความเชื่อถึง 2 ศาสนา คือศาสนาฮินดูและพุทธตามลำดับ นครวัดนั้นได้รับการยกย่องในด้านความงดงามและความกลมกลืนของตัวสถาปัตยกรรม ภาพสลักฝาผนังที่โดดเด่น โดยนครวัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1992 โดยมีนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาชื่นชมในความงดงามของนครวัดกว่า 3 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง :
เที่ยวนอกกระแส ที่ไหนดี ที่น่าไป และไม่ต้องเจอความวุ่นวาย
ประเทศสวีเดน กับกิจกรรมที่น่าสนใจ ที่ทำให้คนอยากไปเที่ยว
ย้ายประเทศกันไหม ! สิทธิแม่และเด็กในต่างแดน มีอะไรบ้าง ประเทศไหนน่าสนใจ
ที่มา :
wegointer, workandtravel, wonderfulpackage, undubzapp, Bloggang