เรื่องหนักใจของครอบครัวที่มีลูกกับการ ทำงานที่บ้าน ต้องรับมืออย่างไรบ้าง?
ปัญหาที่พบเจอได้ช่วงที่มีวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 นั่นคือการรับมือกับเด็ก ๆ ในบ้าน ในช่วงที่จะต้องแบกงานมาทำที่บ้านแบบนี้ โลกกำลังเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการระบาดใหญ่จาก Covid-19 เป็นผลที่ทำให้ผู้คนต้องอยู่แต่ในบ้านกับครอบครัวการ ทำงานที่บ้าน จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เรื่องที่จะต้องเป็นเกือบทุกบ้านที่ต้องประสบปัญหากับการก่อกวนของลูกในขณะที่ต้องทำงานที่บ้าน แต่จะทำอย่างไรที่จะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ มาดูกันค่ะว่ามีวิธีไหนกันบ้าง
วิธีรับมือกับเด็ก ๆ ในช่วงที่ต้องทำงานที่บ้าน
1.อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นว่าทำไมจึงต้อง ทำงานที่บ้าน
คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายความเป็นมาของ Covid-19 อย่างละเอียด แต่ให้หาวิธีการอธิบายที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้สอดคล้องกับอายุและระดับความเข้าใจของพวกเขา สิ่งนี้ลูก ๆ ของคุณจะเข้าใจได้ดีขึ้นว่าทำไมอิสระในการเล่นของพวกเขาจึงถูกจำกัดลงและทำใหพวกเขารู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อชุมชนมากขึ้น อาจจะลองทำมุมเล่นให้กับเด็ก ๆ ดูก็ได้
เพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราทุกคนจำเป็นต้องอยู่บ้านด้วยกัน ซึ่งนั่นจะทำให้เราไม่แพร่กระจายหรือสัมผัสกับโควิด-19 ที่น่ารังเกียจและน่ากลัวนี้
2.สร้างกิจวัตรสำหรับลูกของคุณในช่วงที่ต้องทำงานที่บ้าน
กำหนดเวลาต่าง ๆ เช่น ตื่นนอนตอนเช้า เพื่อให้พวกเขาได้ตื่นนอนเหมือนในวันที่ไปโรงเรียน ให้ลูกน้อยของคุณได้ทานมื้อเช้าเพื่อสุขภาพ จากนั้นพาพวกเขาไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า การดูแลเจ้าตัวน้อยในลักษณะนี้ ควรทำก่อนเริ่มงานและควรแสดงให้เห็นว่าคุณนั้นให้ความสนใจอย่างเต็มที่กับลูก ๆ ของคุณ
ถัดมาเป็นส่วนงานประจำ สมมติว่าคุณเริ่มทำงานตอน 9 โมงเช้า ควรกำหนดภารกิจสำหรับเด็ก ๆ ที่จะทำให้พวกเขามีกิจกรรมทำไปตลอดทั้งวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะไม่เข้ามารบกวนคุณ นี่คือตัวอย่างกิจวัตรง่าย ๆ ที่อาจใช้ได้กับเด็กก่อนวัยเรียน
9 – 10 น. : วาดภาพ ระบายสี
10 – 11 น. : เล่านิทาน เล่นละคร สวมบทบาทกัน
11.00 น. : เวลาเลโก้และปริศนา
เที่ยง – 13.00 น. : อาหารกลางวัน
13 -14 น. : การเล่นทรายการระบายสี / การระบายสี
14 – 15 น. : เวลาพัก (ถ้าลูกของคุณยังงีบหลับ)
16 – 17.30 น. : ภาพยนตร์เรื่องโปรด
เด็ก ๆ ในบางประเทศอาจอยู่ในช่วงวันหยุด แต่อย่างไรก็ตามโรงเรียนอื่น ๆ ทั่วโลกได้ปิดตัวลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเนื่องจากความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโควิด-19
โรงเรียนเหล่านี้หลายแห่งอาจจะมีการเรียนออนไลน์ คุณสามารถดาวน์โหลดบทเรียนและเกมการเรียนรู้ได้ฟรี ด้วยสื่อเหล่านี้ ซึ่งมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายของเด็กโต เด็กวัยเรียนอีกด้วย
คุณอาจจะสร้างและกำหนดตารางเวลาสำหรับพวกเขาให้คล้ายกับการไปโรงเรียน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาสบายใจและสะดวกสบายในการสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวัน และที่สำคัญอย่าลืมให้ความสำคัญกับอาหารแต่ละมื้อด้วย
รายการสื่อต่าง ๆ ที่อยากแนะนำ
เว็บไซต์ออนไลน์ :
- BrainPop
- Curiosity Stream
- Tynker
- Outschool
- Beast Academy (Math)
- Khan Academy
- Creative Bug
- Discovery Education
ช่อง Youtube :
- Crash Course Kids
- Science Channel
- SciShow Kids
- National Geographic Kids
- Geography Focus
- TheBrainScoop
- SciShow
- Kids Learning Tube
- Geeek Gurl Diaries
- Mike Likes Science
นอกจากนี้ Scholastic ยังได้สร้างเว็บไซต์การเรียนรู้จากที่บ้านฟรี พร้อมการเรียนรู้และกิจกรรมมากกว่า 20 วัน
คุณสามารถพาลูกหลานของคุณทำเป็นไปเที่ยวรอบโลกได้โดยการไปทัวร์เสมือนจริงของพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงทั้ง 12 แห่งในเว็บไซต์นี้
3.วิธีแบ่งแยกหน้าที่
มีโอกาสสูงที่คู่ของคุณจะอยู่บ้านช่วงเวลาเดียวกันกับคุณและเด็ก ๆ คุณอาจจะใช้โอกาสนี้สลับกันดูแลลูกน้อย โดยการจัดการเวลาให้เหมาะสมกับคุณทั้งคู่ เพื่อให้แน่ใจว่ากิจวัตรของคุณทั้งคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตัวอย่างเช่น หากคุณคนใดคนหนึ่งสามารถเริ่มทำงานช้ากว่าอีกคนได้เล็กน้อย คน ๆ นั้นก็สามารถพาเด็ก ๆ ออกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ก่อนได้ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณอีกคนมีเวลาเพียงพอที่จัดการสิ่งต่าง ๆ และตั้งใจกับงานที่สำคัญได้ ในทำนองเดียวกันหากคุณคนใดคนหนึ่งจำเป็นต้องรับสายสำคัญหรือเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอคนอื่น ๆ คุณอีกคนอาจจะหากิจกรรมทำร่วมกับเจ้าหนูน้อยในช่วงเวลานั้นได้
4. กำหนดกิจวัตรสำหรับตัวคุณเอง
สิ่งนี้สำคัญพอ ๆ กับการสร้างกิจวัตรสำหรับลูกของคุณ การทำงานจากที่บ้านไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนคิด มันยากมากที่จะทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิมากกว่าการทำงานที่ออฟฟิศ การทำงานจากที่บ้านนั้นเกี่ยวข้องกับการมีวินัยในตนเองและสิ่งสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้คือการกำหนดกิจวัตรสำหรับตัวคุณเอง
เริ่มต้นวันใหม่ของคุณก่อน ตื่นก่อนเด็ก กินอาหารเช้า ออกกำลังกาย ถ้าเป็นไปได้อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า คุณอาจกระชับเวลาทำงานให้ได้ก่อนที่เด็ก ๆ จะตื่นขึ้น แม้ว่าจะเป็นเพียงการตอบเมลหรือติดต่องานผ่านเมลก็ตาม คุณจะต้องไม่เพิ่มงานบ้านให้ตัวเอง เปลี่ยนไปทำสิ่งเหล่านี้ในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนที่คุณจะนั่งทำงานหรือในตอนเย็นแทน
สิ่งที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น การเตรียมอาหารกลางวัน ทำความสะอาดจานชามหรือเลี้ยงลูกของคุณ หากลูก ๆ ของคุณอายุมากพอที่จะทำงานบ้านคุณสามารถมอบหมายงานให้พวกเขาแทนได้
5. สร้างพื้นที่ทำงานสำหรับตัวคุณเอง
เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องมีพื้นที่ในบ้านที่เอื้อต่อการทำงาน หากคุณยังไม่มีพื้นที่ดังกล่าว ให้สร้างพื้นที่ในห้องนั่งเล่นหรือห้องครัวปจนถึงห้องนอน รักษาพื้นที่ให้สะอาดและสวยงาม สบายตา และอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการทำงานด้วย และเพื่อความแน่ใจอย่าลืมตรวจสอบสัญญาณอินเตอร์เน็ตของคุณด้วยว่า สามารถติดต่อกับเพื่อนร่วมงานของคุณได้หรือไม่ จะได้ไม่เป็นปัญหาเมื่อคุณต้องการใช้โทรศัพท์หรือเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอ
หากคุณไม่สามารถตีตัวออกห่างจากลูก ๆ ของคุณได้ และทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณหัวเห็นว่าคุณกำลังทำงานและถูกรบกวนโดยเด็ก ๆ คุณอาจจะสร้างสัญลักษณ์ลับสำหรับลูก ๆ ของคุณ เพื่อให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาควรทำตัวอย่างไร
6. กำหนดขอบเขตสำหรับตัวคุณเองและลูก ๆ ของคุณ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณปิดคอมพิวเตอร์และปิดการแจ้งเตือนทางโทรศัพท์ของคุณเรียบร้อยแล้ว เพราะบางครั้งคุณอาจจะถูกติดต่องานในยามที่คุณกำลังนอน ซึ่งหมายความว่าคุณจะทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนหากคุณลืมปิดมัน ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องกำหนดขอบเขตของลูก ๆ ของคุณเมื่อคุณทำงานด้วย เด็กโตควรเข้าใจและเคารพคำอธิบายง่าย ๆ ว่าคุณกำลังทำงานแม้ว่าคุณจะอยู่บ้าน
7. จัดระเบียบ
ควรเตรียมสิ่งของและกิจกรรมที่จำเป็นสำหรับวันลูกของคุณล่วงหน้า เพื่อให้เขามีกิจกรรมทำขณะที่คุณทำงานอยู่ พยายามวางแผนสำหรับสัปดาห์ข้างหน้าด้วย หรืออย่างน้อยก็ควรที่จะวางแผนแบบวันต่อวัน
8. ยอมรับความจริงและอะลุ่มอล่วย
อาจจะเป็นเรื่องยากที่เด็ก ๆ จะทำตามแผนการที่คุณจัดการไว้ให้ อย่าคาดหวังว่าพวกเค้าจะทำตามแผนทุกอย่างเป๊ะ ๆ บางอย่างที่เห็นว่าสามารถปล่อยไปได้ ก็ให้คุณปล่อยไป บางครั้งลูกของคุณอาจจะไม่อยากเล่นของเล่นใด ๆ เลย แต่เพียงต้องการที่จะอยู่กับคุณเพียงเท่านั้นเอง
บทความต้นฉบับ : Asianone
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สหรัฐฯเริ่มทดสอบ วัคซีนต้านโควิด-19 (Covid-19) กับมนุษย์เป็นครั้งแรก
ลูกช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านดียังไง? มาดู ประโยชน์ของการช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
วิจัยจีนเผย เลือดกรุ๊ป A เสี่ยงติดโควิด มากกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น กรุ๊ป O เสี่ยงน้อยสุด