ท้องแล้วขี้น้อยใจ อารมณ์อ่อนไหว เหวี่ยงวีนบ่อยๆ เป็นเพราะอะไร แม่ต้องทำยังไง

ท้องแล้วขี้น้อยใจ หงุดหงิดง่าย อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เป็นแบบนี้บ่อยๆ เกิดจากอะไร คนท้องควรรับมืออย่างไรไม่ให้ตัวเองกลายเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว มาดูวิธีกันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ท้องแล้วขี้น้อยใจ อารมณ์อ่อนไหว เหวี่ยงวีนบ่อยๆ เป็นเพราะอะไร แม่ต้องทำยังไง

สำหรับคุณแม่ที่มักอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ท้องแล้วขี้น้อยใจ อารมณ์แปรปรวน เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่สาเหตุหลักๆ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายในร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ และ ความกังวลกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ จนบางครั้งคุณแม่มีอารมณ์เหมือนคนเป็นไบโพล่าเดี่ยวดีเดี๋ยวร้าย เมื่อกี้ยังหัวเราะดีใจตื่นเต้นอยู่เลย สักพักดราม่าร้องไห้ขึ้นมาเฉยๆ ซะแล้ว เรามาดูเหตุผลที่ก่อให้เกิดอารมณ์แปรปรวญ ในคุณแม่กันดีกว่า !

 

เกิดอะไรขึ้นกับคนท้องในไตรมาสแรก อารมณ์น้อยใจ

ฮอร์โมนคนท้องทำให้คุณแม่มีอารมณ์แปรปรวน ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว มีอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน บางครั้งแค่ได้กลิ่นอาหารแรงๆ ก็ทนไม่ได้ หรือในทางตรงกันข้ามคือ หิวมาก เพิ่งกินไปเมื่อสักครู่ ก็รู้สึกอยากอาหารอีกแล้ว บางครั้งยังรวมถึงอาการแพ้ท้องอีกต่างหาก

สำหรับคุณแม่ ที่มีอาการแพ้ท้องจะรู้สึกแย่มากขึ้น จิตใจไม่ค่อยอยากจะทำอะไร ทั้งยังความกังวลที่ตามมาอีกมากมายเพราะกลัวว่าลูกจะเป็นอะไรหรือเปล่า  แม่กินอะไรก็ไม่ได้ อยากกินแต่ก็ฝืนไม่ไหว พอคนท้องรู้สึกกังวลก็ยิ่งทำให้เกิดความเครียดขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นคุณสามีต้องคอยดูแลภรรยาอย่างดี  และ ต้องเข้าใจด้วยหากอยู่ดีๆ คุณภรรยาอารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างกระทันทันเพราะฮอโมนนั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ความเหนื่อยล้า ก็เป็นอาการในช่วงแรกๆ ของการตั้งครรภ์ที่คุณแม่ต้องเจอบ่อยๆ อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนท้องอารมณ์เปลี่ยนแปลงได้ง่ายเช่นกัน และ  หากคุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์แท้งลูก  ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ก็จะยิ่งกังวลมากกว่าเดิม กลัวว่าตัวเองจะต้องเสียลูกอีกหรือเปล่า ซึ่งความกลัวและอาการต่างๆ จะเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ของคนท้องนั่นเอง

เกิดอะไรขึ้นกับคนท้องในไตรมาสที่สอง

สำหรับคนท้อง ในไตรมาสที่ สอง ฮอร์โมนของคนท้องก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่เคยน้อยกว่าในช่วง 2 - 3 เดือนแรกค่ะ ทำให้คุณแม่หลายคนรู้สึกดีขึ้นเพราะอาการแพ้ท้องได้ทุเลาลงไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ก็ยังคงอยู่ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องที่เริ่มใหญ่ขึ้น อาการปวดต่างๆ เริ่มตามมา ในช่วงนี้คุณแม่ก็จะรู้สึกตื่นเต้นพร้อมๆ กับความกังวลที่มีมากขึ้นตามอายุครรภ์ค่ะ

ในไตรมาสนี้ คุณแม่หลายคนอาจต้องมีการเจาะน้ำครำ เพื่อเช็คสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ และการเฝ้าติดตามการดิ้น หรือ การเคลื่อนไหวของลูกในท้อง ทำให้คุณแม่มีความวิตก กังวลต่างๆ นานาภายในจิตใจจนส่งผลต่ออารมณ์ลึกๆ ที่คุณแม่อาจไม่รู้ตัว แต่ก็ยังมีคุณแม่บางท่านที่รู้สึกว่าช่วงนี้มีความต้องการทางเพศสูง ทำให้ตัวเองรู้สึกหวยหาการมีเซ็กส์เพราะ ตอนนี้ตัวเองเริ่มมีอาการดีขึ้นแล้ว ไม่แพ้ท้องเหมือนเมื่อก่อนค่ะ

เกิดอะไรขึ้นกับคนท้องในไตรมาสที่สาม อารมณ์น้อยใจ

ช่วงไตรมาสที่สาม คุณแม่จะนอนไม่ค่อยหลับในช่วงกลางคืน ไหนจะความเหนื่อยล้า ความยากลำบาก และความไม่สบายเนื้อสบายตัว เมื่อคุณแม่นอนไม่ค่อยพอก็จะทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่ายค่ะ อีกทั้งยังความกังวลเกี่ยวกับลูกน้อยอีกด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ท้องแล้วอารมณ์แปรปรวน

วิธีรับมือกับอารมณ์แปรปรวน

1.อดทนให้มากขึ้น

คุณแม่ตั้งครรภ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เมื่อคุณแม่รู้สึกว่าตัวเองเริ่ม หงุดหงิด หรือ มีอาการไม่พอใจ กับเหตุการณ์บางอย่าง ควรพาตัวเองออกจากที่ตรงนั้น หรือ พยายามทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง แต่ก็มีคุณแม่หลายคนที่ปล่อยให้ตัวเองไปกับอารมณ์คนท้องมากเกินไป จนทำให้ตัวเองเครียดได้ และอาการเครียดนานๆ กับคนท้องย่อมส่งผลไม่ดีกับคุณแม่และลูกในท้องค่ะ เพราะ อาจทำให้ลูกมีอาการโคลิคเมื่อคลอดออกมาได้ คุณแม่จึงควรระวัง และ ผ่อนคลายเข้าไว้ค่ะ

2.พูดคุยกับสามี

กิจกรรมภายในครอบครัว

คุณแม่ควรคุยกับคุณพ่อถึงเรื่องอารมณ์คนท้อง อารมณ์ที่ขึ้นๆ ลง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หรือ ว่าอยู่ๆ น้อยใจ ร้องไห้ออกมาแบบไม่มีเหตุผล อารมณ์เหล่านี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่าสามีหรือคนรอบข้าง แต่มันเกิดขึ้นจากฮอร์โมนของคนท้องเอง พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลใจหรือต้องทำให้พวกเขาเข้าใจคนท้องให้มากขึ้น

3.เตรียมรับมือกับอาการแพ้ท้อง

สุขภาพของคุณแม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เวลาที่คนท้องแพ้ท้องมักทำให้ตัวคุณแม่รู้สึกไม่ดี รู้สึกแย่ จากการที่กินอะไรไม่ได้ เหนื่อยง่าย อยากนอน อยากอาเจียนตลอดเวลา และ อาจนำไปสู่อารมณ์แปรปรวนได้ ดังนั้นคุณแม่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมหากต้องออกเดินทางไปทำงาน เตรียมของกิน หรือพักผ่อนมากๆ เพื่อไม่ให้ถูกอาการแพ้ท้องจู่โจม จนเกิดเป็นความเครียด และ อาจกลายเป็นความอ่อนล้าได้ค่ะ

4.จัดการกับเวลานอน

การพักผ่อนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

การพักผ่อน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนท้องอย่างมาก ถึงแม้ว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายคุณแม่จะนอนหลับยาก หรือรู้สึกไม่สบายตัวก็ตาม ส่วนในระหว่างวันหากรู้สึกง่วงควรหาเวลาพักผ่อนโดยการงีบตอนกลางวัน อาจจจะเป็นช่วงพักเที่ยงในแต่ละวันก็ได้ค่ะ

5.พูดคุยกับคุณแม่ท่านอื่น

อา การ แพ้ท้อง

เวลาที่คุณแม่รู้สึกังวล เครียด เรื่องการเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ หรือ ความกังวลเกี่ยวกัลเรื่องของคนท้องคงไม่มีใครเข้าใจและสามารถที่จะเป็นที่ปรึกษาของคุณแม่ที่ดีได้ นอกจากระหว่างคุณแม่ด้วยกันค่ะ ดังนั้น หากมีเรื่องที่ไม่สบายใจการพูดคุยแลกเปลี่ยนวิธีการดูแลตนเองของคนท้องและการเลี้ยงลูกขะทำให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นค่ะ

6.เล่นโยคะหรือนั่งสมาธิ

กิจกรรมยามว่าง

การเล่นโยคะจะทำให้คุณแม่มีความสงบมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความวิตกกังวลลงไปได้ หรือแม้แต่การนั่งสมาธิค่ะ นอกจากนี้การเล่นโยคะระหว่างตั้งครรภ์ยังเป็นการช่วยลดอาการปวดเมื่อย และการเตรียมตัวคลอดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ดีอีกด้วย

7.เลิกอ่านบทความที่ทำให้เครียด

การผ่อนคลายความเครียด

บางครั้งบทความ หรือข่าวที่น่ากลัวๆ หรือรุนแรงอาจสร้างความเครียดและความวิตกกังวลให้กับคนท้องมากขึ้น หากเป็นไปได้ บทความไหนที่รู้สึกว่ากระทบกระเทือนจิตใจ พยายามอย่าอื่น หรือหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ

ที่มา: verywellfamily

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

ท้องแล้วหงุดหงิดใช่ไหม? เรามี 10 วิธีตั้งสติของแม่ท้องขี้เหวี่ยงมาบอกกัน

คนท้องอารมณ์แปรปรวน ขี้เหวี่ยง ขี้วีน ใครล่ะจะเข้าใจ?

ท้องอยู่นะอย่าขัดใจ คนท้องอารมณ์อ่อนไหว ท้องแล้วเห็นแก่ตัว อยากกินอะไรต้องได้กิน

บทความโดย

Khunsiri