เบื่อ! ทำไมชอบหงุดหงิดตอนท้องแก่ ยิ่งใกล้คลอดยิ่งหงุดหงิด

เบื่อ! ทำไมชอบหงุดหงิดตอนท้องแก่ ยิ่งใกล้คลอดยิ่งหงุดหงิด

คุณแม่ท้องหลาย ๆ คน โดยเฉพาะที่กำลัง ท้องแก่ อาจจะมีความรู้สึกหงุดหงิดง่าย เห็นอะไรนิดอะไรหน่อย ก็ขัดตาไปเสียหมด คนรอบตัวทำอะไรก็ไม่ถูกใจ พอจะทำเองก็ติดที่ท้องใหญ่ ทำอะไรก็ลำบาก ยิ่งตอนใกล้คลอดด้วยแล้ว ยิ่งโมโหง่าย แถมยังจะพาลหงุดหงิดสามี และคนรอบข้างด้วย ซึ่งก็มีหลายครั้ง ที่สามีก็มีแอบน้อยใจบ้าง จนอาจจะเกิดเป็นปัญหาครอบครัว ถึงขั้นทะเลาะกันได้ แล้วแบบนี้ ทำไมชอบหงุดหงิดตอนท้องแก่ แบบนี้มันปกติสำหรับแม่ท้องหรือเปล่า?

เรื่องความหงุดหงิด หรืออารมณ์ที่แปรปรวนได้ง่ายตอนท้องนั้น นอกจากเรื่องของฮอร์โมน ที่มีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างตั้งครรภ์แล้ว สาเหตุอีกส่วนหนึ่งของเหตุผล ที่ทำให้ชอบหงุดหงิดตอนท้องแก่ อาจเป็นเพราะว่า คนเราเมื่อมีความกังวล ก็ย่อมหงุดหงิดเป็นเรื่องปกติ

ยิ่งในช่วง ใกล้คลอด แม่ท้องก็มักจะกังวลไปต่าง ๆ นานา มีทั้งกังวลเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับการคลอดที่กำลังจะมาถึง เช่น กลัวเจ็บบ้าง กลัวว่าลูกจะเกิดมาไม่แข็งแรง สมบูรณ์บ้าง อีกทั้งยังอาจจะเครียดเรื่องที่ต้องเลี้ยงลูกหลังคลอด ไหนจะเรื่องงาน ไหนจะเรื่องเงิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดความเครียด กังวล จนพาลมาทำให้หงุดหงิดเป็นธรรมดาครับ

หงุดหงิดมากไป ไม่ดีนะ

การที่คนท้องเครียด กังวล หรือหงุดหงิดมากจนเกินไป ย่อมส่งผลเสียต่อทั้งร่างกาย และจิตใจของคุณแม่เอง และยังส่งผลไปยังลูก ที่อยู่ในครรภ์อีกด้วย อาการหงุดหงิดที่เกิดจากความเครียด อาจส่งผลให้ร่างกายของคุณแม่อ่อนแอลง และมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว

นอกจากนี้ยัง อาจส่งผลทำให้เจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด อาจทำให้หลอดเลือดตีบลง และความดันโลหิตสูงได้ อีกทั้งยังอาจทำให้ลูกมีน้ำหนักตัวน้อยเมื่อแรกคลอด

เพราะลูกน้อยในครรภ์ สามารถรับรู้ความรู้สึกของคุณแม่ได้ หากคุณแม่โมโหง่าย หงุดหงิดอยู่ตลอด ก็มีโอกาสที่จะทำให้ลูกคลอดออกมาเป็นเด็กเลี้ยงยาก งอแง โมโหง่ายได้เหมือนกัน

ไม่ได้อยากหงุดหงิดเลย แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะ

เชื่อว่าแม่ท้องใกล้คลอดหลาย ๆ คน ก็ไม่ได้อยากจะเป็นคนขี้หงุดหงิดหรอก จริงไหมครับ? ซึ่งการที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ของภาวะทางอารมณ์นั้น คุณแม่ต้องพยายามเข้าใจ ยอมรับ และรู้จักหาวิธีผ่อนคลาย อีกทั้งคนรอบข้าง ก็ควรที่จะยอมรับและเข้าใจด้วยเช่นกัน

ซึ่งวิธีการต่าง ๆ ที่คุณแม่ท้องน่าจะทำได้ เพื่อลดความกังวลได้ มีดังต่อไปนี้

• พูดคุยกับคุณหมอ เกี่ยวกับเรื่องของ การคลอด แม่ท้องสามารถซักถาม จนกว่าจะเกิดความเชื่อมั่น ก็น่าจะทำให้ความวิตกกังวลลดลงได้อยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย
• หาเวลาว่างทำอะไรต่าง ๆ ก็ตามที่พอทำได้ เพื่อผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง ออกไปเดินเล่นสูดอากาศ ก็จะลดความกังวลไปได้ไม่มากก็น้อยเช่นกัน
• นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ พักบ้างระหว่างวัน งีบหลับบ้างถ้ามีเวลา
• หาเวลาไปสปา หรือเล่นโยคะเบา ๆ

แม้ว่าช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่อาจจะขี้หงุดหงิดง่าย ขี้โมโหไปบ้าง แต่อย่าลืมว่าท้องนี้ยังมีเรื่องดี ๆ รออยู่อีกมากนะครับ

The Asianparent Thailand เพื่อลงทะเบียนรับการดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ช่วงไตรมาสแรก มาติดตามพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด ลูกโตขึ้นแค่ไหนกันนะ ไตรมาสที่ 2  มาฟังเสียงลูกน้อย นับว่าหนึ่งวันลูกดิ้นไหมนะ และลูกดิ้นวันละกี่ครั้งด้วยแอพพลิเคชั่น The Asianparent  นี่เป็นแค่ตัวอย่างกิจกรรมบนแอพพลิเคชั่นในส่วนแรก เพราะคุณแม่จะได้รับการดูแล ทั้งอาหารการกิน โดยการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญ ว่าควรทานอะไรบ้าง ในแต่ช่วงอายุครรภ์ ยาที่เป็นอันตรายชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทาน กิจกรรมใดบ้างที่ทำได้ หรือทำไม่ได้ เคล็ดลับการตั้งชื่อลูกอย่างไรให้เป็นมงคล ทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย รวมถึงเตรียมแผนการล่วงหน้าถึงอนาคต การเตรียมคลอด การดูแลตนเองหลังคลอด ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องการ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

สามีต้องรู้: ทำอย่างไร เมื่อภรรยาท้อง ใกล้คลอด

6 สัญญาณเตือน โค้งสุดท้ายใกล้คลอด คุณแม่เตรียมตัวได้เลย

ท้องแก่อยากเร่งคลอด ไม่อยากท้องนานเกิน ทำอย่างไรดี