ทําไมทารกแรกเกิดจึงร้องไห้?
การร้องไห้ครั้งแรกของทารกแรกเกิดสำคัญต่อการมีชีวิตรอดของเด็กอย่างมาก เนื่องจากทารกเติบโตภายในมดลูกโดยได้รับออกซิเจนจากสายรกมาตลอด ซึ่งหมายความว่า ขณะอยู่ในท้องแม่นั้น ทารกไม่ได้ใช้ปอดในการหายใจ แต่เมื่อคลอดออกมาคุณหมอได้ทำการตัดสายสะดือ เป็นอันหมดหน้าที่ของรก เด็กแรกเกิดจึงต้องเริ่มหายใจด้วยปอดของตัวเองค่ะ
ทารกแรกเกิดจะร้องไห้ภายใน 20 วินาที ถึง 1 นาทีแรกของชีวิต เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ปอดทำงาน ร่างกายจะได้ไม่ขาดออกซิเจน ถ้าเบบี๋ไม่ร้อง คุณหมอจะกระตุ้นให้ร้อง โดยการจับตบที่ก้น นวดฝ่าเท้า หรือถูหลังทารกแรกเกิด
นอกจากนี้ การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมแบบกะทันหัน จากในที่มืดๆ แคบๆ มาเป็นที่มีแสงสว่างจ้าก็เป็นเหตุให้เบบี๋ที่รู้สึกทั้งเหนื่อยและหิวร้องออกมาได้เช่นกัน และอุณหภูมิที่ลดลงอย่างฉับพลัน จากอุณหภูมิในท้องแม่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส มาสู่อุณหภูมิเฉลี่ยในห้องคลอดราว 28 องศาเซลเซียส เมื่อคลอดออกมาด้วยร่างกายเปลือยเปล่าและเปียกปอน สภาพแวดล้อมภายนอกครรภ์เช่นนี้จะกระตุ้นให้เบบี๋มีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการสูดหายใจลึกๆ ดึงเอาอากาศเข้าไปในทางเดินหายใจ แล้วร้องไห้ออกมาขณะหายใจออก ทำให้มีการหายใจเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ระบบการหายใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยที่กระตุ้นให้ทารกร้องไห้หลังคลอดทันที
การแลกเปลี่ยนก๊าซ:
ในระหว่างการคลอด การหดตัวของมดลูกทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนก๊าซผ่านเลือดของแม่กับเลือดของทารก ที่จะเปลี่ยนไปสู่ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้น ทุกครั้งที่มีการหดตัวจะมีการเพิ่มขึ้นของระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดของทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการคลอดระยะที่สอง ซึ่งเป็นระยะเบ่ง เมื่อคุณแม่กลั้นหายใจเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ภาวะความเป็นกรดในเลือดของทารกนี้ชักนำให้ทารกมีการหายใจเพิ่มขึ้น
ภาวะไร้น้ำหนัก:
เนื่องจากลูกน้อยได้ใช้เวลาเก้าเดือนในครรภ์ที่มีสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยของเหลว (น้ำคร่ำ) ทำให้รู้สึกเบากว่าน้ำหนักจริง แต่หลังจากเบบี๋คลอดออกมาแล้ว ทารกจะรู้สึกสูญเสียภาวะไร้น้ำหนัก จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งในการร้องไห้ของทารก
สายสะดือ:
ความยาวของสายสะดือปกติอยู่ที่ 30-60 เซนติเมตร หากสายสะดือยาวกว่า 60 เซนติเมตร มันอาจจะพันทารกในครรภ์ หรือทารกแรกเกิดจนรัดแน่น หากสายสะดือสั้นกว่า 25 เซนติเมตรอาจทำให้รกลอกตัวก่อนกำหนดจากการดึงอย่างแรง หรือจากการฉีกขาดของสายสะดือ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังทารกในระหว่างการคลอด และยังมีอิทธิพลต่อการหายใจครั้งแรกของทารกอีกด้วย นอกจากนี้ การผูกสายสะดือทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น กระตุ้นตัวรับความดันเลือด และระบบประสาทซิมพาเทติก ทำให้มีการหายใจเพิ่มขึ้น
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการร้องไห้ครั้งแรกของทารก
ถ้าลูกน้อยของคุณร้องไห้นานเกินกว่า 2-3 นาทีหลังคลอด หรือหลังจากดูดนมครั้งแรก มีความเป็นไปได้ว่าทารกจะได้รับความบอบช้ำหรือการบาดเจ็บ หากเบบี๋ร้องไห้เร็วเกินไป หมายถึงก่อนที่ไหล่ของเบบี๋จะผ่านออกมาจากช่องคลอด ทารกอาจเริ่มหายใจในขณะที่ยังไม่มีอากาศที่เหมาะสม แต่คาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดไปกระตุ้นศูนย์การหายใจในสมอง ทำให้ทารกสำลักน้ำคร่ำได้
วัดคุณภาพการร้องไห้ครั้งแรกของทารก
- หากการร้องไห้ครั้งแรกของทารกโหยหวนมาก อาจเป็นสัญญาณของความดันสูงภายในกะโหลก
- หากเสียงร้องเป็นเสียงแหบ อาจเป็นสัญญาณของกล้ามเนื้อชัก
- หากร้องไห้เหมือนแมว อาจเป็นสัญญาณของโรคทางพันธุกรรม
- หากร้องไห้เสียงแผ่วเบา แม้คุณหมอจะกระตุ้นแล้วก็ตาม อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาทอย่างรุนแรงหรือความผิดปกติอื่น ๆ
ทารกที่ไม่ร้องจะเป็นอย่างไร?
ทารกที่ไม่ร้องไห้ทันทีที่คลอดอาจเป็นไซนัสหรือเป็นหวัดในขวบปีแรก และในอนาคตยังอาจติดเชื้อในหู คอ จมูก หรือเกิดการอักเสบเรื้อรังที่หูชั้นกลาง นำไปสู่อาการหูหนวกและพูดช้าค่ะ
ที่มา www.momjunction.com
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
ปอดของทารกในครรภ์มีพัฒนาการอย่างไร
ความพยายามของทีมแพทย์ช่วยชีวิตทารกแรกเกิดหยุดหายใจ