ควรตรวจครรภ์ตอนไหน ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด อาจเป็นปัญหาของคุณผู้หญิงหลายคน ที่กำลังมองหาคำตอบ บางคนได้ยินว่าควรตรวจตอนเช้า บางคนไม่รู้ว่าจะต้องตรวจหลังประจำเดือนไม่มากี่วัน หรือหลังมีเพศสัมพันธ์กี่วัน บทความนี้จะให้คำตอบกับคุณเอง
ควรตรวจครรภ์ตอนไหน ให้มีความแม่นยำ
- สำหรับชุดตรวจครรภ์แบบตรวจปัสสาวะ ควรเริ่มตรวจจากช่วงที่ประจำเดือนไม่มาตามปกติ โดยให้ตรวจในวันที่ 7 นับจากวันแรก
- ตรวจได้หลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วเกิน 6 วันขึ้นไป เนื่องจากหากตั้งครรภ์ร่างกายจะผลิตฮอร์โมน HCG แล้ว แต่ต้องทำการตรวจซ้ำ 2-3 ครั้ง หากใช้วิธีนี้
- แนะนำให้วางเวลาตรวจช่วงเช้าก่อน เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสน้อยจากการปนเปื้อนสารอื่น ๆ แต่หากไม่มีทางเลือก หรือต้องการตรวจเร่งด่วน ก็สามารถตรวจช่วงเย็น หรือกลางคืนได้เช่นกัน
- การตรวจตั้งครรภ์ช่วงเย็น จะมีความเสี่ยงการปนเปื้อนจากสารอาหารที่ทานในระหว่างวันได้
- ตรวจตอนกลางคืนได้เช่นกัน แต่อาจมีความเสี่ยงจากสารอื่น ๆ เช่น ยาขับปัสสาวะ หรือยาแก้แพ้ ที่อาจทำให้ผลลัพธ์จากการตรวจครรภ์คลาดเคลื่อนได้
- ไม่ว่าจะตรวจตอนเช้า หรือตอนกลางวัน ไม่ควรตรวจเพียงครั้งเดียวแล้วจบไป ควรตรวจซ้ำ หากต้องการตรวจซ้ำเพื่อความมั่นใจ ให้ตรวจห่างจากครั้งแรกประมาณ 2-3 วัน
ถึงแม้ว่าการตรวจหลังขาดประจำเดือน จะเป็นวิธีที่แนะนำหากทำการตรวจครรภ์ด้วยตนเอง แต่เนื่องจากการขาดประจำเดือนอาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ได้ และนับว่าเป็นผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน จึงอาจดีกว่าหากมีความสงสัยในผลการตรวจ แล้วตัดสินใจเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท้องขึ้นกี่ขีด ตรวจยังไงถึงรู้ว่าท้อง สองขีดเข้ม หรือสองขีดจางบอกอะไร
สงสัยเรื่องตรวจครรภ์ อยากได้ความรู้เพิ่มเติม เลือกอ่านจากบทความการตรวจครรภ์ได้ คลิก
วิดีโอจาก : หมอยาพารู้ ทริปสุขภาพ by NuuNa
ตรวจครรภ์ตอนเช้าได้ผลดีกว่าตรวจครรภ์ตอนเย็นจริงหรือ ?
เมื่อคุณผู้หญิงเลือกที่จะตรวจการตั้งครรภ์ อาจมองว่าต้องตรวจวันไหน เวลาไหน จนมีการพูดกันปากต่อปากว่า ตรวจตอนเช้าจะได้ผลแม่นยำกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว เวลาในการตรวจไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า, กลางวัน หรือตอนเย็น จะไม่ค่อยมีความแตกต่างต่อผลลัพธ์มากนัก เนื่องจากช่วงเวลาในการตรวจไม่ได้มีผลมากไปกว่าฮอร์โมน การตรวจครรภ์มีความสำคัญ คือ รูปแบบของ “ฮอร์โมน HCG” ในร่างกายคุณผู้หญิง ที่สามารถบ่งบอกได้ว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่
ดังนั้นทุกครั้งที่คุณผู้หญิงจะตรวจครรภ์จึงต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ช่วงเช้า หรือเย็น เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจ โดยปกติแล้วควรให้ความสำคัญกับหลังช่วงประจำเดือนที่ขาดไป 7 วัน จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำยิ่งขึ้นจริง ๆ โดยการตรวจช่วงกลางคืนเองก็อาจมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนต่อสารอื่นได้ ดังนั้นการตรวจครรภ์ไม่ว่าจะเวลาไหนควรตรวจซ้ำ เพื่อมั่นใจในผลลัพธ์มากขึ้น
ฮอร์โมน HCG เกี่ยวอะไรกับการตรวจครรภ์ ?
ฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) เป็นฮอร์โมนที่จะบ่งบอกถึงภาวะของการตั้งครรภ์ได้ โดยจะมีการผลิตอย่างรวดเร็ว หลังจากมีการปฏิสนธิภายใน และจะมีความเข้มข้นมากขึ้นไปอีกหลังจากตั้งครรภ์ไปแล้วประมาณ 7 วัน จะสามารถตรวจพบได้ในเลือด และปัสสาวะ
โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะมีระดับความเข้มที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงเช้า แต่ไม่ได้หมายความว่าในช่วงตอนเย็นจะไม่มี แม้จะตรวจเวลาไหนก็ทำให้ได้ผลลัพธ์จากฮอร์โมนชนิดนี้เช่นเดียวกัน แต่นอกจากการมีฮอร์โมน HCG ปริมาณสูงจะบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์แล้ว ยังสามารถบอกความผิดปกติของร่างกายด้านอื่น ๆ ด้วย ได้แก่
- การตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ : ไม่ว่าจะเป็น รกมีความผิดปกติ, การตั้งครรภ์นอกมดลูก, การตั้งครรภ์แฝด หรือตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นต้น
- อาการแพ้ท้อง : คุณแม่หลายคนอาจมีอาการ วิงเวียนศีรษะ อาเจียน จากอาการแพ้ท้อง บางรายอาจมีความรุนแรงจนต้องพักที่โรงพยาบาลเช่นกัน
ที่ตรวจครรภ์เกิดความผิดพลาดได้ไหม ?
ที่ตรวจครรภ์มีอยู่ให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ และรุ่นที่แตกต่างกัน แล้วแต่ความต้องการที่จะซื้อมาใช้งานของแต่ละบุคคล ซึ่งอาจมีวิธีใช้ที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย ก่อนเปิดใช้งานจึงควรต้องศึกษาข้อมูล และวิธีใช้อย่างละเอียดก่อน เพื่อป้องกันผลลัพธ์ที่อาจคลาดเคลื่อนได้ นอกจากนี้ถึงแม้จะใช้งานได้อย่างถูกวิธี และสามารถอ่านผลได้ถูกต้องแล้ว แต่ความเคลื่อนยังสามารถเกิดได้จากปัจจัยอื่น เช่น การปนเปื้อนสารต่าง ๆ ระหว่างการตรวจ เช่น ยาที่ทานเป็นประจำ หรือสารอาหารที่ทานในวันนั้น เป็นต้น เมื่อความคลาดเคลื่อนอาจเกิดขึ้น และยากที่จะควบคุม การเรียนรู้ช่วงเวลาในการตรวจ และข้อควรรู้ต่าง ๆ ก่อนลงมือตรวจ จะสามารถช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด ท้องหรือไม่? ควรทำอย่างไรเมื่อตรวจเจอ 2 ขีด?
ประจำเดือนไม่มาไม่ใช่การตั้งครรภ์เสมอไป
การที่ประจำเดือนไม่มาเป็นปกติ ไม่ใช่แค่สัญญาณของการตั้งครรภ์เท่านั้น หากตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบ หรือไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาก่อนในระยะเวลาที่มีความเสี่ยง อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น มีความเครียด, เข้าสู่วัยทอง, ผลข้างเคียงจากการทานยาบางชนิด หรือความไม่คงที่ของน้ำหนักตัว เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย เช่น ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้นอกจากจะห่วงเรื่องการตั้งครรภ์แล้ว เพื่อสุขภาพที่ดี และความปลอดภัย คุณผู้หญิงควรตั้งข้อสงสัยในกรณีอื่น ๆ ไว้ด้วย เนื่องจากหากเป็นสัญญาณของโรคร้ายจริง จะสามารถรักษาได้ทันก่อนอาการรุนแรง ดังนั้นหากมีความสงสัย ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจจะเป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือมากที่สุดการตั้งครรภ์เป็นเรื่องสำคัญของคุณผู้หญิง การเลือกเวลาตรวจ หรือปัจจัยอื่น ๆ เพื่อผลการตรวจที่มีความแม่นยำที่สุด ถือเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ เพราะหากพบว่ามีการตั้งครรภ์จริงจะสามารถดำเนินการฝากครรภ์ หรือทำตามขั้นตอนอื่น ๆ ได้ต่อไป
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ตรวจครรภ์ตอนไหน ตรวจตอนเย็นได้ไหม หรือว่าจะต้องตรวจตอนเช้าถึงจะดีที่สุด?
ราคาที่ตรวจครรภ์ ปี 2566 ยี่ห้อไหนดี รวมหมดทุกแบบไว้ที่นี่!
ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม ควรใช้อย่างไร จะเลือกใช้ ที่ตรวจครรภ์ยี่ห้อไหนดี
ที่มา : Doctorraksa, Siphhospital Primefertilitycenter