เด็กทำผิดมีโทษที่จีน คุกเด็ก จีนแก้กฎหมายจับเด็กโทษฐานฆาตกรรม

ประเทศจีนนำร่อง เด็กทำผิดต้องโดนทำโทษในจีน เด็กทำผิดมีโทษที่จีน คุกเด็ก จีนแก้กฏหมายจับเด็กโทษฐานฆาตกรรม เวลา 10-15 ปี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เด็กทำผิดมีโทษที่จีน คุกเด็ก จีนแก้กฎหมายจับเด็กโทษฐานฆาตกรรม

ศาลประชาชนสูงสุด ของประเทศจีนได้มีการปรับแก้กฎหมาย โดยศาลจีนได้ตัดสินลงโทษจำคุกเด็กอายุ 12-13 ปี จากความผิดทำร้ายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัส และฆ่าผู้อื่น โดยมีโทษจำคุกระหว่าง 10-15 ปี เด็กทำผิดมีโทษที่จีน คุกเด็ก จีนแก้กฎหมาย จับเด็กโทษฐานฆาตกรรม

 

 

เด็ก และเยาวชนชาวจีน 4 คน ถูกศาลประชาชนสูงสุด ซึ่งเป็นศาลฎีกาของประเทศจีน  พิพากษาโทษจำคุกตั้งแต่ 10-15 ปี เมื่อเร็ว ๆ นี้ จากการเปิดเผยของศาลในวันอังคารที่ 16 เมษายน หนึ่งในคดีที่ถูกตัดสินโทษดังกล่าวเป็นคดีบูลลี่ กลั่นแกล้ง และฆาตกรรมโหดในเมืองหานตาน มณฑลเหอเป่ยทางภาคเหนือ ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ 3 คน เป็นเด็กอายุ 13 ปี โดยศาลประชาชนสูงสุดระบุว่า เป็นการตัดสินโทษไปตามตัวกฎหมาย

คดีที่เมืองหานตานดึงดูดสาธารณชนให้ความสนใจกับข่าวที่มีเด็ก และเยาวชนเป็นผู้ก่อเหตุ จนเกิดข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการจับกุมผู้เยาว์อายุระหว่าง 12 – 14 ปี ซึ่งต้องรับผิดทางอาญาจากการก่ออาชญากรรมร้ายแรง และการฆาตกรรม

โดยเยาวชนทั้ง 3 คนถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ทีผ่านมา เพราะตกเป็นผู้ต้องสงสัยกลั่นแกล้งข่มเหงรังแก และฆ่าคนตาย โดยจากการสอบสวนพบว่า ทั้งสามคนเป็น “เด็กที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” (Left-Behind Children) หรือพ่อแม่ที่ต้องไปทำงานต่างถิ่น สื่อรายงานเมื่อวันที่ 8 เมษายน ว่าอัยการศาลประชาชนสูงสุดได้มีการพิจารณา และเห็นชอบให้คำเนินคดี กับเยาวชนทั้ง 3 คนนี้

ศาลประชาชนสูงสุดเผยว่า สถานการณ์การกระทำผิดของเยาวชนยังรุนแรง แถมมีการล่วงละเมิดทางเพศ สร้างข้อมูลที่เป็นอันตรายบนอินเทอร์เน็ต โดยผลจากการขาดการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เด็ก และเยาวชนกระทำความผิดเพิ่มมากขึ้น และปัญหาความรุนแรงในสถานศึกษาเป็นสิ่งที่ไม่อาจเพิกเฉยได้ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คดีเยาวชนกระทำความผิดมีจำนวนมากขึ้น

โดยตั้งแต่ปี 2564-2566 ศาลประชาชนสูงสุดได้สรุปคดีอาชญากรรมเกี่ยวข้องกับเยาวชนรวม 73,178 ดี และพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดเป็นเยาวชน 98,426 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 ถึง 2.5 ของผู้กระทำความผิดทางอาญาทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นฆาตกร

 

1. เลี้ยงด้วยความรักอย่างมีสติ

ข้อนี้เป็นหัวใจหลักที่สำคัญที่สุด หากคุณพ่อคุณแม่ได้อ่านประวัติของฆาตกรในหนังสือหลายเล่ม เช่น เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นฆาตกร แปลโดย คุณสรจักร จะพบว่าฆาตกรแทบทุกคนล้วนเติบโตมาโดยขาดความรัก ความอบอุ่น อาจโดนกระทำรุนแรงในครอบครัวตั้งแต่ยังเล็ก ทั้งทางร่างกาย วาจา และจิตใจ โดนทุบตีดุด่า หรือใช้อารมณ์ทำร้าย ทำให้พวกเขาไม่มีความไว้ใจโลกและคนรอบข้าง หวาดระแวงและท้ายที่สุดส่งผลให้ทำแบบเดียวกันกับที่ตนเคยถูกกระทำกับคนอื่น

ในทางตรงกันข้ามเด็กที่เติบโตมาด้วยความรัก จะเป็นเด็กที่ไม่รู้สึกขาด มีความมั่นคงทางอารมณ์ เป็นคนหนักแน่น รู้สึกอบอุ่น วางใจต่อโลกและคนรอบข้าง จิตใจอ่อนโยนและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อย่างไรก็ดีความรักที่พ่อแม่มีให้ก็ควรเป็นความรักที่มีสติ เป็นความรักด้วยการใช้เวลาหรือการทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ใช่ความรักที่มีวัตถุเป็นตัวแทน ดังเช่นครอบครัวในปัจจุบันบางครอบครัว ที่ให้วัตถุสิ่งของ อย่างไอโฟน ไอแพด รถยนต์ บ้านคอนโด เสื้อผ้า ของเล่น ของใช้ราคาสูงลิ่ว เป็นตัวแทนความรักที่พ่อแม่ไม่สามารถหาเวลามาอยู่กับลูกได้ การทำเช่นนี้นอกจากลูกจะไม่สามารถสัมผัสถึงความรักที่พ่อแม่มีให้แล้ว ยังเป็นการสร้างค่านิยมผิด ๆ อย่างวัตถุนิยมให้กับลูก ซึ่งรังแต่จะทำให้ลูกเป็นคนที่ไม่รู้จักพอ คิดแต่อยากจะมี อยากจะได้สิ่งของต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา

การเลี้ยงลูกด้วยความรักอย่างมีสติยังหมายถึงการเลี้ยงลูกให้รู้ผิดชอบชั่วดีด้วย ไม่ใช่เลี้ยงลูกแบบตามใจ ลูกอยากได้อะไรก็ต้องได้ ทำอะไรให้ลูกทุกอย่างที่ลูกต้องการ จนลูกช่วยเหลือตัวเองไม่เป็น ไม่รู้จักว่าอะไรคือถูก อะไรควร เป็นแต่ร้องขอทุกอย่างจากพ่อแม่อยู่ร่ำไป เพราะคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง เช่นนี้แล้วจะเข้าข่าย พ่อแม่รังแกฉันอย่างไม่ต้องสงสัย

การเลี้ยงลูกแบบตามใจจนเกินควรตั้งแต่เล็ก ๆ จะนำไปสู่การเสียคนได้ง่าย ๆ เพราะลูกรู้ว่าตราบใดที่เขายังมีพ่อแม่เขาก็ย่อมจะได้รับสิ่งที่ต้องการไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม ในทางตรงกันข้ามการเลี้ยงลูกแบบรักด้วยเหตุผล บนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง ไม่ตามใจ เขาก็จะเติบโตขึ้นมาแบบไม่เอาแต่ใจ รู้จักฟังคนรอบข้าง เอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้ว่าในโลกใบนี้ยังมีผู้อื่นที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ที่จะต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ดูแลและเติบโตไปด้วยกัน ไม่นึกถึงแต่ตัวเองเพียงอย่างเดียว

เคล็ดลับง่าย ๆ :  ให้เวลากับลูก โอบกอด สัมผัส แสดงความรักทั้งทางร่างกาย วาจา ให้รับรู้ไปถึงจิตใจ ชมเชยลูกบ่อยๆ เมื่อ ทำสิ่งที่ดีงาม ถูกต้อง เหมาะสม ควรควบคุมอารมณ์ให้ดี ไม่ควรใช้อารมณ์กับลูก แต่เมื่อลูกทำผิดก็จำเป็นลงโทษ แต่ก็ต้องอธิบายด้วยเหตุผล เช่นกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

2. เลี้ยงลูกให้รู้จักตนเองและโลกรอบตัวตามความเป็นจริง

พ่อแม่ควรปลูกฝังให้ลูกเรียนรู้จักตนเอง ว่าอะไรคือ ความสามารถของลูก ข้อดี ข้อด้อย ในตนเอง ที่สำคัญต้องสอนให้เขารู้จักรักและเห็นคุณค่าของตัวเอง บางอย่างที่เป็นจุดเด่น เป็นความสามารถก็ต่อยอดพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนที่เป็นข้อด้อยนั้น ถ้าปรับปรุงแก้ไขไม่ได้ ก็ให้มองข้ามมันไป และมุ่งพัฒนาจุดเด่นแทน เช่นนี้คุณค่าในตนเองของลูกก็จะมีมากมายมหาศาล จนไม่ต้องพึ่งพาคุณค่าภายนอกเช่นวัตถุสิ่งของ อันจะมีแต่การเติมไม่เต็มอยู่ร่ำไป

นอกจากนี้แล้วพ่อแม่ก็ต้องให้ลูกรู้จักโลกรอบตัวด้วย เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างคือ ความแตกต่างและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การเปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ กับคนอื่นไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะคนเราแค่เกิดมาก็ยังต่างกันแล้ว ไม่มีทางและไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องเหมือนใคร หรือทำตามอย่างใคร นี่ก็จะทำให้ลูกไม่ตกอยู่ท่ามกลางกระแสวัตถุนิยมหรือ กระแสต่าง ๆ ในสังคม แต่มีจุดยืนหนักแน่นและแนวทางของตนเอง

เคล็ดลับง่าย ๆ :  ฝึกตัวเองและลูกให้มองโลกในแง่บวกและยอมรับความเป็นจริง สิ่งใดเกิดขึ้นแล้วย่อมมีแง่ดีของมันอยู่ ที่จะทำให้เราได้บทเรียนอะไรบางอย่างจากมัน

 

3. เลี้ยงลูกให้รู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ

โดยมอบหมายงานในบ้านเล็ก ๆ น้อยๆ ให้ลูกทำตั้งแต่เล็ก เช่น ล้างจาน เก็บที่นอน เป็นการฝึกฝนให้ลูกมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ และทำตัวเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ซึ่งจะเป็นการปูพื้นฐานเรื่องการพึ่งพาตนเองให้แก่เด็ก ให้หัดช่วยเหลือตนเอง และรู้ว่าตนเองมีหน้าที่อย่างไร ควรทำสิ่งใด ไม่ควรทำสิ่งใด และที่สำคัญคือรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง นอกจากนี้พ่อแม่อาจฝึกให้ลูกรู้จักทักษะการแก้ปัญหา เมื่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเกิดปัญหาเฉพาะหน้าขึ้น เพื่อที่ในอนาคตลูกจะได้มีทักษะการแก้ปัญหาติดตัวไว้ในยามฉุกเฉิน

 

4. เลี้ยงลูกให้รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ลดละความเห็นแก่ตัวนี้เป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากมากกับคนในยุคนี้ ที่ทุกอย่างคือการแข่งขัน และตัวใครตัวมัน ทั้ง ๆ ที่คุณสมบัตินี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการอยู่ร่วมกัน การนึกถึงคนอื่น การเอาใจเขามาใส่ใจเรา  จะทำให้เด็ก ๆ รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก สิ่งที่เขาทำนั้นกระทบไปถึงผู้อื่นด้วยไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม เหมือนคำกล่าวที่ว่า เด็ดดอกไม้ดอกเดียวสะเทือนไปถึงดวงดาว  และหากลูกเข้าใจเรื่องนี้ เขาก็จะคิดมากขึ้นเมื่อจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง

เคล็ดลับง่าย ๆ : ชวนลูกออกไปทำกิจกรรมจิตอาสาใกล้ ๆ บ้าน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : MGROnline,HVParent

บทความที่น่าสนใจ

รวมเคล็ดลับ วิธีกำจัดกลิ่นฉี่แมว ที่ได้ผลจริง ทาสแมวต้องรีบอ่าน!

น้ำพุแมว ดี อย่างไร อีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อสัตว์เลี้ยง ที่เหล่าทาสแมวไม่ควรพลาด!

6 เหตุผล ว่าทำไมคุณพ่อ คุณแม่ถึงควรให้ลูกมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน

บทความโดย

bossblink