อุทาหรณ์! สนุกสงกรานต์เพลิน เด็ก 3 ขวบ เดินหลุดมา โผล่ถนนใหญ่
สงกรานต์ช่วงเวลาที่หลากหลายคนกลับบ้าน และไปสังสรรค์กัน แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องระมัดระวังนะคะ อย่าสนุกเกินไป อุทาหรณ์! สนุกสงกรานต์เพลิน เด็ก 3 ขวบ เดินหลุดมา โผล่ถนนใหญ่
อุทาหรณ์! สนุกสงกรานต์เพลิน เด็ก 3 ขวบ เดินหลุดมา โผล่ถนนใหญ่
โดยเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 เวลา 09.30 ได้มีคนโพสต์ลง Facebook เตือนภัยของจังหวัดอุทัยธานี โดยภายในคลิปเป็นเหตุการณ์กลางดึก เป็นคลิปของเด็กชายวัย 3 ขวบ เดินจากบ้านจัดสรรหน้าซอย ตำบลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ริมถนนสาย 333 หนองฉาง-อุทัยธานี ซึ่งเป็นถนนหลักเพื่อไปจังหวัดต่าง ๆ ในเขตภาคเหนือ ที่รถยนต์สัญจรไปมาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งคืน
ภาพจากข่าวสด
ในคลิปแสดงเห็นเด็กชายคนดังกล่าวเดินไปมานานกว่า 20 นาที โดยมีพลเมืองดี คือ นายเอกพงษ์ เหลืองพฤกษชาติ พร้อมกับภรรยา และครอบครัวได้ขับรถยนต์เข้าจังหวัดอุทัยธานีผ่านมาพอดี นายเอกพงษ์รีบจอดรถยนต์ และได้เปิดประตูไปวิ่งเด็กชายดังกล่าว ที่เดินอยู่บนถนน เพราะเกรงว่าจะมีรถยนต์ที่มองไม่เห็นชน และเกิดอุบัติเหตุ
นายเอกพงษ์ได้อุ้มเด็กมายืนบนฟุตบาทหน้าบ้านของนายฉัตรมงคล ซึ่งเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองฉาง ฝ่ายป้องบรรเทาสาธารณ์ภัย และได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใครจนได้ทราบว่าเด็กชายดังกล่าวเป็นลูกของคนในซอย
จากนั้นนายเอกพงศ์พร้อมภรรยา และครอบครัว ได้อุ้มเด็กชายดังกล่าวไปในซอย และได้ตะโกนสอบถามว่ามีลูกใครหายออกจากบ้านบ้างไหม เนื่องจากตอนนั้นเป็นช่วงเวลาดึกมาก และบางบ้านก็ปิดไฟมืด หลังจากนั้นได้มีผู้ปกครองคนหนึ่ง รีบเดินออกมาพร้อมกับตะโกนว่าเด็กคนนั้นคือลูกของเค้าที่หาย และตามหาตัวอยู่ หลังจากนั้นนายเอกพงศ์ ได้มอบเด็กชายคืนให้กับผู้ปกครองดังกล่าวพร้อมกับกล่าวตักเตือนว่าให้ระมัดระวังมากกว่านี้
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ปกครองของเด็กคนดังกล่าว โดยเล่าว่าเมื่อคืนตัวเค้าเอง กับครอบครัวได้มานั่งสังสรรค์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์อยู่ โดยมีเด็กชายอายุ 3 ขวบเป็นลูกของญาติ ซึ่งเป็นเด็กภายในบ้านได้เดินเล่นอยู่ในบ้าน และสนามหญ้าตามลำพังคนเดียว และตนเองก็ได้เปิดประตูหน้าบ้านทิ้งไว้
หลังจากนั้นเด็กชายดังกล่าว ได้เดินเล่นอยู่คนเดียวในสนามหญ้า และออกไปจากบ้านโดยใช้ประตูหลังบ้าน แต่ครั้งนี้ได้เดินออกไปทางถนนใหญ่ ซึ่งตนเอง กับญาติก็ตามหาอยู่ จนมาได้ยินนายเอกพงษ์ ตะโกนจากปากซอยถามว่าลูกของใคร เนื่องจากตอนนั้นเป็นช่วงเวลาดึก และทุกบ้านก็ปิดไฟหมด ตนจึงรีบออกไป และพบกับหลาน ซึ่งสร้างความดีใจ และขอบคุณนายเอกพงษ์ และภรรยาที่อุ้มหลานมาส่ง
วิธีสอนลูก หากลูกเกิดพลัดหลง
1. ห้อยสายข้อมือข้อมูลลูก
หากลูกยังเด็กเกินไป อาจจะยังจำอะไรไม่ได้มากนัก หรืออาจจะยังพูดไม่คล่องด้วยซ้ำ ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ ควรห้อยสายข้อมือที่มีข้อมูลอย่างเบอร์โทรพ่อแม่ ชื่อและนามสกุลลูก จะทำให้เมื่อพลัดหลงแล้วหาเจอง่ายขึ้น
2. สอนให้ลูกจำชื่อพ่อแม่ และเบอร์โทรศัพท์พ่อแม่ให้ได้
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกจำชื่อของคุณพ่อคุณแม่ได้ ทั้งชื่อจริงและชื่อเล่น รวมไปถึงเบอร์โทรศัพท์ เพราะเมื่อหากพลัดหลงกัน หากลูกจำเบอร์โทรศัพท์ได้ ก็จะทำให้สามารถตามหาคุณพ่อคุณแม่ได้ง่ายที่สุด หรือจะเป็นการได้ตะโกนเรียกชื่อของคุณพ่อและคุณแม่ เพราะหากเรียกเพียงแค่พ่อ หรือแม่อย่างเดียว เสี่ยงอาจถูกกลืนไปกับเสียงของผู้คนและเด็กคนอื่น ๆ ได้
3. สอนให้ลูกบอกชื่อเล่น ชื่อจริงของตัวเองให้ได้
อีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกน้อยให้จำได้คือ ชื่อเล่น และชื่อจริงของตัวลูกเอง เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกต้องพลัดหลงกับพ่อแม่ แล้วตำรวจถามชื่อลูก ก็ให้ลูกใช้บอกหรือเขียนชื่อให้ดูได้
4. สอนให้ลูกรู้จักขอความช่วยเหลือจากตำรวจ
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกขอความช่วยเหลือจากตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ โดยให้คุณพ่อคุณแม่เขียนกระดาษโน้ตที่มีข้อมูลของคุณพ่อคุณแม่เอง เก็บไว้กับตัวลูก เมื่อเกิดเหตุการณ์พลัดหลงกับพ่อแม่ ลูกจะได้นำกระดาษโน้ตยื่นให้ตำรวจทำการช่วยเหลือต่อไปได้
5. หากพลัดหลง ให้ลูกตะโกนดัง ๆ เพื่อเรียกพ่อแม่
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกตะโกนเรียกชื่อของคุณพ่อคุณแม่ทันทีเมื่อพลัดหลง เพราะบางทีคุณพ่อคุณแม่อาจจะอยู่ใกล้ ๆ แต่มองไม่เห็น ซึ่งหากเรียกเพียงแค่พ่อ หรือแม่อย่างเดียว เสียงอาจถูกกลืนไปกับเสียงของผู้คนและเด็กคนอื่น ๆ ได้
6. สอนให้ลูกปฏิเสธคนแปลกหน้า
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักรับมือ หากมีคนแปลกหน้ามารับลูกที่โรงเรียนควรจะทำอย่างไร ซึ่งการปฏิเสธคนแปลกหน้านั้นมีได้หลายรูปแบบเลย ทั้งการส่ายหน้าแล้ววิ่งหนี หรือการหลีกเลี่ยงการสนทนา และการเดินไปหาคุณครูเพื่อขอความช่วยเหลือ เป็นต้น
7. สอนให้ลูกฝึกแก้ปัญหา
คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะหมั่นตั้งคำถามให้ลูกรู้จักแก้ปัญหา เช่น ถ้าลูกหลงทางกับพ่อแม่ลูกควรทำอย่างไร เพื่อกระตุ้นให้ลูกคิด และอธิบายถึงวิธีแก้ปัญหา ต้องสอนให้ลูกรู้จักตั้งสติ หากร้องไห้จะทำให้คิดไม่ออกว่าควรแก้ปัญหานี้อย่างไร คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกได้ลองแก้ปัญหา ลองตัดสินใจดู เพื่อจะได้เตรียมรับมือได้อย่างถูกวิธี
ลูกหายไปต้องทำยังไง คุณพ่อคุณแม่จะต้องรับมืออย่างไร
1. หากลูกหายไป พ่อและแม่ควรตั้งสติให้เร็วที่สุด
2. กลับไปตามหาในจุดที่เห็นลูกเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งรวมไปถึงสถานที่ที่ลูกอาจไป
3. จดจำรายละเอียดของลูกให้ได้มากที่สุด เช่น รูปร่างหน้าตา การแต่งกาย
4. นำข้อมูลไปแจ้งฝ่ายประชาสัมพันธ์ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานที่นั้น ๆ ให้ประกาศและช่วยค้นหาลูก
5. หากแน่ใจแล้วว่าลูกหายไป ให้แจ้งความทันที ไม่ต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมง
6. ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตามหาลูก โดยแจ้งข้อมูลของลูกพร้อมภาพ สถานที่ วันเวลาที่ลูกหายตัวไปพร้อมเบอร์ติดต่อกลับของพ่อแม่
7. คอยติดตามเรื่องจากสถานีตำรวจ และหน่วยงานที่ไปขอความช่วยเหลือ
ลูกหาย ไปแจ้งที่ไหนได้บ้าง
1. ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา
เบอร์โทรติดต่อ 080-775-2673
2. ศูนย์ประชาบดี
เบอร์โทรติดต่อ 1300
3. ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรีกองบัญชา
เบอร์โทรติดต่อ 0-2282-3892
4. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
เบอร์โทรติดต่อ 0-2225-3211
5. มูลนิธิร่วมกตัญญู
เบอร์โทรติดต่อ 0-2235-4349
6. มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก
เบอร์โทรติดต่อ 0-2412-0739
7. คลื่นวิทยุ จ.ส.100
เบอร์โทรติดต่อ 1137
Source : Today Line,คมชัดลึก,ข่าวสด
บทความที่น่าสนใจ :
หลาน 2 ขวบจมทะเลต่อหน้าปู่ อุทาหรณ์! อย่าปล่อยให้เด็กคลาดสายตา
ลุงพล โดนรวบแล้ว! ปิดตำนานบ้านกกกอก แม่ชมพู่ลั่น ใครฆ่าน้องชมพู่ ต้องชดใช้กรรม
แม่ใจสลาย ! ลูกชายวัย 3 ขวบ หายตัวไป ขณะเล่นซ่อนแอบ