อุทาหรณ์ ประตูเหล็กล้มทับเด็ก 10 ขวบ ขนาดน้ำหนัก 200 กิโลกรัม อาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. 2566 โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งว่า ได้มีประตูรั้วสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี ฝั่งหน้าพระบรมรูปทรงม้า ร.5 ล้มทับเด็กชายวัย 10 ขวบ จนได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แล้วได้พบกับพลเมืองดีที่กำลังช่วยยกประตูรั้วของสวนสาธารณะออก เด็กชายเอ (นามสมมุติ) กำลังนอนร้องไห้ขอความช่วยเหลือด้วยอาการเจ็บปวด
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล ก็พบบาดแผลบริเวณศีรษะ และหน้าผากมีเลือดไหล ซึ่งเป็นแผลแตกยาวตามแขน ลำตัว และขา บางจุดมีรอยถลอก เขียวช้ำไปทั้งตัว จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี เพื่อให้ทีมแพทย์ตรวจสอบว่า เด็กชายคนดังกล่าวมีผลกระทบกระเทือนทางสมองหรือไม่ และตรวจสอบร่างกายมีจุดใดได้รับความกระทบกระเทือนถึงกระดูกแตกหักหรือเปล่า
จากการสอบถามนายนริส (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นปู่ของเด็กชายเอ (นามสมมุติ) ได้เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดหลานจะแอบมาเล่นที่สวนสาธารณะเป็นประจำ และชอบปีนป่ายตามรั้วจนได้รับอุบัติเหตุ ด้าน นายเมธาสิทธิ เพ็ชรรินทง อายุ 30 ปี พลเมืองดีที่เข้ามาช่วยยกประตูรั้วออกจากเด็กชายเอ ได้เล่านาทีระทึกว่า ตนกับเพื่อนกำลังเดินกลับที่พัก และได้ผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี โดยเห็นรั้วกำลังทับร่างกายของเด็กชายคนดังกล่าว ซึ่งทางเด็กชายเองก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบเข้าไปช่วยกันยกรั้วออกเด็ก จากนั้นก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิมาช่วยปฐมพยาบาลเด็ก
หลังจากเห็นการณ์ ประตูเหล็กล้มทับเด็ก 10 ขวบ ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า เด็กชายได้มาเล่นประตู แล้วเกาะประตูสไลด์เลื่อนออกไป จึงทำให้ประตูหลุดออกจากคิวจนล้มทับเด็ก วอนหน่วยงานที่รับผิดชอบให้มาตรวจสอบประตูให้อยู่ในความปลอดภัยด้วย เพราะครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่ประตูนี้ล้มลง
บทความที่เกี่ยวข้อง : อุทาหรณ์ประตูรั้วบ้านน้ำหนักเกือบ 200 กก. ล้มทับลูกวัย 2 ขวบ เกือบตาย!
อุบัติเหตุในเด็กส่วนใหญ่มีอะไรบ้าง
1. อุบัติเหตุจากการนอน
ในสมัยโบราณมีความเชื่อว่า ถ้าให้เด็กทารกนอนคว่ำหัวจะสวย แต่รู้หรือไม่ว่า มีเด็กหลายคนที่เสียชีวิตจากการนอนคว่ำ เพราะเวลาที่เด็กนอนคว่ำหน้านาน ๆ จะทำให้เขาขาดออกซิเจน หากต้องการให้ลูกนอนคว่ำจริง ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยค่ะ หรืออาจจะต้องคอยพลิกตัวลูกสลับกับการนอนคว่ำบ้าง
2. อุบัติเหตุที่เกิดจากของเล่น
การเลือกซื้อของเล่นให้ลูก ไม่ควรซื้อชิ้นเล็ก ๆ เพราะมีความเสี่ยงในการนำเข้าปากและกลืนได้ค่ะ และไม่แนะนำของเล่นพลาสติกที่มีมุมหรือขอบที่แหลมคม เนื่องจากเด็ก ๆ อาจได้รับบาดเจ็บจากของเล่นได้ค่ะ ทางที่ดีควรเลือกของเล่นให้เหมาะกับอายุของลูก วัสดุไม่แข็ง ไม่มีคม และควรผ่านการรับรองมาตรฐาน ปลอดสารเคมีค่ะ
3. อุบัติเหตุจากการตกจากที่สูง
เด็กวัยเริ่มเดิน เริ่มพูด เริ่มกินข้าวเอง วัยนี้ถือเป็นวัยที่กำลังซน อยากรู้อยากเห็น ซึ่งหลาย ๆ ครั้ง มักเกิดขึ้นระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่ปล่อยลูกทิ้งไว้บนเตียงคนเดียว จึงทำให้เด็ก ๆ คลานไปที่ต่าง ๆ จนตกขอบเตียง บางคนแค่ฟกช้ำ แต่บางรายก็อาจจะทำให้เกิดกระดูกหักได้ต้องระวังค่ะ
4. อุบัติเหตุจากการจมน้ำ
นับเป็นสาเหตุอันดับ 1 ในการเสียชีวิตของอุบัติเหตุของเด็กเลยก็ว่าได้ ซึ่งให้จำไว้ว่าการจมน้ำไม่จำเป็นต้องอยู่ในสระเสมอไป เด็ก ๆ สามารถจมน้ำได้ขณะอาบน้ำอ่าง กะละมัง ได้ค่ะ ดังนั้น ห้ามปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพังเด็ดขาด
5. อุบัติเหตุจากไฟดูด
เด็กทุกคนต้องเคยผ่านการเอามือแหย่ปลั๊กไฟมาบ้างแล้วแหละ คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมีลูกวัยเรียนรู้ต้องระวังอย่างมากเลยค่ะ เพราะกระแสไฟฟ้าแรงสูง อาจทำให้เด็ก ๆ หมดสติหรือเสียชีวิตได้
6. อุบัติเหตุจากการเขย่าตัวเด็ก
เวลาที่ปู่ ย่า ตา ยาย มันเขี้ยวหลาน มักจะอุ้มหลานเหวี่ยงไปมา หรือเขย่าตัวเด็กแรง ๆ แต่ก็ทำด้วยความรัก แต่ทราบหรือไม่ว่า มันคืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เส้นประสาทในสมองของเด็กฉีกขาดได้ ซึ่งการฉีกขาดของเส้นเลือดทำให้เกิดเลือดออกในสมอง จึงอยากให้ผู้ใหญ่เล่นกับลูก ๆ หลาน ๆ แบบพอดี ๆ ไม่เขย่าตัวเด็กแรง ๆ ค่ะ
7. อุบัติเหตุที่เกิดจากการสำลัก
เด็ก ๆ สามารถกลืน หรือสำลักสิ่งของต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะพวกของเล่นชิ้นเล็ก ๆ เม็ดถั่วลิสง ข้าว และถุงพลาสติก เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ผู้ปกครองทราบถึงอันตรายที่เกิดจากถุงพลาสติกอยู่แล้ว หากเผลอปล่อยเด็กเล่นตามลำพัง เขาอาจจะเอาถุงพลาสติกเข้าปาก หรือไม่ก็นำมาคลุมหัวตัวเองได้ค่ะ จึงทำให้ไม่สามารถหายใจเข้า-ออกได้ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อันตรายต่อเด็ก ๆ มากเลยค่ะ
แม้ว่าผู้ปกครองจะคอยดูแลลูกน้อยมากแค่ไหน แต่อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่ใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อป้องกันพวกเขา โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยอยากรู้อยากลองค่ะ ปล่อยไว้ลำพังไม่ได้เลยจริง ๆ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แพทย์เตือน!!! ลูกปิดประตูหนีบนิ้ว เรื่องน่าห่วงไม่ใช่แค่ช้ำ แต่มีปัญหาไปตลอดชีวิต
ป้องกันลูกน้อยจากโรงรถ ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องซักรีด ป้องกันอย่างไรจึงปลอดภัย
ระวัง 16 จุดอันตรายในบ้าน ทำลูกเกิดอุบัติเหตุถึงตาย !
ที่มา :