เว็บไซต์ yeah1 ของเวียดนาม เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ที่บันทึกการกระทำที่กินใจของ เด็กชายเข็นวีลแชร์พาแม่ข้ามถนน ซึ่งรับความชื่นชมอย่างมากจากชาวเน็ตทันทีที่ถูกเผยแพร่ลงโลกออนไลน์
เด็กชายปฏิบัติตามกฎจราจร เข็นวีลแชร์ตามทางม้าลายบนถนน อย่างไรก็ตาม เมื่อยานพาหนะในบริเวณใกล้เคียง เช่น รถยนต์ รถบรรทุก หยุดเพื่อให้เด็กชายพาแม่ข้ามถนน เด็กชายบังได้หยุดเดินและหันไปก้มตัวโค้ง 90 องศา เพื่อขอบคุณคนขับแต่ละคนที่หยุดรถเพื่อหลีกทางให้ข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย
หากเมื่อจะข้ามถนนเด็ก ๆ มักถูกสอนปลูกฝังให้สังเกตสัญญาณไฟจราจร และดูรถที่กำลังเคลื่อนที่เพื่อความปลอดภัย แต่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการฝึกอบรมเด็กตั้งแต่อายุยังน้อยคือ วัฒนธรรมการมีส่วนร่วมในการจราจร
การกระทำที่ละเอียดอ่อนของเด็กชายในคลิป สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและการเรียนรู้ที่ดี ได้รับการยกย่องจากชาวเน็ตมากมาย บางคนยังบอกอีกว่าพวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเมื่อดูคลิป พากันชมเชยความรู้ความเข้าใจของตัวเด็กชายเอง และไม่ลืมที่จะชื่นชมวิธีการอบรมสั่งสอนจากครอบครัวและครู
– นี่คือภาพของเด็กที่มีการศึกษาที่ดี ฉันมองดูวิธีที่เขาก้มลงและขอบคุณคนขับแล้วน้ำตาซึม
– นี่มันน่าประทับใจมาก และนี่คือเหตุผลที่ควรสอนลูก ๆ ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
– นี่แหละ ภาพลักษณ์ของเด็กที่มีการศึกษาดีจริง ๆ
– นี่คือภาพของเด็กดี ดูเขาโค้งขอบคุณสิ คนขับรถแต่ละคนน้ำตาซึม
– ฉันแค่หวังว่าเด็กชายคนนี้จะแข็งแรง เชื่อฟังพ่อแม่ และเติบโตเป็นคนดีแบบนี้ตลอดไป
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไรเดอร์ฮีโร่! ทิ้งรถตัวเองกระโดด ช่วยชีวิตเด็กวิ่งออกถนนใหญ่
เด็กไม่ยอมข้ามถนนอย่างถูกวิธีเกิดจากอะไร
เด็กในวัยเรียนมักมีปัญหาไม่ยอมข้ามถนนด้วยวิธีที่ถูกต้อง จนหลายคนอาจมองว่าเป็นปกติที่สังคมไทยจะต้องเจอ เพราะไม่ใช่เพียงแค่เด็กเท่านั้น แต่ยังสามารถพบเจอได้ในผู้ใหญ่บางคน ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อเด็กนั้นมีอยู่หลายข้อ โดยมากแล้วจะเกิดจากทัศนคติ และความคิดไปในเชิงประมาท ได้แก่
การลอกเลียนแบบ
จุดเริ่มต้นจากการที่เด็กไม่ยอม ข้ามถนน ด้วยวิธีที่ถูกต้อง อาจต้องมองก่อนว่าเด็กเลียนแบบใครหรือไม่ อาจเป็นบุคคลรอบตัวที่ทำให้เด็กเห็นว่าการข้ามถนนนั้นทำแบบไหน ด้วยวัยเด็กเขาจะเรียนรู้ในสิ่งที่เขาเห็น หรืออาจเห็นมาจากบุคคลอื่นทั่วไปที่ไม่ได้ใช้สะพานลอย หรือทางม้าลายกันเป็นจำนวนมาก จนเด็กอาจคิดไปเองว่าเป็นปกติสุดท้ายก็เกิดการเลียนแบบในที่สุด
ก็มันเร็วกว่า
การต้องเดินหาทางม้าลาย หรือเดินขึ้นสะพานลอยอาจต้องใช้เวลา แน่นอนว่ากรณีที่ถนนโล่งอาจมีความล่าช้ากว่าการตัดสินใจข้ามถนนไปเลยแบบตรง ๆ ซึ่งประหยัดเวลากว่า แต่สำหรับเรื่องการใช้รถใช้ถนนแล้ว ไม่มีอะไรแน่นอน เพราะถึงแม้จะระวังที่สุดอุบัติเหตุก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ จากปัญหาจุดนี้เด็กอาจมองว่าเพราะไม่ต้องการเสียเวลาเดินหา หรือเดินไปที่จุดปลอดภัยจึงตัดสินใจข้ามถนนทันที
ความเหนื่อย
เด็กในวัยเรียนอาจมีความเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมในแต่ละวันมา ยังไม่รวมไปถึงการเรียนตั้งแต่เช้าถึงเย็น จนในที่สุดอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเด็กที่ผิดพลาดได้ เด็กหลายคน หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่แค่มองเห็นขั้นบันไดของสะพานลอยก็ปาดเหงื่อไปก่อนแล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เด็กหลายคนจะตัดสินใจไม่ใช้สะพานลอย แล้วทำการ ข้ามถนน ด้วยตนเองแม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม
เพื่อนชักชวน
เด็กไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่อยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าส่วนหนึ่งของชีวิตเขาต้องอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่มีความเฮฮา และด้วยความที่เป็นวัยอายุเดียวกัน อาจทำให้เกิดการตัดสินใจที่ชักชวนกันแบบหมู่คณะ อย่างที่เราเคยเห็นกลุ่มเด็กนักเรียนข้ามถนนโดยไม่ใช้ทางม้าลาย หรือสะพานลอยกันเป็นประจำ บางครั้งการตัดสินใจในกลุ่มเพื่อนก็มีผลกับเด็กมากเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ข้ามถนน ทำได้ง่ายแต่เป็นไปได้ยากในเด็กวัยเรียน ควรทำอย่างไร
การแก้ปัญหาเด็กกับการใช้ถนน
การแก้ปัญหาเบื้องต้นคือการเริ่มจากตัวของเราเพื่อให้เด็กเห็นไปจนถึงการพูดคุยถึงความสำคัญของการใช้สะพานลอย และทางม้าลายในการข้ามถนนอย่างปลอดภัย ดังนี้
ให้ลูกรู้ถึงอันตราย
เด็กหลายคนที่ตัดสินใจผิดพลาดจนละเลยความปลอดภัยของตนเองไป อาจบอกได้ว่าเพียงแค่ “โชคดี” เท่านั้นที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ คุณพ่อคุณแม่ต้องทำให้ลูกตระหนักว่า เราไม่สามารถป้องกันเหตุร้ายได้ 100 % แต่การประมาทไม่ทำตามกฎต่าง ๆ จะยิ่งกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับตนเองมากขึ้น หากเด็กมีความเข้าใจ เรายังสามารถบอกได้อีกว่าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริง ๆ จะเกิดผลเสียต่อตนเอง และผู้อื่นมากแค่ไหน
อย่าทำให้ลูกเห็น
เด็ก ๆ นั้นมีความเชื่อใจคนที่ใกล้ชิดอยู่มาก ในบางครั้งเด็ก ๆ อาจจดจำพฤติกรรมบางอย่างนำไปใช้ หากตัวเราเองไม่ยอมข้ามถนนตรงทางม้าลาย หรือไม่ใช้สะพานลอย รวมไปถึงมีวิธีการข้ามถนนแบบผิด ๆ นั้นอาจทำให้เด็กจำและนำไปทำต่อได้ ดังนั้นเราจึงควรพาลูกข้ามถนนอย่างถูกวิธีทุกครั้ง ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ตาม
ปรับแนวคิดเมื่ออยู่ในกลุ่มเพื่อน
อาจเป็นเรื่องที่ยาก ที่ลูกจะต่อต้านการชักชวนจากกลุ่มเพื่อน ลองคิดภาพกลุ่มเด็ก 5 คนที่มีเพียงคนเดียวขอใช้สะพานลอย อาจจะยังไม่หนักแน่นพอที่จะให้คนอื่นทำตาม อาจบอกให้ลูกตัดปัญหา ด้วยการรีบวิ่งไปขึ้นสะพานลอยก่อนเลย หากกลุ่มเพื่อนนั้นชอบข้ามถนนอย่างประมาท แล้วไม่สามารถพูดคุยได้ อย่างไรก็ตามปัญหานี้ก็แก้ได้ยาก เพราะถ้าหากจะสอนลูกเรื่องการคบเพื่อนอาจต้องทำแต่เนิ่น ๆ ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ต้องอยู่ที่ตัวของเด็ก และกลุ่มเพื่อนเองด้วย
สอนลูกให้เข้าใจ ทักษะจำเป็น การใช้ถนน การเดินทางอย่างปลอดภัย
- สอนให้รู้จัก เครื่องหมายจราจร ที่เด็ก ๆ พบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ป้ายจราจรใกล้บริเวณโรงเรียน หรือระหว่างทางกลับบ้าน เพื่อเป็นพื้นฐานให้ลูกของคุณใช้ถนนร่วมกับผู้อื่นอย่างปลอดภัย
- บอกให้รู้…ทำไมต้องใส่หมวกกันน็อก ใส่สายรัดคางให้กระชับ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ จะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บที่ศีรษะ เพิ่มความปลอดภัยให้ชีวิตลูกได้
- จำให้ขึ้นใจ นั่งรถต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เสมอ โดยพ่อ-แม่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น และสอนลูกให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง
- ขึ้นรถ-ลงรถ รอให้จอดนิ่งสนิทก่อน ให้รถจอดนิ่งเทียบฟุตบาท ก้าวขึ้น-ก้าวลงต้องระวัง
- ปั่นจักรยานอย่างปลอดภัย
– สอนให้ลูกรู้จักใช้เบรก ใช้กระดิ่งเตือนส่งสัญญาณให้เป็น
– ไม่ปั่นจักรยานมือเดียว หรือปล่อยมือปั่นจักรยาน
– ไม่ปั่นไปคุยกับเพื่อนไป หรือชวนกันปั่นจักรยานแบบหวาดเสียว - สอนลูกข้ามถนนใช้ทางม้าลาย
– ให้รู้จักสัญญาณไฟจราจรคนข้ามถนน
– มองซ้าย มองขวาให้แน่ใจ รถหยุดสนิทจึงข้ามได้
– ไม่พูดคุย เล่นมือถือ ไม่วิ่งข้ามถนน
การสอนให้ลูกใช้ถนนอย่างปลอดภัยนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่นั้นควรทำเป็นตัวอย่างให้เด็ก ๆ ได้เห็นด้วย และสอนให้ลูกเข้าใจถึงกฎจราจร และปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและหน้าพลเมืองที่ดีที่ควรปฏิบัติ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เตือนภัย!! เด็กนักเรียนกำลังข้ามทางม้าลาย แต่มอเตอร์ไซค์ชนกระเด็น ทั้งที่ครูยกธงหยุดรถ
สัญลักษณ์ ตามถนนที่ลูกควรรู้ พ่อแม่ต้องสอน เพื่อความปลอดภัยของลูก
อุบัติเหตุในเด็ก อุบัติเหตุเกิดขึ้นกับลูก ได้ง่าย ๆ พร้อมวิธีป้องกันอุบัติเหตุในเด็ก
ที่มา :