จากเรื่องราวที่มีผู้ใช้งาน TikTok ใช้ชื่อบัญชีว่า “ch_chamaiporn” ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมกับแคปชัน “ไลฟ์สดอยู่ เกือบช็อกกลางไลฟ์ คือถ้าใครติดตามชไม จะรู้ว่าแฟนชไมเป็นไรเดอร์ แล้วสิ่งที่เรากลัวที่สุดคือเรื่องอุบัติเหตุ พอเห็นกล้องวงจรปิด พูดไม่ออกเลย” โดยในคลิปดังกล่าว เผยให้เห็นวินาที ที่พนักงานส่งอาหารได้ขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวไปทางซ้ายแล้ว แต่ในขณะเดียวกันนั้น เห็นเด็กคนหนึ่งวิ่งออกไปที่ถนนใหญ่คนเดียวอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้ระวังรถ ทำให้พนักงานส่งอาหาร ได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ตัวเองทันที และวิ่งไป ช่วยชีวิตเด็กวิ่งออกถนนใหญ่ ก่อนเกิดที่จะเกิดเหตุร้าย
@ch_chamaiporn ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมนะคะ💗 คลิปปลิวไปแล้วค่ะ 🥴 #ชไมแม่ค้าออนไลน์ขายอีฟส์ #สินค้าแบนด์อีฟส์ ♬ –
โดยเจ้าของคลิปวิดีโอ ก็ได้เปิดเผยภาพบทสนทนา ที่เธอได้คุยกับแฟนหนุ่มคนที่ช่วยเด็กไว้ โดยทางแฟนหนุ่มเผยว่า ได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ไปช่วยเด็กมา โดยเด็กวิ่งออกจากหมู่บ้านไปที่กลางถนน ซึ่งเธอก็สอบถามต่อด้วยความเป็นห่วง แต่ทางแฟนหนุ่มแจ้งกลับมาว่าไม่มีใครเป็นอันตรายอะไร และรถไม่เสียหาย ในส่วนของอาหารที่จะนำไปส่งลูกค้าที่เสียหายเพราะรถล้ม ไรเดอร์ได้นำไปเปลี่ยนที่ร้านค้า ซึ่งทางร้านค้าก็ยินดีเปลี่ยนให้โดยไม่คิดเงินอีกด้วย
ซึ่งคลิปดังกล่าว ต่างทำให้ชาวเน็ต แห่ชื่นชมและประทับใจ ในความมีสติ ความไว และความมีน้ำใจของไรเดอร์คนนี้ ยกให้เป็นฮีโร่ในชีวิตจริง ที่สามารถรักษาชีวิตเด็กเอาไว้ได้ทันท่วงที พร้อมทั้งฝากเตือนไปยังผู้ปกครองที่มีบุตรหลานยังเด็ก หรือมีบ้านอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ให้เพิ่มความระมัดระวัง และไม่ควรปล่อยให้เด็กคลาดสายตา เพราะอาจไม่โชคดีเช่นนี้อีกค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : เตือนภัย!! เด็กนักเรียนกำลังข้ามทางม้าลาย แต่มอเตอร์ไซค์ชนกระเด็น ทั้งที่ครูยกธงหยุดรถ
สัญลักษณ์ ตามถนนที่ลูกควรรู้ พ่อแม่ต้องสอน เพื่อความปลอดภัยของลูก
เครื่องหมายจราจรและความหมาย
เครื่องหมายจราจร เป็นเรื่องที่ถือว่าใกล้ตัวเรามากที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ เพราะทุกวันนี้ต้องใช้รถ ใช้ถนน ในการเดินทางไปไหนมาไหน ดังนั้นแล้ว การให้ลูกศึกษาเรื่อง เครื่องหมายจราจรทางบก จึงเป็นเรื่องที่ควรจะทำ เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่และลูก ใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น ก็ควรจะสอนให้ลูกเรียนรู้ เกี่ยวกับสัญญาณจราจรและเครื่องหมายจราจร
เครื่องหมายจราจร (Traffic Sign)
หมายถึง สัญลักษณ์ทางจราจรที่ใช้ในการควบคุมการจราจร มักเป็นสัญญาณแสงหรือป้าย มักมีจุดประสงค์เพื่อ กำหนดบังคับการเคลื่อนตัวของจราจร การจอด หรืออาจเป็นการเตือน หรือแนะนำทางจราจร ดังนี้
- สัญญาณไฟจราจร
สัญญาณไฟจราจร โดยทั่วไปประกอบด้วยสัญญาณไฟสามสี ติดตั้งตามทางแยกต่าง ๆ เพื่อควบคุมการจราจรตามทางแยก โดยทั้งสามสี ได้แก่ สีแดงให้รถหยุด สีเหลืองให้รถระวัง เตรียมหยุด และสีเขียวคือให้รถไปได้ สำหรับสัญญาณไฟจราจรพิเศษอาจมีสีเหลืองเพียงสีเดียวจะกะพริบอยู่ ใช้สำหรับทางแยกที่ไม่พลุกพล่าน หมายถึง ให้ระมัดระวังว่ามีทางแยก และดูความเหมาะสมในการออกรถได้เอง หรือ สัญญาณไฟจราจรสำหรับการข้ามถนน หรือ สัญญาณไฟจราจรไว้สำหรับเปลี่ยนเลน เป็นต้น
- ป้ายจราจร
ป้ายจราจร เป็นป้ายทางการควบคุมการจราจร แบ่งออกเป็นสามประเภท
- ป้ายบังคับ มักจะมีพื้นสีขาว ขอบสีแดง เป็นป้ายกำหนด ต้องทำตาม เช่น ห้ามเลี้ยวขวา
- ป้ายเตือน มักจะมีพื้นสีเหลือง ขอบสีดำ จะเป็นป้ายแจ้งเตือนว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้า
- ป้ายแนะนำ เป็นป้ายที่แนะนำการเดินทางต่าง ๆ อาทิ ทางลัด ป้ายบอกระยะทาง เป็นต้น
สัญลักษณ์ ที่เด็ก ๆ ควรรู้
ป้ายบังคับ
- ป้ายหยุด รถทุกชนิดต้องหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว ให้เคลื่อนรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง
- ห้ามเข้า ห้ามไปในพื้นที่ ที่มีป้ายห้ามเข้า
- ห้ามแซง ห้ามไม่ให้ขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
- ห้ามเลี้ยวซ้าย ห้ามไม่ให้รถเลี้ยวไปทางซ้าย
- ห้ามเลี้ยวขวา ห้ามไม่ให้รถเลี้ยวไปทางขวา
- ห้ามคนผ่าน ห้ามคนผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
- จำกัดความเร็ว ห้ามไม่ให้ผู้ขับรถทุกชนิด ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนด เป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามจำนวนตัวเลข ในแผ่นป้ายนั้น ๆ ในเขตทางที่ติดตั้งป้าย จนกว่าจะพ้นที่สุดระยะ ที่จำกัดความเร็วนั้น
- ให้เดินรถทางเดียวไปข้างหน้า ขับรถตรงไปตามทิศทางที่ป้ายกำหนด
- ทางเดินรถทางเดียวไปทางซ้าย ให้ขับรถไปทางซ้ายแต่ทางเดียว
- ทางเดินรถทางเดียวไปทางขวา ให้ขับรถไปทางขวาแต่ทางเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง : ข้ามถนน ทำได้ง่ายแต่เป็นไปได้ยากในเด็กวัยเรียน ควรทำอย่างไร
ป้ายเตือน
- วงเวียนข้างหน้า ทางข้างหน้าจะเป็นทางแยกมีวงเวียน ให้ขับรถให้ช้าลง และเดินรถด้วยความระมัดระวัง
- ทางข้ามทางรถไฟไม่มีเครื่องกั้นทาง ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่าน และไม่มีเครื่องกั้นทาง ให้ขับรถให้ช้าลงให้มาก และสังเกตดูรถไฟทั้งทางขวาและทางซ้าย ถ้ามีรถไฟกำลังจะผ่านมาให้หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร แล้วรอคอยจนกว่ารถไฟนั้นผ่านพ้นไปและปลอดภัยแล้ว จึงเคลื่อนรถต่อไปได้ ห้ามมิให้ขับรถตัดหน้ารถไฟในระยะที่อาจจะเกิดอันตรายได้เป็นอันขาด
- ทางข้ามทางรถไฟมีเครื่องกั้นทาง ทางรถไฟที่หน้าที่ได้กั้นทาง หรือมีเครื่องกั้นทางปิดกั้น ถ้ามีรถข้างหน้าหยุดรออยู่ก่อน ก็ให้หยุดรถถัดต่อมาตามลำดับ เมื่อเปิดเครื่องกั้นทางแล้วให้รถที่หยุดรอเคลื่อนที่ตามกันได้
- สัญญาณจราจร ทางข้างหน้ามีสัญญาณไฟจราจร ให้ขับรถช้าลง และพร้อมที่จะปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร
- ระวังสัตว์ ทางข้างหน้า อาจมีสัตว์ข้ามทาง ให้ขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังอันตรายเป็นพิเศษ
- ระวังอันตราย ทางข้างหน้ามีอันตราย เช่น เกิดอุบัติเหตุ ทางทรุด เป็นต้น ให้ขับรถให้ช้าลงให้มาก และระมัดระวังอันตรายเป็นพิเศษ
- หยุดข้างหน้า ทางข้างหน้ามีเครื่องหมายหยุดติดตั้งอยู่ ให้ผู้ขับรถเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถได้ทันที เมื่อขับรถถึงป้ายหยุด
- ทางลื่น ทางข้างหน้าลื่น เมื่อผิวทางเปียกอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ให้ขับรถให้ช้าลงให้มาก และระมัดระวังการลื่นไถล อย่าใช้ห้ามล้อโดยแรงและทันที การหยุดรถ การเบารถ หรือเลี้ยวรถในทางลื่นต้องกระทำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
- ผิวทางร่วน ทางข้างหน้ามีวัสดุผิวทางหลุดกระเด็นเมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงให้ขับรถให้ ช้าลง และระมัดระวังอันตราย อันอาจเกิดจากวัสดุผิวทาง
- ระวังคนข้ามถนน ทางข้างหน้า มีทางสำหรับคนข้ามถนน หรือมีหมู่บ้านราษฎรอยู่ข้างทาง ซึ่งมีคนเดินข้ามไปมาอยู่เสมอ ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควรและ ระมัดระวังคนข้ามถนน ถ้ามีคนกำลังเดินข้ามถนน ให้หยุดรถให้คนเดินข้ามถนนไปได้โดยปลอดภัย
ป้ายแนะนำ
- ป้ายแสดงโรงพยาบาล
- ป้ายแสดงทางข้าม
- ป้ายแสดงจุดกลับรถ
- ป้ายแนะนำชื่อทางแยก
- ป้ายสำหรับคนพิการ
- ป้ายบอกจุดหมายปลายทาง
- ป้ายแนะนำล่วงหน้า
- ป้ายเริ่มต้นทางด่วน
เพราะฉะนั้นแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรจะสอนให้ลูก ๆ รู้จักเครื่องหมายจราจรและความหมาย เพราะถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ เนื่องจากว่าทุกวันนี้เราต้องใช้รถ ใช้ถนน ในการเดินทางไปไหนมาไหน การสอนให้ลูกรู้จักป้ายต่าง ๆ ยังทำให้ลูกรู้จักที่จะระมัดระวังและปฏิบัติตัวตามป้ายได้อย่างถูกต้องอีกด้วยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สัญลักษณ์ ตามถนนที่ลูกควรรู้ พ่อแม่ต้องสอน เพื่อความปลอดภัยของลูก
อุบัติเหตุในเด็ก อุบัติเหตุเกิดขึ้นกับลูก ได้ง่าย ๆ พร้อมวิธีป้องกันอุบัติเหตุในเด็ก
5 อุบัติเหตุพบบ่อยในลูกวัยเตาะแตะที่ไม่ควรมองข้ามอย่างแรง!
ที่มา :