เหล่าคุณแม่เตรียมตัว! จ่อ ขึ้นราคาผ้าอ้อมเด็ก -ผู้ใหญ่ ในเดือนมี.ค.นี้ เหตุจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะปรับราคาขึ้นอีกเท่าไหร่ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.66 นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากผู้ผลิตผ้าอ้อมเด็กและผู้ใหญ่ จะปรับราคาขายขึ้นภายในเดือนมีนาคม 2566 เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่ยังไม่ได้แจ้งเพิ่มเติมว่าราคา จะปรับขึ้นอีกเท่าไหร่
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทย กล่าวว่า “สินค้าอุปโภคบริโภคทยอยขึ้นมาหลายรอบแล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้ว ตามต้นทุนการผลิตและการขนส่ง รวมถึงมีการดึงส่วนลดที่จะให้ร้านค้าออกหรือให้น้อยลง ตอนนี้จึงไม่มีสินค้าตัวไหนที่ไม่ขึ้นและปรับลดราคา ทั้งนี้ มีบางสินค้าที่ขึ้นราคาไปแล้ว ขายไม่ค่อยได้ จะออกสินค้าสูตรใหม่ที่ขายในราคาเดิม หรือออกสินค้าที่มีราคาแพงขึ้นมาชดเชย” ซึ่งสอดคล้องกับแหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกค้าส่งแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ทางผู้ผลิตผ้าอ้อมเด็กยี่ห้อหนึ่ง แจ้งจะขึ้นราคาในเดือนมีนาคมนี้ แต่ยังไม่บอกจะขึ้นเท่าไหร่เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : เงินฝืด เงินเฟ้อ ปัญหาสำคัญทางเศรษฐกิจ เราควรรับมืออย่างไร ?
6 วิธีเลี้ยงลูกอย่างประหยัด
1. ให้ลูกกินนมแม่นาน ๆ
อาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกคือนมแม่ หากคุณให้ลูกกินนมแม่แล้ว คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ยเดือนละ 4,000 บาทเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 6 เดือนแรก ที่ลูกกินนมแม่เพียงอย่างเดียว คุณสามารถมีเงินเก็บเหลือจากตรงนั้นเพื่อเอามาสะสมเป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้ลูกได้ต่อไป
2. รับของต่อจากญาติพี่น้อง
ของเล่นมือสอง ของใช้มือสอง หากได้รับมาจากญาติพี่น้องหรือเพื่อน ๆ ที่เราไว้ใจแล้ว คงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยมากนัก คุณแม่อาจรับเปลมือสอง เป้อุ้มเด็กมือสอง รองเท้า เสื้อผ้าสภาพดีมาให้ลูกใช้ เพราะช่วงวัยเด็ก ลูกจะค่อนข้างโตไว ทำให้ต้องซื้อเสื้อผ้าบ่อยครั้ง หากได้เสื้อผ้าจากคนที่สนิทและไว้ใจก็จะช่วยให้ประหยัดค่าเสื้อผ้าและของต่าง ๆ ได้อย่างมากเลยค่ะ
3.จ่ายแพงเพื่อประหยัด
คุณแม่อาจจะต้องยอมลงทุนจ่ายเพิ่มสักหน่อย เพื่อให้ได้ของคุณภาพดี ที่ใช้ได้นาน ๆ เช่น คาร์ซีต รถเข็นเด็ก หรือเครื่องปั๊มนม ดีกว่าซื้อของถูกแต่ไม่ได้คุณภาพ จะทำให้เสี่ยงอันตรายอาจพังไวอีกด้วย ของเหล่านี้บางอย่างหากลูกไม่ได้ใช้งานแล้ว ก็สามารถขายต่อเป็นของมือสองนำเงินไปซื้ออย่างอื่นได้อีกด้วยนะคะ
4. ซื้อของแบบยกโหล
การซื้อของแบบยกโหลบางครั้งจะทำให้ได้ของมาในราคาที่ถูกกว่า เช่น ผ้าอ้อม แพมเพิร์ส แชมพูเด็ก สบู่ น้ำยาซักผ้าเด็ก นอกจากนี้คุณแม่ยังอาจใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กให้เป็นประโยชน์ โดยการใช้เปรียบเทียบราคาและสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ นอกจากประหยัดเงินค่าของแล้ว ยังประหยัดค่าเดินทาง และประหยัดเวลาเพิ่มขึ้นอีกด้วยนะคะ
5. ทำประกันสุขภาพให้ลูก
เด็กเล็ก ๆ มักจะป่วยบ่อย และต้องมีค่าใช้จ่ายในการเข้าโรงพยาบาลแต่ละครั้งก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย ยิ่งถ้าหากลูกป่วยหนักอาจจะทำให้ใช้เงินในการจ่ายค่ารักษาค่อนข้างมาก จึงอยากแนะนำให้คุณแม่ทำประกันสุขภาพให้ลูกเล็ก ๆ เอาไว้เพื่อความปลอดภัยของลูก หากเมื่อลูกเจ็บป่วยขึ้นมา จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และให้ลูกน้อยได้รับการรักษาที่ดีที่สุดด้วยค่ะ
6. ทำรายรับรายจ่าย
ค่าใช้จ่ายยิบย่อยในการเลี้ยงลูกนั้นมีมากมาย แต่เพื่อลูกน้อยแล้ว คุณพ่อคุณแม่ย่อมยอมจ่ายเสมอใช่ไหมละคะ และยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยนั้นก็คือ คือการทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และกำหนดงบประมาณแต่ละเดือนไว้ รวมทั้งจัดแบ่งเงินเอาไว้เพื่อเป็นเงินเก็บด้วย เพื่อไว้ใช้จ่ายเพื่อลูกในอนาคตอีกด้วยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ประโยชน์ของเครื่องปั๊มนม ไอเทมนี้สำคัญกับคุณแม่จริงหรือ?
หารายได้เสริม คุณแม่ทำเองได้ที่บ้าน
1. รีวิวสินค้า
การรับรีวิวสินค้า เป็นงานที่ให้คุณแม่ทดลองใช้สินค้าต่าง ๆ แล้วโพสต์รูปผลลัพธ์ ลงพื้นที่โซเชียลของตัวเอง ซึ่งงานแบบนี้มีทั้งได้ค่าตอบแทน หรือบางครั้งก็ได้รับสินค้าไปใช้ฟรี ๆ ซึ่งในยุคนี้ คุณแม่ไม่จำเป็นต้องเป็น Blogger คนตามเป็นแสน ก็สามารถรับลงรีวิวได้แล้วค่ะ
2. นักเขียน
ถ้าคุณแม่มีความสามารถทางด้านการถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านทางด้านการเขียนและแปลภาษา ในหลาย ๆ บริษัทนั้นกำลังมองหานักแปลภาษาฟรีแลนซ์เยอะมากค่ะ นักเขียนจึงเป็นหนึ่งในงาน ที่สามารถทำที่บ้าน และเหมาะสำหรับคุณแม่ เว็บไซต์สิ่งพิมพ์ดิจิทัลและสื่อสิ่งพิมพ์ล้วนเป็นอาชีพอิสระในสายงานนี้เช่นกันค่ะ
3. ตัวแทนจำหน่าย
ตัวแทนจำหน่าย คือการทำหน้าที่ขายของให้กับแบรนด์ หรือ ร้านค้าต่าง ๆ หากคุณแม่ชอบเล่นโซเชียลและชอบขายของแล้วล่ะก็ นี่ก็เป็นงานที่น่าสนใจมากทีเดียว โดยคุณแม่สามารถรับของจากทางร้านค้าไปขายตามสื่อโซเชียลมีเดียที่มี หน้าที่หลักของคุณแม่นั่นคือ การหาลูกค้าเพิ่มให้กับร้าน ที่เราเป็นตัวแทนจำหน่ายนะคะ ซึ่งตัวแทนจำหน่าย หลัก ๆ ก็จะแบ่งออก เป็น 2 ประเภท คือ ตัวแทนจำหน่ายแบบสต็อกสินค้า และ ตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต็อกสินค้า คุณแม่ก็สามารถเลือกตามแบรนด์ที่สนใจได้เลยค่ะ
4. ขายของผ่าน Facebook Fanpage
การขายของผ่านเฟซบุ๊ก เริ่มต้นได้ไม่ยาก เพราะ ไม่ต้องเสียเงิน ในการสร้างเว็บไซต์ หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แค่นี้ก็ สามารถที่จะเปิดเพจเองได้ทันที ทำให้ใครหลายคน หันมาให้ความสนใจ การทำงานผ่านเน็ต ด้วยการขายของผ่านเฟซบุ๊ก กันมากขึ้น นอกจากนี้ การเปิดร้านขายของในเฟซบุ๊กนั้น ทางเฟซบุ๊ก จะยังดูแล บริหารจัดการทุกอย่าง ให้กับเรา ทำให้ได้ง่าย สะดวกอีกด้วยนะคะ และ ถ้าหากคุณแม่คนไหนอยากจะใช้งานเพจได้อย่างชำนาญ ก็ยังมีตัวเลือกเสริมอีกอย่าง ให้เลือกใช้นั่น ก็คือ การโปรโมทแบบเสียเงิน ที่จะทำให้โพสต์ของเรา สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ที่เราต้องการที่จะขายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ
5. ครูออนไลน์
จากสถานการณ์ที่ผ่านมาทำให้การเรียนการสอนต่างก็เปลี่ยนมาเป็นออนไลน์ หากคุณแม่คนไหน มีความรู้ ความสามารถ ทางด้านวิชาการ เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย หรือ วิชาอื่น ๆ ที่คุณแม่ถนัด สามารถสมัครเป็นคุณครู แล้วสอนออนไลน์ จากที่บ้านได้เลยค่ะ
ทราบกันดีว่า คุณแม่หลังจากที่มีลูกน้อยแล้ว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เริ่มโหมเข้ามาทันทีแบบจนบางครั้งแทบจะไม่พอกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นค่านมผง ค่าเสื้อผ้า ค่าของเล่นเด็ก เปลนอน ขวดนม ผ้าอ้อมและอื่น ๆ อีกสารพัด ยิ่งในช่วงที่ของแพงแบบนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น วิธีการใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่ว่าจะด้วยการให้ลูกทานนมแม่ให้นาน รับของต่อจากญาติ ซื้อของในปริมาณมากเพื่อได้ของที่ถูกลง ที่ขาดไม่ได้เลยเห็นจะเป็นประกันเพื่อความคุ้มครองยามลูกเจ็บป่วย การหารายได้เพิ่มก็เป็นอีกช่องทางที่จะสามารถ เพิ่มรายได้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของลูกได้อีกด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 ต้นไม้ขายดี สามารถนำไปทำเป็นอาชีพเสริม ขายต้นไม้ ต้นไม้ยอดฮิตติดเทรนด์
ไอเดีย! 10 งานอดิเรกแบบง่าย แถมยังสร้างรายได้ให้คุณไม่น้อย
10 อาชีพของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว อาชีพเสริมสำหรับ Single Mom
ที่มา :