น.ส.วนิดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ได้เดินทางเข้าร้องสื่อ เรื่องเด็กชายวัย 1 ขวบถูก พี่เลี้ยงทำร้ายร่างกาย โดยพักอยู่ ม.8 ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี ขณะเดินทางไปเฝ้ารอดูอาการป่วยของ ด.ช.น้องดิว อายุ 1 ขวบ 2 เดือน ซึ่งเป็นลูกชายที่โรงพยาบาลสระบุรี ถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลหนองแค ด้วยอาการหมดสติไม่รู้สึกตัวตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.66 โดยอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤต ICU ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 10 ก.พ.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สอบสวน สภ.หนองแค ได้เชิญตัว นางสิริยาพร มาสอบปากคำยังห้องสอบสวน สืบสวน สภ.หนองแค โดยใช้เวลา นานกว่า 5 ชั่วโมง จนนางสิริยาพร ทนรับแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว พร้อมทั้งจำนนด้วยหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมี เป็นเสียงจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน ของนางสิริยาพร โดยนางสิริยาพร อ้างว่า หลังจากที่น.ส.วนิดา (แม่น้องดิว) นำตัวน้องดิวมาส่งให้ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าน้องดิวยังร้องไห้ งอแง ตลอดเวลาไม่ยอมหยุด
เพราะว่าน้องดิวไม่คุ้นชิน และการร้องไห้ของน้องดิว น้องได้ใช้หัวโขกพื้นไปด้วย ตนเองพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นาน แต่น้องดิว ไม่หยุดร้องไห้ และยังคงใช้หัวโขกลงไปที่พื้น ด้วยความพลั้งมือ ตนเองจึงได้จับหัวน้องดิวโขกไปที่พื้นด้วยถึง 3 ครั้ง โดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่คิดว่าน้องดิวจะได้รับผลกระทบถึงเพียงนี้
เมื่อเวลา 17.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สอบสวน สภ.หนองแค ได้เชิญ น.ส.วนิดา แม่ของน้องดิว เข้าสอบสวนเพิ่มเติมยัง สภ.หนองแค โดยกันไว้ไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับผู้สื่อข่าว และเชิญเข้าห้องสอบสวนในทันที ทางด้าน พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.หนองแค เผยว่า จากแนวทางการสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ว่าพลั้งลงมือทำร้ายเด็กจริง โดยไม่คิดว่าเด็กจะได้รับอันตรายถึงขนาดนี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขออนุมัติ หมายศาลเพื่อเข้าจับกุมตัว นางสิริยาพร เพื่อดำเนินคดีตามทางด้านกฎหมายต่อไป
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค ได้ตั้งข้อกล่าวหาให้กับ นางสิริยาพร ไว้ว่า “ทำร้ายร่างกายอันก่อให้เกิดอันตรายถึงสาหัส และทารุณกรรมต่อร่างกาย หรือจิตใจของเด็ก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก” พ.ต.อ.สถิตย์ กล่าวเสริมว่า ทางด้านนางสิริยาพร นั้นยังเคยต้องโทษในคดีฉ้อโกงเรื่องหน้ากากอนามัย เมื่อปี 2564 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการผ่อนชำระอีกด้วย
10 ข้อก่อนคิดมีพี่เลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงรายวัน
1. งานที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ
คุณควรจะกำหนด พี่เลี้ยงรายวัน ให้ชัดเจนว่าคุณต้องการให้พี่เลี้ยงของคุณมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอะไรบ้างเพื่อให้ชัดเจนทั้งสองฝ่าย และเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะจ้างพี่เลี้ยงแบบเช้าไปเย็นกลับ พี่เลี้ยงรายวัน หรือประจำเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว? จะเลี้ยงเด็กอย่างเดียว หรือว่าพ่วงงานบ้านต่าง ๆ ด้วย?
2. ความพร้อมทางการเงิน
เงินเดือนพี่เลี้ยงเด็กคุณต้องตรวจสอบว่ารายรับของครอบครัวคุณพร้อมจะจ้างพี่เลี้ยงหรือไม่? พร้อมจะจ้างแบบไหน? เงินเดือนเท่าไร? มีสวัสดิการอะไรบ้าง? ถ้าคุณจะให้พี่เลี้ยงอยู่ประจำแปลว่าครอบครัวคุณมีอีกหนึ่งท้องที่ต้องเลี้ยงให้ครบสามมื้อ
3. ความเป็นส่วนตัวของครอบครัวคุณ
การหา พี่เลี้ยงรายวัน ไม่ว่าคุณจะจ้างพี่เลี้ยงให้มาอยู่แบบไหน ผลคือครอบครัวคุณต้องต้อนรับคนแปลกหน้าเข้ามา คุณพร้อมหรือไม่ที่จะต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัวไประดับหนึ่งเพื่อให้พี่เลี้ยงเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของคุณ ถ้าจ้างให้อยู่ประจำคุณต้องจัดหาห้องนอน ห้องน้ำให้พี่เลี้ยงด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 ข้อชวนคิดก่อนจ้างพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงรายวัน หาคนเลี้ยงลูก ควรดูอะไรบ้าง ?
4. ที่มาของพี่เลี้ยง
คุณจะจ้างพี่เลี้ยงจากศูนย์พี่เลี้ยง หาพี่เลี้ยงรายวัน หรือจะหาเอาจากคนรู้จัก? การพูดคุยกับคนรอบตัว และศูนย์พี่เลี้ยงอาจช่วยคุณประมาณได้ว่าควรจ้างพี่เลี้ยงด้วยอัตราเงินเดือนเท่าไร คุณจะรับพี่เลี้ยงที่เป็นคนไทย หรือว่าประเทศเพื่อนบ้านที่ค่าจ้างถูกกว่า?
5. ประสบการณ์ของพี่เลี้ยง
พี่เลี้ยงที่คุณกำลังจะจ้างพร้อมจะรับมือลูกของคุณหรือไม่ คุณอาจจะจำเป็นต้องตรวจสอบว่าพี่เลี้ยงของคุณเคยเลี้ยงเด็กมาแล้วกี่คน พี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ หรือได้รับการฝึกฝนมาดีอาจจะเป็นครูที่ดีให้กับคุณได้ด้วยซ้ำ
6. ลักษณะนิสัยของพี่เลี้ยง
ช่วงแรกที่คุณจ้างพี่เลี้ยง หรือ พี่เลี้ยงรายวัน มาคุณไม่อาจปล่อยให้พี่เลี้ยงอยู่ตามลำพังกับลูกของคุณได้ พี่เลี้ยงอาจจะพูดจาดีเวลาสัมภาษณ์กับคุณ แต่คุณต้องแอบสังเกตด้วยว่า พี่เลี้ยงทำงานเป็นอย่างไร
7. พี่เลี้ยงตามใจลูก
คุณอาจจะไม่อยากให้พ่อแม่ของคุณเลี้ยงลูกของคุณ เพราะเกรงว่าปู่ย่าตายายจะตามใจหลาน แล้วพี่เลี้ยงของคุณมีแนวโน้มตามใจลูกของคุณมากจนเกินไปหรือเปล่า? คุณต้องคุยกับพี่เลี้ยงว่าอะไรทำได้ หรือไม่ได้ เพื่อไม่ให้พี่เลี้ยงตามใจลูกของคุณเกินไป
8. ลูกติดพี่เลี้ยง
ลูกติดพ่อ หรือติดแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่าอาจจะน่าปวดหัวพอแล้ว คุณคงไม่อยากให้ลูกติดพี่เลี้ยงมากกว่าคุณเอง ดังนั้นคุณต้องแบ่งเวลาให้กับลูกด้วย และหากิจกรรมทำกับลูกให้มาก
9. ครอบครัว และการให้เกียรติพี่เลี้ยง
คนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นพ่อแม่ต้องเห็นด้วยก่อนจ้างพี่เลี้ยง และตกลงกันว่าจะปฏิบัติต่อพี่เลี้ยงอย่างไร เพราะอย่างไรก็ดีคุณก็ต้องให้เกียรติพี่เลี้ยง หากลูกของคุณพอจะรู้ความแล้วคุณต้องสอนลูกให้เข้าใจมารยาทข้อนี้ด้วย
10. ลูกของคุณเอง
เมื่อพี่เลี้ยงอยู่กับคุณไปสักพัก คุณต้องดูปฏิกิริยาลูกคุณด้วยว่าลูกของคุณและพี่เลี้ยงเข้ากันได้หรือไม่ มีปัญหาติดพี่เลี้ยงหรือไม่ นิสัยเปลี่ยนหรือไม่ ถ้ามีปัญหาคุณอาจจะจำเป็นต้องพูดคุยกับพี่เลี้ยงของคุณแล้วล่ะ
ก่อนที่จะหาพี่เลี้ยงลูก อย่าลืมที่จะคำนึงถึงหน้าที่ที่ต้องการให้พี่เลี้ยงจะต้องทำ ความพร้อมทางด้านการเงินของคุณพ่อคุณแม่ ความเป็นส่วนตัวที่คุณพ่อคุณแม่จะสูญเสียไป ทั้งยังต้องดูที่มาและประสบการณ์ของพี่เลี้ยงที่จ้าง สิ่งสำคัญคือลักษณะนิสัยของพี่เลี้ยงที่ปฏิบัติต่อลูกเราและเรานั้นอาจจะไม่เหมือนกัน และสุดท้ายอย่าลืมที่จะปฏิบัติต่อพี่เลี้ยงอย่างให้เกียรติ เพราะหากเราต้องการให้พี่เลี้ยงดูแลลูกเราอย่างดี ก็อย่าลืมที่ทำสิ่งดี ๆ ต่อกันด้วยนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เลี้ยงลูกเอง หรือฝากเลี้ยง : 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ
ฝากเนอสเซอรี่ VS เลี้ยงลูกเอง 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 95
9 เรื่องจริงจากหัวอก แม่ที่เลี้ยงลูกเอง เท่านั้นจะรู้ซึ้งงงง!!
ที่มา :