TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

เจอแล้ว! ภรรยา ตามหาสามีพร้อมลูก หลังเครียดถูกหลอกไปทำงาน ตปท.

3 Feb, 2023
เจอแล้ว! ภรรยา ตามหาสามีพร้อมลูก หลังเครียดถูกหลอกไปทำงาน ตปท.

ภรรยาโพสต์ข้อความขอความช่วย ตามหาสามีพร้อมลูก ได้ขับรถหายออกไปพร้อมกับลูกชายวัย 3 ขวบ คาดว่าสาเหตุความเครียดมาจากการถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศ เสียหายกว่าแสนบาท พบว่าได้มือถือทิ้งไว้ข้างทาง ยังไม่รู้ชะตา

 

วันที่ 2 ก.พ. 66 ภรรยา อายุ 34 ปี คนพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความที่สภ.โนนสุวรรณ หลังจากที่สามี อายุ 35 ปี ได้อุ้มลูกชายวัย 3 ขวบ ขึ้น  รถเก๋งมาสด้า สีบรอนซ์เทา ทะเบียนจังหวัดบุรีรัมย์ ขับหายออกไป เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ หรือว่าเกิดอันตรายกับลูกชาย

 

ตามหาสามีพร้อมลูก

(คลิกเพื่อดูโพสต์ต้นฉบับ)

 

ด้านภรรยา เผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองและสามีเคยไปทำงานที่ประเทศไต้หวันด้วยกัน แต่กลับมาอยู่ที่ประเทศไทยสักพักแล้ว และได้มีคนติดต่อเข้ามาว่า จะพาไปทำงานที่ประเทศแคนาดา โดยให้จ่ายเงินคนละ 5 หมื่น จำนวน 2 คน รวมเป็น 100,000 บาท ได้ทำการจ่ายเงินไปแล้ว แต่พบว่าคนที่เรียกเก็บเงินไม่ได้พาเดินทางไปทำงานจริง ตนเองและสามีจึงได้ขับรถกันมา เพื่อแจ้งความเพราะต้องการได้เงินคืน ทั้งนี้หากไม่คืนก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ในขณะที่ตำรวจกำลังสอบปากคำตนเองอยู่ ตัวสามีก็ดูมีท่าทางแปลกไป ก่อนที่จะอุ้มลูกชายวัย 3  ขวบขึ้นรถเก๋งมาสด้าและขับออกไปจากโรงพัก โดยที่ตนเองไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน โทรศัพท์มือถือก็ติดต่อไม่ได้ รู้สึกเป็นห่วงลูกชายอย่างมาก เพราะสามี มีอาการเหมือนสติหลุด และยังเหมือนมีอาการหวาดระแวง ว่าตนจะคุยเฟซบุ๊กกับบุคคลอื่น ทั้งที่ตนไม่ได้คุยกับใคร แต่สามีนั้นคิดไปเอง เมื่อ 3-4 วันก่อนสามีได้มีการดื่มสุราอย่างหนักด้วย

 

ตามหาสามีพร้อมลูก

(คลิกเพื่อดูโพสต์ต้นฉบับ)

 

ทางด้านแม่สามี เปิดเผยว่า ลูกสะใภ้โทรมาแจ้งว่า ลูกชายตนเองได้ขับรถเก๋งพาหลานชาย หายออกไปจากโรงพักในลักษณะที่มีอาการเครียดจัด โดยไม่มีใครทราบว่าจะไปที่ไหน ตนเองก็ตกใจ วอนให้ญาติช่วยกันออกตามหา และได้โทรศัพท์ไปเพื่อพูดคุย แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ด้วยความเป็นห่วงจึงอยากวอนขอให้ตำรวจช่วยติดตาม และสกัดดักรถของลูกชาย ตนเองนั้นรู้สึกเป็นห่วงทั้งลูกชายและหลานชาย

 

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการประสานไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ให้เร่งช่วยออกตามหา ตามที่ญาติได้แจ้งขอความช่วยเหลือไว้ ผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่พบวี่แววของรถเก๋งคันดังกล่าว หากใครพบเห็นให้ช่วยแจ้งเบาะแสด้วย

 

ล่าสุด 3 ก.พ. 66 เจ้าของเรื่องได้แจ้งว่าเจอลูกชายวัย 3 ขวบแล้ว โดยได้โพสต์ระบุข้อความว่า “ตอนนี้เจอแล้วนะคะ เหมารถแท็กซี่ย้อนกลับมาจากโคราช มาหายายผัดที่หนองตาหมู่นางรอง ปลอดภัยดีทั้งพ่อทั้งลูกแต่ยังพูดไม่ได้สติเท่าไร กราบขอบพระคุณทุกคนที่ช่วยตามหานะคะ”

 

และโพสต์ข้อความเพิ่มเติมอีก 1 โพสต์พร้อมลงรูปลูกชายที่ได้กลับมาอย่างปลอดภัยดี โดยระบุข้อความว่า “ทุก ๆ ท่านพลังโซเชียล กราบขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณทุก ๆ ความห่วงใยที่ส่งมาให้ ขอบคุณครอบครัว ขอบคุณพี่น้องทุก ๆ คนที่ช่วยตามหา น้องกลับมาแล้ว ปลอดภัยทั้งพ่อทั้งลูก ขับรถไปโคราช ไปนอนโรงแรม ขากลับเหมาแท็กซี่มาหาย่าผัดที่นางรอง แม่ดีใจไม่รู้จะพูดยังไง ขวัญเอยขวัญมา อาร์กอนเอ้ย”

บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกหายไปต้องทำยังไง และสิ่งพ่อแม่ที่ควรสอนลูก หากเกิดพลัดหลงกัน

 

สอนลูกให้รู้ทันก่อนถูก มิจฉาชีพลักพาตัว

การสูญหายของเด็ก จากการถูกลักพาตัวนั้นสร้างความกังวลและเศร้าเสียใจให้กับพ่อแม่และญาติเป็นอย่างยิ่ง และหากทราบว่าเด็กถูกทำร้ายอย่างทารุณหรือถูกฆาตกรรม นั้นยิ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ในสังคมที่มีแต่ภัยรอบด้านและมีมิจฉาชีพอยู่รอบ ๆ ตัว ซึ่งคนร้ายมักมาในรูปแบบที่เหนือความคาดหมาย ทั้งมาในมาดคนใจดีหรือคนสนิท ทั้งเข้าหาเด็ก ๆ ในสถานที่สาธารณะทั่วไป และมักจะมีวิธีการล่อลวงต่าง ๆ ให้เด็กนั้นหลงเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่คนร้าย

 

1. บอกลูกว่า “คนร้ายอาจไม่ใช่คนแปลกหน้าเสมอไป”

ห้ามใช้แค่คำว่า คนแปลกหน้ากับลูกบ่อย ๆ เนื่องจากทุกวันนี้คนร้ายมักมาในรูปแบบของคนใจดี หรือคนที่น่าไว้ใจ ให้สอนลูกดูจากพฤติกรรมแทน เช่น ถ้าหากมีคนขับรถผ่านไปแล้วยิ้มให้นั่นถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากมีคนขับรถมาจอดแล้วพยายามพาตัวลูกเข้าไปในรถ นั่นแหละเป็นเรื่องผิดปกติ ให้ลูกมีปฏิกิริยาตอบโต้ เช่น ส่งเสียงร้องดัง ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ภัยใกล้ตัว! สอนลูกให้รู้ทันก่อนถูก มิจฉาชีพลักพาตัว

 

ตามหาสามีพร้อมลูก

 

2. ฝึกทักษะการร้องขอความช่วยเหลือ

คุณพ่อคุณแม่อาจเคยตั้งข้อบังคับกับลูกว่า ห้ามส่งเสียงดังในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือในที่สาธารณะ ให้ปรับเปลี่ยนวิธีการพูดกับลูกว่า เมื่อไหร่ที่ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือมีคนรังแกให้ลูกลืมข้อบังคับเรื่องนี้ไปซะ และให้ลูกส่งเสียงร้องดัง ๆ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้

 

บทความจากพันธมิตร
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง

3. สอนลูกให้รู้จักขออนุญาตทุกครั้งเวลาจะไปไหนกับใคร

ตั้งกฎกติกากับลูกว่า หากลูกต้องการออกไปวิ่งเล่นกับใครนอกจากพ่อแม่ ให้ลูกมาขออนุญาตพ่อหรือแม่ก่อนทุกครั้ง ก่อนที่จะออกไปเล่นได้ ฝึกความเคยชินให้ลูกตั้งแต่เด็ก ๆ ให้ลูกมาขออนุญาตทุกครั้ง แม้กระทั่งต้องออกไปกับคนสนิท เช่น ตา ยาย หรือพี่เลี้ยง เพื่อให้ติดเป็นนิสัยให้ลูกได้รู้ว่า หากมีคนชวนไปไหน ลูกจะต้องบอกพ่อแม่ก่อนเสมอ เป็นการบังคับให้ลูกอยู่ในสายตาพ่อแม่ตลอดเวลา

 

ตามหาสามีพร้อมลูก

 

4. คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคุณพ่อคุณแม่

  • หมั่นไปสังเกตการณ์ที่หน้าโรงเรียนลูกบ่อย ๆ ว่ามีใครเข้ามาคุยหรือเล่นกับลูกบ้าง
  • สถานที่เสี่ยงที่พึงระวัง เช่น บ้าน ตลาด ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ เป็นต้น
  • เวลาไปไหนควรจูงมือเด็กตลอดเวลา ไม่ทิ้งไว้ลำพังและไม่ให้คลาดสายตา

 

ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับตัวเอง และคนในครอบครัว ข้อแนะนำทั้งหมดนี้ หากถูกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการถูก มิจฉาชีพลักพาตัวไปได้เป็นอย่างมาก คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มสำรวจความพร้อม เช็คไหวพริบของลูก ๆ และฝึกหัดลูก ๆ ได้เลยนะคะ ก่อนที่อะไรจะสายเกินแก้

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

เด็ก 10 ขวบ สภาพโดนมัดมือมัดเท้า กุเรื่องถูกลักพาตัว เหตุเพราะกลัวถูกตี!

ป้องกันเด็กหาย!!! เริ่มที่พ่อแม่สอนลูกให้ถูกทาง

ทำความรู้จักกับระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน AMBER Alerts ให้มากขึ้น ตัวช่วยหลักเพื่อป้องกันปัญหาเด็กหาย

ที่มา : facebookโหนกระแส, 2

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kanjana Thammachai

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • เจอแล้ว! ภรรยา ตามหาสามีพร้อมลูก หลังเครียดถูกหลอกไปทำงาน ตปท.
แชร์ :
  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว