ไม่ว่าจะสนิทแค่ไหน การที่ปล่อยให้ลูกอยู่กับคนสนิท โดยที่ไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วย ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่น่าไว้ใจอยู่ดีค่ะ เพราะหากบ้านไหนประมาท อาจจะต้องพบเจอกับเหตุการณ์ร้าย ดังเช่นครอบครัวนี้ได้ เด็กหญิง 8 ขวบ ถูกเพื่อนบ้านลวงข่มขืน จากเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
เรื่องนี้เกิดขึ้นวันที่ 19 ม.ค.66 นางแอน (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ผู้เป็นแม่ ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ด.ญ.ฟ้า (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 8 ขวบ ซึ่งอาศัยอยู่กับปู่ย่า ถูกนายเสือ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ที่อยู่ข้างบ้านล่อลวงไปข่มขืน
ก่อนเกิดเหตุทราบว่า ลูกสาววิ่งเล่นกับเพื่อนที่บ้านนายเสือ และถูกนายเสือล่อลวง บอกจะพาไปซื้อขนม ก่อนจะพาลูกสาวซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไปที่ศูนย์เด็กเล็กฯ ใกล้เคียง แล้วบังคับให้เด็กเดินตามไปที่ห้องน้ำหลังเก่า โดยขู่ว่าถ้าไม่เชื่อจะพาไปปล่อยป่า จากนั้นก็ลงมือข่มขืนในห้องน้ำ ซึ่งลูกสาวร้องด้วยความเจ็บปวด นายเสือจึงยอมปล่อยและพามาส่งบ้าน
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น ลูกสาวได้เดินร้องไห้มาบอกย่า ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น หลังทราบจึงแจ้งความที่ สภ.วังสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกาย แพทย์ให้ยาต้านไวรัสมารับประทาน เป็นการป้องกันการติดเชื้อ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดสอบสหวิชาชีพ วันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา
แม่กล่าวอีกว่า ตอนนี้น้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากหลังรับประทานยาต้านไวรัสแล้วเกิดอาการแพ้ เป็นไข้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว และปากเปื่อย แพทย์ให้การดูแลรักษาอย่างดี แต่ลูกสาวยังมีอาการหวาดผวา เพราะนายเสือยังวนเวียนอยู่แถวบ้าน ทางครอบครัวเกรงว่า คนร้ายจะลอยนวลและย้อนกลับมาทำร้ายอีก จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามเร่งรัดคดี
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.กฤษนิธิทัต พงค์ธนณัชเมธาพร ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ ขอให้ช่วยติดตามคดี เนื่องจากเด็กและครอบครัวหวาดผวา ภายหลังมีการประสานนางรัชนี ยอดรัก หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว เดินทางไปเยี่ยมเด็กซึ่งกำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานความคืบหน้าทางคดีว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับนายเสือ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง อายุไม่เกิน 13 ปี, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี, และพาเด็กไปเพื่อการอนาจาร ต่อมาสืบทราบว่านายเสือหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในสวน จึงติดตามไปจับกุมตัวได้สำเร็จ สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยจะคุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดสระแก้วในวันที่ 21 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นางปวีณา เป็นห่วงอาการเด็ก ที่เกิดจากการแพ้ยา และยังมีอาหารหวาดกลัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือ ร่วมกับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กหญิงถูกข่มขืน เดินข้ามจังหวัดขอความช่วยเหลือ พลเมืองดีเล่าเด็กดูอมทุกข์มาก!
ยาต้านไวรัสคืออะไร
ยาต้านไวรัสเอชไอวี เป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งหรือต้านการแบ่งตัวของเชื้อเอชไอวี ช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T-cell และเป็นยาที่ออกฤทธิ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดจำนวนเชื้อ HIV ที่จะเกิดขึ้นใหม่ หากมีการใช้อย่างถูกวิธี ซึ่งจะใช้ช่วงก่อนหรือหลังจากการสัมผัสเชื้อ HIV
สำหรับยาที่รับประทานเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการติดเชื้อนั้น เรียกว่ายา PrEP หรือยาต้านก่อนเสี่ยง และยาที่รับประทานเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหลังจากสัมผัสเชื้อนั้น เรียกว่ายา PEP หรือยาต้านฉุกเฉิน
การรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี
ยาต้านไวรัสเอชไอวี มีคุณสมบัติในการยับยั้ง การเพิ่มจำนวนของเชื้อเอชไอวีในกระแสเลือด เมื่อจำนวนเชื้อลดลง ร่างกายก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น โอกาสในการเจ็บป่วยจึงลดลง เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ทำให้สามารถทำงาน และดำรงชีวิตตามปกติได้ และการเสียชีวิตก็เป็นไปได้น้อย
อย่างไรก็ตามการกินยาต้าน มีข้อที่ต้องคำนึงอยู่หลายประการ เมื่อแพทย์วินิจฉัยและให้การรักษา การกินยาต้องกินให้ถูกต้อง ตรงเวลาและต่อเนื่อง เนื่องจากยาไม่สามารถกำจัดเชื้อให้หมดไปจากร่างกายได้ ยาจะช่วยควบคุมจำนวนเชื้อให้มีน้อยที่สุด การกินยาตรงเวลาและต่อเนื่อง จะเป็นการไม่เปิดโอกาสให้เชื้อดื้อยา และสามารถควบคุมเชื้อไว้ได้ตลอดเวลา
ยาต้านไวรัสเอชไอวี มีด้วยกันหลายชนิด ออกฤทธิ์แตกต่างกันไป การเลือกใช้ยา แพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสม สำหรับผู้ป่วยแต่ละราย การรักษาที่จะให้ผลดี และช่วยลดปัญหาเชื้อดื้อยาได้ จะใช้ยา 3 ตัวรวมกัน หรือมากกว่า ที่เรียกว่า Highly Active Antiretroviral Therapy (HAART)
ผลข้างเคียงของยาต้านไวรัสเอชไอวี
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เป็นไข้ เจ็บคอ
- ปวดศีรษะ
- โลหิตจาง
- ลมพิษ
- หายใจติดขัด
- บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
- เม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิลต่ำ
- แสบร้อนที่ดวงตา ปวดผิว
- ผิวและเล็บอาจมีสีคล้ำ
การแพ้ยากับอาการข้างเคียงไม่เหมือนกัน เพราะการแพ้ยา ไม่สามารถใช้ยาตัวนั้นอีกได้ ถ้าแพ้ยาไม่รุนแรง อาจมีไข้ มีผื่นลมพิษ เยื่อบุอ่อนพองบวม เช่น เยื่อบุตา เยื่อบุปาก หายใจขัดหรือหอบ ยา NVP (เนวิราปิน) ทำให้เกิดอาการแพ้ได้บ่อยกว่ายาอื่น ส่วนการแพ้ยารุนแรง จะเกิดการช็อก หายใจไม่ทัน ขาดอากาศ หมดสติได้ ดังนั้น เมื่อทราบว่าเคยมีประวัติแพ้ยา ควรบอกแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับยา
อาการข้างเคียงจากการกินยาต้านไวรัส
- อาการข้างเคียงในระยะสั้นและไม่รุนแรง : พบได้และอาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น ภายในเวลาประมาณ 2 – 3 เดือน เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องอืด นอนไม่หลับ ฝันร้าย มีผื่นขึ้นเล็กน้อย
- อาการข้างเคียงในระยะสั้นและรุนแรง : เช่น ภาวะซีด ตับหรือตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ชาปลายมือปลายเท้า นิ่วในไต ซึ่งอาจพบได้ทุกช่วงของการกินยา และอาจทำให้เสียชีวิตได้ถ้าไม่รีบแก้ไข
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เด็กหญิง 8 ขวบ ถูกเพื่อนบ้านลวงข่มขืน นับเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น อาการแพ้ยา หรือการรักษาสภาพจิตใจ เพื่อไม่ให้เกิดเคสแบบนี้อีกในอนาคต พ่อแม่อย่าลืมหมั่นสอนลูกน้อยนะคะ ว่าควรเอาตัวเองอยู่นอกเหนือความอันตราย และหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ให้รีบบอกพ่อแม่ทันที อย่ากลัวการโดนข่มขู่นะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
การข่มขืน ปัญหาทางอารมณ์ที่มาพร้อมการข่มขู่ และวิธีเอาตัวรอด
เมียหมดความอดทน! แจ้งจับ พ่อข่มขืนลูก วัย 7 ขวบ
ไว้ใจคนผิด!! คนขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ข่มขืนเด็ก ป.6 นานหลายเดือน