เด็กกำพร้ายอดกตัญญู ! เด็กชายวัย 12 ปี ช่วยแม่บุญธรรมขายขนมหลังเลิกเรียน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวจากข่าวสด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังทราบเรื่องราวจากชาวบ้านและประชาชน ที่เข้าไปใช้บริการในปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ว่ามีเด็กชายวัย 12 ปี เด็กกำพร้ายอดกตัญญู เป็นนักเรียน เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองขลุง กำพร้าพ่อแม่ แต่มีความขยัน ยอดกตัญญู คอยช่วยแม่บุญธรรมปั่นจักรยานขายขนมปังหลังเลิกเรียน หารายได้วันละกว่า 2,000 บาท

 

เด็กชายวัย 12 ปี ช่วยแม่บุญธรรมขายขนมหลังเลิกเรียน

ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังปั๊มน้ำมัน พอถึงเวลาเลิกเรียน ก็ได้พบเห็นเด็กชายคนดังกล่าว กำลังถีบจักรยาน 2 ล้อ ที่ด้านท้ายมีกล่องพลาสติกใบใหญ่ 1 ใบ และกล่องอีกใบที่คล้องอยู่ในแฮนด์ฝั่งซ้ายมือ ตระเวนขายขนมปังให้กับผู้คนที่เข้ามาใช้บริการในปั๊มน้ำมัน

 

(คลิกเพื่อดูโพสต์ต้นฉบับ)

 

จากการได้พูดคุยกับน้อง ได้ข้อมูลมาว่า น้องชื่อตังตัง หรือ ด.ช.ชัยรัก ติรวัฒนานันท์ อายุ 12 ปี เป็นนักเรียน เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนเทศบาลเมืองขลุงบุรวิทยาคาร โดย น้องตังตัง บอกว่า น้องเริ่มปั่นจักรยานขายขนมปังมาได้ประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว เพราะต้องการช่วยแบ่งเบาภาระและทดแทนบุญคุณ และปัจจุบันพักอาศัยอยู่กับแม่บุญธรรม

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ต่อมาผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปพบกับ น.ส.ธีราภา แสงเมฆ อายุ 43 ปี แม่บุญธรรมของน้องตังตัง ที่บ้านพักเลขที่ 71 ถนนเทศบาลเมืองขลุง ที่เปิดเป็นร้านขายเบเกอรี่เล็ก ๆ อยู่ โดย น.ส.ธีราภา บอกว่า ตนเป็นเครือญาติ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้องตังตัง น้องเป็นเด็กน่าสงสาร กำพร้าพ่อกับแม่ที่ต้องแยกทางกัน โดยไม่ทันตั้งตัว และต้องกลายเป็นคนขาดแม่

 

จากนั้นไม่นาน พ่อกับพี่ชายร่วมสายเลือดก็ได้เสียชีวิตลง จากโรคซึมเศร้า แต่ยังโชคดีที่มีญาติรวมถึงตนเอง ที่รีบเดินทางไปรับน้องตังตัง จาก จ.ชลบุรี มาเลี้ยงดูอยู่ที่ จ.จันทบุรี ด้วยความที่น้องตังตังกตัญญูสำนึกในบุญคุณ น้องตังตังจึงขอเรียกตนว่าแม่ พร้อมกับบอกอีกว่า อยากช่วยแม่หาเงิน ทำอะไรก็ได้ให้ผมขาย เพื่อจะได้มีเงินส่งน้องตังตังเรียนหนังสือ  แม่บุญธรรมของน้องตังตังจึงตัดสินใจทำขนมปังให้นำไปขายด้วยเตาอบที่ยืมมาจากญาติ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กกตัญญู น้องเติ้ล ป.4 แม่ตายต้องขายพวงมาลัยเลี้ยงยายกับน้อง

 

ขนมปังที่นำไปขาย จะเป็นขนมปังเบเกอรี่ ไส้หมูหย็อง ไส้สังขยา และไส้กรอก ขายเพียงชิ้นละ 15 บาทเท่านั้น โดยจะทำวางขายหน้าร้านด้วย อีกส่วน น้องตังตัง จะใช้เวลาช่วงหลังจากเลิกเรียน นำขนมปังที่แม่บุญธรรมเตรียมไว้ให้ ใส่กล่องพลาสติก และปั่นจักรยานออกขาย โดยเฉพาะภายในปั๊มน้ำมัน เป้าหมายของน้องตังตัง คือรถทุกคันที่จอดภายในปั๊ม  มีลูกค้าทั้งขาประจำ ขาจร มาช่วยกันอุดหนุน บางคนไม่เอาขนมให้แต่เงิน บางรายไม่รับเงินทอน ให้เป็นทิปเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับน้องอีกด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ทางด้าน น.ส.ธีราภา บอกอีกว่า ในแต่ละวันหลังเลิกเรียน น้องตังตัง จะรีบกลับมาอาบน้ำ จากนั้นจะนำขนมทุกชิ้นภายในตู้ ใส่กล่องปั่นจักรยานออกไปขายวันละ 2 รอบ รอบละ 50-100 ชิ้น เฉลี่ยจะขายได้วันละ 2,000 บาท โดยใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง นับว่าเป็นรายได้ที่ดี สำหรับเด็กอายุเพียง 12 ปี ที่สามารถทำได้ จึงอยากให้เด็กและเยาวชน ยกเอา น้องตังตัง ไปเป็นแบบอย่างที่ดี

 

วิธีสอนให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน

เงินมีความสำคัญมากในการดำรงชีวิต เป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน พ่อแม่จึงต้องให้ความสำคัญกับวิธีการสอนลูกให้รู้จักการใช้เงิน การออมเงิน เป็นอย่างมาก เพราะถ้าลูกรู้จักการใช้จ่ายเงินตั้งแต่เด็ก ๆ อนาคตลูกของคุณก็จะเป็นคนที่รู้จักคุณค่าของเงิน คุณค่าในของแต่ละชิ้น และรู้จักการออมเงิน เพื่อใช้จ่ายในยามที่จำเป็น

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีสอนลูกให้รู้จักการใช้เงิน การออมเงิน ในแต่ละช่วงอายุ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

1. เมื่อลูกนับเลขเป็นให้เริ่มสอนลูกเรื่องเงินได้เลย

เตรียมพร้อมทักษะให้ลูกรู้จักเรื่องเงินแบบง่าย ๆ เช่น ให้รู้ค่าของแต่ละเหรียญ ว่าเหรียญ 1 บาท 5 บาทและ 10 บาท มีหน้าตาต่างกันอย่างไร มีค่าต่างกันอย่างไร ทำไมเวลาจะซื้อของถึงต้องใช้เงิน โดยควรเริ่มจากเหรียญก่อนที่จะสอนการใช้เงินธนบัตร

 

2. สอนลูกเรื่องเงิน เหมือนกับเขาคือผู้ใหญ่คนหนึ่ง

สอนให้ลูกรู้วิธีเก็บเงิน และวิธีใดบ้างที่จะทำให้เงินมีมูลค่างอกเงยขึ้นมา และสิ่งที่สำคัญคือการสอนให้รู้จักใช้เงินอย่างระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย หรือซื้อของโดยไม่จำเป็นนั้นทำอย่างไร และพฤติกรรมการใช้เงินของพ่อแม่นั้นมีผลต่อลูกการใช้เงินของลูกในอนาคต เด็ก ๆ จะเรียนรู้และสังเกตสิ่งที่พ่อแม่ทำได้ดี

 

3. พาลูกไปเปิดบัญชีธนาคาร

เมื่อลูกเริ่มรู้จักการออมตั้งแต่เด็ก เวลาที่ลูกจะขอเบิกเงินของเขาเอง เพื่อไปซื้อในสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ควรไปห้ามหรือกดดันลูกในการที่นำเงินออกไปใช้ แต่ชี้ให้ลูกเห็นเป้าหมายในเงินออมของเขา แล้วให้ลูกลองตัดสินใจใช้เงินด้วยตัวเอง อย่าไปคิดที่จะให้ลูกทำตามความคิดของพ่อแม่ไปทุกอย่างนะคะ เพราะลูกโตกว่าที่เราคิดไว้มากนะ

 

 

4. สอนเรื่องเงินเชื่อหรือเครดิต

ถ้าลูกอยากให้คุณพ่อคุณแม่ซื้อของเล่นสักชิ้น อย่าเพิ่งดุว่าหรือซื้อให้ลูกทันทีนะคะ ควรต่อรองให้ลูกออมเงินไว้ซื้อเองวันหลัง หากพูดยังไงลูกก็ไม่ฟัง นี่อาจเป็นโอกาสดีที่คุณจะสอนลูกเรื่องเงินเชื่อหรือเครดิตค่ะ เริ่มจากบอกลูกว่าคุณจะให้ลูกยืมเงินไปซื้อของก่อน และลูกต้องหาเงินมาคืนให้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่อย่างนั้นลูกต้องจ่ายเงินคุณเพิ่มเป็นค่าดอกเบี้ยตามอัตราที่พ่อแม่กำหนด ถ้าปลูกฝังนิสัยนี้ให้ลูกได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ลูกจะเห็นคุณค่าของของแต่ละชิ้นว่าหาซื้อมาได้ด้วย "เงินของตัวเอง" จะดีกว่าไปกู้ยืมเงินค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5. เป็นตัวอย่างให้กับลูก

ข้อสุดท้ายแต่สำคัญมาก คือคุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น อย่าลืมว่าลูกเปรียบเสมือนฟองน้ำที่จะดูดซับนิสัยทุกอย่างของพ่อแม่ ทำให้ลูก ๆ เห็นเป็นตัวอย่างด้วยการตั้งเป้าหมายทางการเงิน การเก็บออมเงินฉุกเฉินและการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด ถ้าคุณมีความรับผิดชอบต่อการใช้เงินของคุณเอง คุณก็จะส่งต่อค่านิยมเดียวกันนี้ให้ลูก และคุณจะมั่นใจได้ว่าลูกสามารถบริหารเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อพ้นอกคุณไปค่ะ

 

แม้หน้าที่เงินในตอนที่ลูกยังเด็กจะเป็นหน้าที่ของพ่อแม่และผู้ปกครองก็จริง แต่ถ้าเด็ก ๆ อยากจะช่วยเหลือ ก็ควรสนับสนุนพวกเขา ให้ได้ลองและเรียนรู้ด้วยตัวเองดูนะคะ เด็กที่ทดลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างตั้งแต่เด็ก จะช่วยให้พวกเขามีประสบการณ์ชีวิตหลายด้าน ที่หาไม่ได้จากในโรงเรียนอีกด้วยนะคะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ขอความช่วยเหลือ! เด็กกตัญญู ดูแลป้าป่วยเบาหวาน ไร้หน่วยงานเกี่ยวข้องดูแล

ซึ้งใจ เด็กอนุบาลออมเงิน ซื้อผ้าห่มแจกผู้ประสบภัยหนาว

ออมเงินอย่างไร ให้ได้เงินล้าน เทคนิคออมเงิน ง่าย ๆ นำไปใช้ได้เลย

ที่มา : 1

บทความโดย

Patteenan