เรื่องของการโดนหลอก แพร่กระจายไปทั่วทุกกลุ่ม รวมไปถึงในกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ที่ตอนนี้มีการหลอกให้ลงทุน เพื่อที่จะได้กำไรจำนวนมาก ๆ ซึ่งหากไม่ระวังแล้ว อาจจะเกิดความทุกข์ใจ ที่หาทางออกไม่ได้ดังเช่นครอบครัวนี้ค่ะ ที่ล่าสุดพ่อและพี่สาว ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้เป็นเคสสุดท้าย เนื่องจาก ลูกผูกคอดับในป่า เพราะถูกหลอกให้ลงทุนนั่นเองค่ะ
เรื่องนี้เกิดในพื้นที่ จ.นนทบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งเหตุ มีชายผูกคอเสียชีวิตในป่า ซึ่งภายในที่เกิดเหตุ เป็นป่ารกร้าง ได้พบกับร่างของนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง อยู่ในสภาพใช้เชือกไนล่อน ผูกคอตัวเองกับกิ่งไม้ บริเวณใกล้เคียงยังพบเก้าอี้ โทรศัพท์ และจดหมายที่เขียนทิ้งไว้ด้วย
เจ้าหน้าที่ได้เก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้เสียชีวิตพักอาศัยในห้องเช่า ห่างจุดเกิดเหตุออกไป ไม่ถึง 50 เมตร หลังจากนั้นได้ให้ญาติผู้เสียชีวิต เปิดดูโน้ตเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต
จากการสอบถาม นายสอ (นามสมมติ) พ่อของผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยว่า ลูกชายหายออกจากห้องพัก ไปเมื่อตอนเที่ยงคืน จนกระทั่งสายแล้วก็ยังหาไม่พบ จึงตัดสินใจให้แม่ไปแจ้งความ ซึ่งระหว่างนั้นตนเองได้ออกไปรดน้ำผัก ที่ปลูกไว้ในป่า จึงได้พบกับลูกชาย ตอนนั้นไม่รู้ว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว จึงพูดว่าทำไมถึงมายืนตรงนี้ แต่ลูกไม่ตอบกลับ พอไปจับตัว จึงพบว่าตัวลูกนั้นตัวแข็งแล้ว จนถึงกับเข่าทรุดทันที ที่เห็น ลูกผูกคอดับในป่า โดยอยู่ในสภาพผูกคออยู่กับต้นไม้
ทางด้าน น.ส.นี (นามสมมุติ) พี่สาวกล่าวว่า ก่อนเวลา 23.00 น. ยังมีการส่งข้อความพูดคุยกับน้องโดยน้องถามว่ากลับบ้านไหมตนเองตอบว่าไม่กลับหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรต่อในขณะนั้นน้องจะอยู่ห้องคนเดียวพ่อและแม่ออกไปทำงานกันหมด จนมารู้ว่าน้องหายออกไปแต่ก็พยายามโทรหาแต่ไม่รับสาย
ซึ่งหลังจากพบน้องชาย ได้อ่านข้อความในโน้ตที่น้องเขียนไว้ รวมถึงเปิดดูไลน์มีการพูดคุยสนทนา ถึงได้ทราบว่าน้องได้ถูกหลอกให้ลงทุน ว่าจะมีผลกำไรที่สูงคืนมา โดยลักษณะให้โอนเงินก่อน จนน้องหลงเชื่อ เอาเงินจากบัญชีแม่โอนต่อไปให้บุคคลดังกล่าว โดยพบสลิปยอดเงินครั้งสุดท้ายที่โอนไป จำนวน 11,973.71 บาท
บทความที่เกี่ยวข้อง : แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเด็ก ม.1 อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กสทช. ขู่เรียกเงินแสน!
จนสุดท้ายน้องคงรู้ว่าถูกหลอก จึงส่งข้อความตัดพ้อพร้อมกับรูปเชือกไนล่อน ไปให้กับบุคคลที่สนทนาด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้ น้องถูกหลอกให้โอนเงินไปภายในวันเดียว ประมาณ 14,000 บาท
น.ส.นี กล่าวต่ออีกว่า อยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด อยากให้เคสของน้องเป็นเคสสุดท้าย ไม่อยากให้ไปเกิดกับใครอีก ซึ่งอนาคตของน้องยังไปได้อีกไกล แต่สุดท้ายต้องมาจบชีวิตแบบนี้
ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบปากคำพ่อแม่และพี่สาวไว้ พร้อมกับเก็บหลักฐานที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ รวมถึงจดหมายที่เขียนทิ้งไว้ตรงจุดเกิดเหตุ โดยสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะกลัวความผิด ที่นำเงินของพ่อแม่ไปลงทุน และถูกหลอกไม่ได้เงินคืนกลับมา จึงตัดสินใจแอบไปผูกคอตัวเองในป่าใกล้ที่พัก จนเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะต้องมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต เพื่อชันสูตรต่อไป
การฆ่าตัวตายในวัยรุ่น
กรมสุขภาพจิต รายงานสถิติอัตราการฆ่าตัวตาย พ.ศ. 2560 รวมทุกกลุ่มอายุ 6.03 ต่อแสนประชากร โดยกลุ่มที่ต้องการฆ่าตัวตายในช่วงอายุ 10-19 ปี มีจำนวน 139 ราย อายุ 20-29 ปี 575 ราย
อัตราส่วนเพศชายต่อเพศหญิง ในการฆ่าตัวตายสำเร็จของวัยรุ่นไทย คือ 2-3 ในช่วงอายุก่อนเข้าวัยรุ่น และสูงคือเป็น3-5 ในช่วงวัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่า การพยายามฆ่าตัวตาย ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 12-15 ปี มีน้อยมาก เนื่องจากว่าความคิดเกี่ยวกับความตาย ยังไม่พัฒนาเกิดขึ้น จนเกิดเป็นความตระหนักต่อการตาย แต่ในขณะเดียวกัน เริ่มมีแนวคิดเรื่องของความตาย เข้ามาในวัยเด็กตอนปลาย ไปจนถึงวัยรุ่นตอนโต นอกจากนี้ยังพบโรคซึมเศร้าในเด็กเล็กน้อยมาก ที่สำคัญกลุ่มวัยรุ่น เป็นกลุ่มที่เข้าถึง รูปแบบวิธีการฆ่าตัวตายได้มากกว่าเด็ก
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกวัยรุ่น เสียงเล็ก ๆ ที่ต้องรับฟังด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่
วิธีการฆ่าตัวตาย
จากการศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบ วิธีการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา และทั่วโลก มีความแตกต่างกันมาก ซึ่งเหตุผลข้อนี้ สอดคล้องกับรูปแบบสังคม วัฒนธรรม และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
วิธีการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นอายุ 10-19 ปี ที่นิยมใช้ทั่วโลกคือการแขวนคอ ตามมาด้วยการกินสารเคมีของวัยรุ่นหญิง และการใช้อาวุธปืนในวัยรุ่นชาย
ซึ่งการมีอาวุธในครอบครอง จัดเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สูงที่สุดปัจจัยหนึ่ง จากการสำรวจพบว่า วัยรุ่นที่มีปืนอยู่ภายในบ้าน มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต จากการฆ่าตัวตายโดยใช้ปืน มากกว่าวัยรุ่นที่ไม่มีปืนในบ้าน
วิธีคุยกับลูกวัยรุ่น
- อย่าเริ่มต้นด้วยอารมณ์
- พยายามเข้าใจในจุดของลูก
- ฟังให้มากกว่าพูด
- เคารพและให้เกียรติลูกให้มากขึ้น
- อย่าละเลยการสร้างความสัมพันธ์อันดี
- อย่าเริ่มต้นด้วยคำว่าทำไม
- ชื่นชมและให้กำลังใจ อย่าเอาแต่บั่นทอน
เชื่อว่าหลายบ้านหลายครอบครัว อย่างไรก็อยากได้ยินการชื่นชม มากกว่าพูดถึงในด้านลบ วัยรุ่นเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ วัยที่กำลังค้นหาสิ่งต่าง ๆ อาจจะมีบางครั้งที่ไม่ถูกที่ ไม่ถูกทาง เมื่อเจอกับความผิดพลาด อาจจะมีความคิดที่ผิด ๆ เช่นการตัดสินใจฆ่าตัวตาย ดังนั้นเมื่อรู้แบบนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมพูดให้กำลังใจ หรือแนะนำลูกแทนที่จะตำหนิอย่างเดียว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดเช่นนี้ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
CEO วัยรุ่นสร้างตัว อายุ 16 กับธุรกิจลูกอมปกป้องฟันผุ มูลค่าเกือบ 64 ล้านบาท !!
รวม 10 งานอดิเรกสำหรับวัยรุ่น ที่มีส่วนร่วมได้ทั้งครอบครัว
นี่คือวิธีช่วยให้ลูกวัยรุ่นมีนิสัยเรื่องเงินที่ดี
ที่มา : sanook