โควิดทำพิษ ยอดหญิงไทยโทรเข้ามาหาสายด่วน 1663 กว่า 4 พันราย สสส.-กรมอนามัย-ภาคสุขภาวะทางเพศ เร่งพัฒนาเกี่ยวกับระบบส่งต่อผู้ป่วยออนไลน์ ที่รพ.ใกล้บ้าน เพิ่มทางเลือกเข้าถึงบริการอนามัยเจริญพันธุ์ที่ปลอดภัย
โควิดวันนี้ เสียชีวิต 22 ศพ อายุมากที่สุด 91 ปี และหญิงตั้งครรภ์ 1 ศพ เรียกได้ว่า สถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นการพบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,406 ราย ซึ่งยอดยอดสูงที่สุดจากหลายเดือนที่ผ่านมา
นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุม ปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2548 สสส. ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายสุขภาวะทางเพศ ทำงานสร้างทัศนคติเชิงบวก เรื่องเพศเพื่อลดการติดเชื้อ HIV โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และเพิ่มการเข้าถึงอนามัยที่ปลอดถัย โดยทางสสส. ได้ร่วมมือกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายสันบสนุนทางเลือกผู้หญิงท้องไม่พร้อม เครือข่ายอาสาอาร์เอสเอ และมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ พัฒนาระบบการให้คำปรึกษา เกี่ยวกับเรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์ที่ปลอดภัย ในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย 2 ช่องทาง
ช่องทางที่ 1 ทางโทรศัพท์ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์ท้องไม่พร้อม ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่อง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ ทางเลือกในการคุมกำเนิด ทางเลือดในกรณีที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม ช่องทางที่ 2 เว็บไซต์อาร์เอสเอไทย www.rsathai.com จะเป็นเว็บไซต์ที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการคุมกำเนิดกึ่งถาวร และทางเลือกในการตั้งครรภ์ทั้งตั้งครรภ์ต่อ หรือยุติการตั้งครรภ์ หรือไม่ได้มีการวางแผนครอบครัว
นายชาติวุฒิ กล่าวว่า ข้อมูลการให้บริการ 1663 สายด่วน ปรึกษาเรื่องเอดส์ท้องไม่พร้อม พบช่วงโควิด-19 มีหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับทางเลือกเกือบเท่าตัว โดยมีสถิติสูงสุดในเดือน พฤษภาคม 2564 รวม 4,461 คน เฉลี่ย 149 คนต่อวัน เป็นหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ถึง 26 คน มากกว่าช่วงสถานการณ์ปกติ เดือน ตุลาคม 2563 ที่มีคนโทรเข้ามาเพียง 2,490 คน เฉลี่ย 83 คน ต่อวัน
ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่โทรเข้ามานั้น มีอายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ สอดคล้องกับข้อมูลเว็บไซต์อาร์เอสเอไทย ที่พบว่าหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมหลังจากปรึกษาทางเลือกร้อยละ 70-90 มีความประสงค์ที่จะยุติการตั้งครรภ์ เนื่องจากปัจจัยของสิ่งแวดล้อม สุขภาพของตนเอง ครอบครัว เศรษฐกิจ
นายชาติวุฒิกล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว สะท้องถึงปัญหาการเข้าไม่ถึงของบริการอนามัยเจริญพันธุ์ เนื่องจากสถานพยาบาลหรือหน่วยบริการมีภารกิจหลักในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จึงส่งผลให้เกิดข้อจำกัดของการบริการอนามัยเจริญพันธุ์ ทั้งในเรื่องของการคุมกำเนิด การป้องกันโรค ซึ่งมีผลต่อสุขภาวะทางเพศของคนไทยเป็นอย่างมาก และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พร้อมมากขึ้น
สสส.และภาคีเครือข่ายสุขภาวะทางเพศ เห็นตรงกันว่า การป้องกันและการแก้ไขปัญหาในเรื่องของท้องไม่พร้อม เป็นประเด็นสาธารณสุขและต้องเร่งส่งเสริมให้หญิงเข้าถึงบริการอนามัยเจริญพันธุ์ที่ปลอดภัย นางทัศนัย ขันตยาภรณ์ ที่ปรึกษาโครงการอาสาพัฒนาเครือข่ายบริการที่ปลอดภัย สมาคมอาสา RSA กล่าวว่า ช่วงระบาดของโควิด-19 เครือข่ายอาสาอาร์เอสเอ ได้มีขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นตอนที่ 1 พัฒนาบริการยุติการตั้งครรภ์ด้วยระบบโทรเวชกรรม เพื่อใช้เป็นระบบประสานขอความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานที่ให้คำปรึกษา กับ สถานบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ขั้น
- ตอนที่ 2 จัดทำใบส่งต่อออนไลน์ ในกรณีที่มีการล็อกดาวน์บางพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามจังหวัด โดยระบุในใบส่งต่อว่า เข้ารับการรักษาโรคทางนรีเวช เพื่อป้องกันการตีตราต่อผู้ที่มีปัญหา
- ขั้นตอนที่ 3 ดูแลระหว่างและหลังยุติการตั้งครรภ์ โดยใช้ช่องทางออนไลน์ในการพูดคุย หากเกิดภาวะแทรกซ้อนให้เข้ารับการรักษาทันที พร้อมช่วยบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าได้ในภาวะวิกฤต
นพ.พีระยุทธ สานุกุล ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า บริการ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม ถือเป็นช่องทางหลักที่ให้คำปรึกษา และส่งต่อผู้ที่มีปัญหาไปยังสถานบริการที่ปลอดภัย ลดอันตรายและการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน เช่น ติดเชื้อ มดลูกทะลุ อาการตกเลือด พร้อมทำให้การยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย และคลินิกเถื่อนลดลง
กรมอนามัย มีเป้าในการเพิ่มจำนวนสถานบริการจากเดิมอยู่ที่ 38 จังหวัด ให้ครอบคลุม 76 จังหวัด ในปี 2567 เพื่อให้หญิงที่ท้องไม่พร้อม สามารถเข้ารับบริการขอคำปรึกษา และหน่วยบริการรับยุติการตั้งครรภ์ เพื่อสอดรับกับข้อสังเกตของกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรต่อ พ.ร.บ.ฉบับแก้ไข สิ่งสำคัญคือ การสร้างความเข้าใจ ยอมรับ เคารพการตัดสินใจของหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม ให้หน่วยบริการทุกแห่งสามารถดำเนินไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์ของสังคม โดยรวม
โดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา ฉบับที่ 28 พ.ศ.2564 ในมาตรา 301 และ 305 หญิงที่ตั้งครรภ์สามารถยุติครรภ์ได้ โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย ภายใต้เงื่อนไข 5 ข้อ
- ปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิต
- ตั้งครรภ์จากการกระทำความผิดอาญาเกี่ยวกับเพศ
- เสี่ยงคลอดทารกที่มีความผิดปกติถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง
- อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ยืนยันที่จะยุติ
- อายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติภายหลังการตรวจและรับคำปรึกษาตามกฎหมาย
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาวะทางเพศ การตั้งครรภ์ไม่พร้อม สามารถติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ ได้ที่ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม หรือเว็บไซต์ www.rasthai.com บริการคำปรึกษาที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เพื่อให้ผู้หญิงมีทางเลือก และตัดสินใจได้อย่างอิสระ
บทความที่คุณอาจจะสนใจ :
ท้องในวัยเรียน ท้องไม่พร้อม แต่ไม่อยากทำแท้ง ต้องทำยังไง
ครม. เห็นชอบแก้กฎหมาย ผู้หญิง ไม่พร้อมมีครรภ์ สามารถทำแท้งได้
ความเห็นจากกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง กับการ แก้ไขกฎหมายทำแท้ง ในรอบ 60 ปี
ที่มา : khaosod