อาการปวดมดลูก มักจะเกิดขึ้นหลังจากคุณแม่คลอดบุตรแล้ว เพราะธรรมชาติ มดลูกจะมีการบีบตัว เพื่อเข้าสู่ภาวะปกติ หรือที่เรียกว่า มดลูกเข้าอู่ เพราะฉะนั้น การที่คุณแม่ที่ให้นมบุตร อาจจะรู้สึกได้ถึงมดลูกที่บีบตัว หรือรู้สึกปวดท้องจี๊ด ๆ ในขณะให้นมบุตร นั่นเป็นภาวะปกติที่มักจะเกิดขึ้นได้ โดยไม่มีอันตราย หรือเป็นสัญญาณเตือนจากโรคภัยไข้เจ็บแต่อย่างใด อาการปวดมดลูก นับว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณ ของการปรับตัวของร่างกายภายใน ทั้งนี้หลังคลอด คุณแม่ยังคงต้องดูแลรักษาสุขภาพ และบำรุงร่างกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายฟื้นกลับสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว แต่ถ้าปวดต่อเนื่องยาวนานกว่าปกติ ก็ควรรีบเข้าพบแพทย์ เพื่อทำการหาสาเหตุ และรักษาต่อไป
ลักษณะอาการของมดลูกบีบ หดตัว…
หลังจากคลอดบุตร มดลูกจะเริ่มลดขนาดลงกลับไปสู่ภาวะปกติ หรือมีขนาดเท่าเดิม ซึ่งในระหว่างที่มดลูกค่อยๆ หดตัว คุณแม่จะรู้สึกถึงอาการเจ็บ ชา ๆ บริเวณมดลูก และหน้าท้อง โดยอาการส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นใน 2 – 3 วันแรกหลังคลอดบุตร และจะกลับเข้าอู่โดยใช้ระยะเวลา ประมาณ 4 – 6 สัปดาห์
น้ำคาวปลาหลังคลอด
- ตามลำดับขั้นตอน หลังคลอดลูกออกมาแล้ว รกจะหลุดลอกตัวตามออกมา
- หลังจากนั้นประมาณ 2 – 3 วันจะมีน้ำสีขุ่น ๆ มีเลือดปนออกมาจากช่องคลอด เรียกว่า “น้ำคาวปลา” แรก ๆ จะมีสีเข้มคล้ายสีประจำเดือน และจะค่อย ๆ จางลงเป็นสีชมพู และสีน้ำตาลอ่อน จางลงเรื่อย ๆ และจนหมดภายในระยะเวลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์หลังคลอด
- ที่สำคัญคือ น้ำคาวปลานี้จะไม่มีกลิ่นเหม็นรุนแรง หากพบว่า น้ำคาวปลาที่ซึมออกมานั้นมีสีแดงสดตลอด ไม่มีทีท่าจะจางลง หรือมีกลิ่นเหม็นมาก ต้องรีบพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาโดยด่วน เพราะอาการเช่นนี้ส่งสัญญาณความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว
ปวดมดลูกหลังคลอด
- อาการอีกอย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นหลังคลอด คือ อาการปวดมดลูก เนื่องจากหลังคลอดมดลูกจะลดระดับลงทันทีมาอยู่ที่ระดับสะดือ ขนาดเท่ากับอายุครรภ์ประมาณ 4 เดือน
- มดลูกจะบีบตัวเพื่อกลับเข้าสู่สภาพเดิมหรือที่เรียกว่า “มดลูกเข้าอู่” ใน 2 – 3 วันแรกจะมีอาการปวดมดลูกมาก และความปวดจะค่อย ๆ ทุเลาลง
- อาการปวดที่ว่านี้คล้ายกับการปวดประจำเดือนค่ะ และขณะให้ลูกดูดนม ก็จะมีอาการปวดมากกว่าปกติอีกด้วย
ปวดมดลูกหลังคลอดแบบไหนที่ถือว่าผิดปกติ
- ปวดท้องมากกว่าปกติ ปวดท้องระหว่างที่ไม่ได้ให้นมบุตร
- น้ำคาวปลามีปริมาณมากขึ้น และมีกลิ่นเหม็น
- มีไข้
- มีลิ่มเลือดออกมาจากช่องคลอดปริมาณมาก
อาการปวดมดลูก สามารถบรรเทาอาการได้โดยวิธีใดบ้าง
- ใช้ถุงประคบร้อน เพราะถุงร้อน จะช่วยทำให้การหมุนเวียนเลือดดีขึ้น ช่วยทำให้มดลูกคลายตัว
- แช่น้ำอุ่น คุณแม่ประคบร้อน หรือลงแช่ในน้ำอุ่นประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายได้
- ทานยาลดอาการปวด พาราเซตามอล
- นอนในท่าที่คุณแม่รู้สึกสบาย เพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวด โดยอาจใช้หมอนช่วยพยุงก็ได้
หลังคลอด คุณแม่ยังคงต้องดูแลรักษาสุขภาพ และบำรุงร่างกายเพื่อให้ฟื้นกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว ลดความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส ร่างกายก็จะกลับมาแข็งแรงในเร็ววันได้ และหากคุณแม่มีอาการเตือนถึงความผิดปกติตามที่กล่าวไปข้างต้น ควรรีบเข้ามาพบแพทย์ เพื่อทำการหาสาเหตุ และรักษาต่อไป
ปวดท้องหลังคลอดเกิดจากอะไร และวิธีลดอาการปวด
หลังจากที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ได้คลอดลูกเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าอาการปวดท้องขณะตั้งครรภ์ น่าจะหายไปบ้าง แต่พอถึงเวลาก็รู้สึกว่าอาการเหล่านี้ยังคงอยู่ หรือปวดมากกว่าเดิม อีกทั้งมีความกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อตนเอง หรือไม่ และจะมีวิธีวิธีลดอาการปวดได้อย่างไรบ้าง เรามีคำแนะนำดี ๆ มาฝากค่ะ
อาการปวดท้องเกิดจากอะไร
- ผลข้างเคียงจากการผ่าคลอด เป็นอาการปวดที่อยู่บริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัด ดังนั้นคุณแม่ควรนอนราบ และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งพักผ่อนให้มาก ๆ ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี
- มดลูกหดตัว เมื่อคุณแม่คลอดลูกออกมาแล้ว ก็จะส่งผลให้มดลูกค่อย ๆ หดตัวลงขนกลับไปสู่ขนาดเดิม ซึ่งจะมีอาการปวดชา ๆ ที่บริเวณหน้าท้องและมดลูก โดยมักจะเกิดในช่วง 2 – 3 วันแรก ๆ ช่วงหลังคลอด แล้วมดลูกจะกลับเข้าอู่ในระยะเวลาที่นานกว่า 6 สัปดาห์ นอกจากนี้คุณแม่ที่ท้องสอง หรือท้องสามส่วนใหญ่ จะมีอาการปวดมากกว่าท้องลูกคนแรก
- ท้องผูก มักเกิดจากการบีบรัด หรือการเคลื่อนไหวของลำไส้ที่ทำให้รู้สึกปวดท้อง รวมทั้งอาจเกิดจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ยังค้าง หรือเกิดจากผลของยาบางชนิดที่ทำให้คุณแม่มีอาการท้องผูกได้
ระยะเวลาการปวดท้อง
คุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ จะมีอาการปวดท้องหลังคลอดไม่นานมากนัก ซึ่งแตกต่างจากการผ่าคลอด ที่จะมีอาการปวดท้องนานถึง 2 – 3 สัปดาห์ หรืออาจจะกินเวลานานมากกว่านั้น โดยขึ้นอยู่กับภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น หรือประวัติการผ่าตัดที่ผ่านมา แต่อาการนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้น
วิธีลดอาการปวดท้อง
- แช่น้ำร้อน เวลาที่มีอาการปวดท้องบริเวณมดลูก ลองแช่น้ำอุ่นในอ่างน้ำเพียงวันละครึ่งชั่วโมง จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย และบรรเทาอาการปวดได้ดีพอสมควร
- ประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน วิธีนี้จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น กล้ามเนื้อหน้าท้องที่หดตัวลง จนรู้สึกปวดตึงจะเริ่มผ่อนคลาย เพราะฉะนั้นอาการปวดท้องจึงทุเลาลงตามไปด้วย
- ดื่มน้ำสมุนไพร การดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่น และน้ำมะนาว จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง อีกทั้งยังมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้อด้วยเช่นกัน หรืออาจจะดื่มน้ำสะระแหน่สด ผสมน้ำมะนาววันละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยลดอาการปวดลงได้ โดยเฉพาะแก้อาการท้องผูกที่จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวมากขึ้น
ช่วงที่คุณแม่มีอาการปวดท้องหลังคลอดนั้น อาจจะรู้สึกปวดมากราวกับว่า เหมือนมีอะไรมากด หรือบีบมดลูก คล้ายกับว่ามดลูกจะพัง แต่เมื่อเราทราบสาเหตุ และปฏิบัติตามคำแนะนำที่กล่าวมานี้อย่างสม่ำเสมอ อาการปวดท้องนั้นก็จะค่อย ๆ ทุเลาลงจนสามารถหายไปเองได้ค่ะ
ที่มา :
https://www.phyathai.com/article_detail
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 21 มดลูก จะเข้าอู่เมื่อไร ?
ยาคลายมดลูก คืออะไร 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 76