วิธีทําให้ได้ลูกแฝด พร้อมท่าเซ็กส์ทำลูกแฝด อยากปั๊มทีเดียวแล้วได้หลายคน!

วิธีทําให้ได้ลูกแฝด ทํายังไงให้ได้ลูกแฝด ทําลูกแฝด แบบธรรมชาติ พร้อมท่าเซ็กส์ทำลูกแฝด มาดูเคล็ดลับทำลูกแฝดแบบธรรมชาติ พร้อมท่าเซ็กส์ทำลูกแฝด เตรียมตัวไว้เสียแต่เนิ่น ๆ วิธีทําให้ได้ลูกแฝด จะทำได้อย่างไรนั้น ไปดูกันเลย !

 

เคล็ดลับทำลูกแฝดแบบธรรมชาติ วิธีทําลูกแฝด ทำลูกแฝด

ผศ.นพ.เมธาพันธ์ กิจพรธีรานันท์ สูติแพทย์ บอกว่า การตั้งครรภ์ในมนุษย์จะมีเด็กทารกเพียงคนเดียวในครรภ์ ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติกำหนดให้มีไข่ตกเพียงฟองเดียวในแต่ละรอบเดือน แต่ก็มีส่วนน้อยประมาณร้อยละ 5-10 ของสตรีตั้งครรภ์ที่จะมีโอกาส ตั้งครรภ์แฝด โดยเฉพาะกลุ่มสตรีที่มีบุตรยาก ซึ่งรักษาด้วยการกระตุ้นไข่ทำเด็กหลอดแก้วหรือฉีดน้ำเชื้อผสมเทียม จะมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดสูงขึ้นชัดเจนกว่าคนทั่วไป

บทความที่เกี่ยวข้อง : เลี้ยง ลูกแฝด ยังไง? ไม่ให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง สิ่งที่พ่อแม่ต้องรู้

 

การตั้งครรภ์แฝดสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ

  • แฝดเหมือน (จากไข่ใบเดียวกัน) เมื่อมีการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนแล้วยังคงมีการแบ่งต่อเป็น 2 ตัวอ่อน ซึ่งจะมีหน้าตาเหมือนกัน เพศเดียวกัน แต่หากการแบ่งไม่สมบูรณ์จะเกิดเป็นแฝดติดกันได้
  • แฝดไม่เหมือน (จากไข่คนละใบ) เกิดจากมีไข่ 2 ใบ ผสมกับอสุจิ 2 ตัว เสมือนพี่น้องท้องพร้อมกัน จึงมักเป็นแฝดที่มีหน้าตาคล้ายกัน อาจเป็นเพศเดียวกันหรือคนละเพศก็ได้ ทางการแพทย์มีความจำเป็นต้องแยกชนิดแฝดให้ได้ เพื่อการวางแผนดูแลที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป

 

การตั้งครรภ์แฝดจัดว่าเป็นการตั้งครรภ์เสี่ยงสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงทั้งต่อมารดาและทารกในครรภ์ สูติแพทย์ทั่วไปจึงต้องให้ความใส่ใจครรภ์แฝดเป็นพิเศษ และติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การตั้งครรภ์ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ฝาแฝดยิ่งมีมาก น้ำหนักทารกในครรภ์ (แต่ละคน) ยิ่งน้อย ยิ่งมีจำนวนแฝดหลายคน โอกาสปอดทำงานผิดปกติสูงขึ้นซึ่งเป็นเหตุให้มีโอกาสเกิดทุพพลภาพหรือเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ การดูแลเอาใจใส่จากมารดา และพบสูติแพทย์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผ่านพ้นการตั้งครรภ์แฝดนี้ไปได้

 

วิธีทำลูกแฝด มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ได้ลูกแฝด

  1. ลูกแฝดแบบธรรมชาติ พ่อแม่มักจะมีประวัติว่า คนในครอบครัวเคยตั้งครรภ์แฝด หรือพูดง่าย ๆ ว่า เป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งการถ่ายทอดทางพันธุกรรมของครรภ์แฝดนั้นจะมาจากทางฝ่ายแม่มากกว่าฝ่ายพ่อ
  2. นอกจากกรรมพันธุ์แล้ว เชื้อชาติก็มีส่วนในการตั้งครรภ์แฝดแบบธรรมชาติ เช่น แม่ชนชาติแอฟริกันจะมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดได้มากกว่าแม่ผิวขาวหรือผิวเหลือง เกือบทั้งหมดจะเป็นแฝดเทียมหรือแฝดต่างไข่
  3. ลำดับของการตั้งครรภ์ ก็มีส่วนในการท้องลูกแฝดแบบธรรมชาติ แม่ที่เคยคลอดลูกมาหลายคน มีโอกาสตั้งครรภ์แฝดได้มากขึ้น เพราะการตั้งครรภ์หลายครั้งทำให้ไข่ตกเยอะขึ้น
  4. อายุของแม่ท้องเองก็มีส่วนสำคัญในการท้องลูกแฝดแบบธรรมชาติ แม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป มีโอกาสตั้งครรภ์แฝดมากกว่าแม่ตั้งครรภ์อายุน้อยถึง 4 เท่า (อายุราว ๆ 35-39 ปี) เพราะการที่ไข่เหลือเก็บ ต้องถูกกระตุ้นมาก ร่างกายจึงหลั่งฮอร์โมน FSH ออกมาเยอะ ไข่จึงมีโอกาสตกครั้งละมากกว่า 1 ฟอง แต่แม่ท้องอายุมากก็มีความเสี่ยงมากจึงต้องระวัง
  5. ผู้หญิงที่กินยาคุมเกิน 3 ปีขึ้นไป เมื่อหยุดกินยาคุมกำเนิด ก็มีโอกาสท้องลูกแฝดแบบธรรมชาติ เพราะพอหยุดยาแล้วทำให้ไข่ตกมากขึ้น เนื่องจากยาไปกดฮอร์โมนใต้สมองทำให้ไข่ไม่ตก พอหยุดกินฮอร์โมนที่ถูกกดไว้จะปล่อยออกมา

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากนิตยสาร Real Parenting ระบุว่า ผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วน มีน้ำหนักตัวหรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 และรูปร่างสูง มีโอกาสตั้งครรภ์แฝดมากขึ้น รวมทั้งแม่ที่เคยคลอดลูก แล้วให้นมลูกคนแรกอย่างต่อเนื่อง จะมีโอกาสได้ลูกแฝดมากกว่า

บทความที่เกี่ยวข้อง : ท่าให้นมลูกแฝด แม่ลูกแฝดจะให้นมลูกพร้อมกันได้ท่าไหน

 

เคล็ดลับทำลูกแฝดแบบธรรมชาติ พร้อมท่าเซ็กส์ทำลูกแฝด

 

  • เคล็ดลับทำลูกแฝดแบบธรรมชาติด้วยการกินอาหารที่มีแคลเซียม

งานวิจัยของ ดร.แกรี่ สไตน์แมน ประจำศูนย์การแพทย์ที่เมืองลองไอแลนด์ มลรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า ผู้หญิงที่ดื่มนมมากกว่าปกติ 5 เท่า มีโอกาสได้ลูกแฝดมากกว่าผู้หญิงที่เป็นมังสวิรัติที่ไม่บริโภคอาหารประเภทเนื้อเลยถึง 5 เท่า ทั้งยังมีการสันนิษฐานด้วยว่า โปรตีนที่พบในตับของสัตว์เป็นปัจจัยสำคัญในการมีลูกแฝด เพราะโปรตีนชนิดนี้มีองค์ประกอบการเติบโตคล้ายอินซูลิน เรียกว่า IGF พบได้ในนมวัวและผลิตภัณฑ์ของสัตว์อื่น ๆ ช่วยให้รังไข่มีปฏิกิริยาไวขึ้น เพิ่มจำนวนไข่ให้มากขึ้น

 

  • เคล็ดลับทำลูกแฝดแบบธรรมชาติด้วยการกินอาหารให้มาก

เช่นเดียวกับข้อมูลที่ว่า ผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วนมีโอกาสตั้งครรภ์แฝด หากได้กินอาหารเยอะ ๆ จะมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดได้มากกว่า เพราะร่างกายสมบูรณ์กว่า แต่ก็ต้องระวังเรื่องน้ำหนักเกินจากอาหารที่ไม่มีประโยชน์

  • เคล็ดลับทำลูกแฝดแบบธรรมชาติด้วยการรับประทานกรดโฟลิก

ข้อมูลจากนิตยสาร Real Parenting ระบุว่า งานวิจัยจากประเทศออสเตรเลีย พบว่า กรดโฟลิกมีส่วนช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์แฝดมากขึ้น แต่ในงานวิจัยก็มีการแย้งว่า เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก

 

  • เคล็ดลับทำลูกแฝดแบบธรรมชาติด้วยการให้สามีกินอาหารที่มีธาตุสังกะสี (zinc)

เช่น ผักใบเขียว หอยนางรม และธัญพืช เพราะอาหารที่อุดมด้วยสังกะสี มีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตอสุจิ เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์แฝดได้

 

  • วิธี ทำ ลูกแฝด แบบธรรมชาติต้องไม่ท้องติดกันเกินไป

เว้นช่วงท้องแรก ท้องสองให้ห่างกันสักหน่อย จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์แฝด การมีลูกติด ๆ กัน หรือการมีลูกหัวปีท้ายปี ลดโอกาสการท้องลูกแฝดได้นะแม่

 

 

 

ท่าไหนได้ลูกแฝด ฝึกท่าทำลูกแฝดง่าย ๆ แค่ 3 ท่า

นอกจากเคล็ดลับทำลูกแฝดแบบธรรมชาติที่ได้บอกไปแล้ว ท่าเซ็กส์ทำลูกแฝดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์แฝดให้ง่ายขึ้น มาดู 3 ท่าเซ็กส์ทำลูกแฝดกันค่ะ

 

  • Standing up position – เซ็กส์ท่ายืน คล้ายกับท่าเซ็กส์ doggy style ท่านี้สอดใส่ได้ลึก เพิ่มโอกาสการท้องลูกแฝด
  • Missionary position – ท่ามิชชันนารี ท่านี้เป็นท่วงท่าที่ทำให้ตั้งครรภ์แฝดได้ง่ายเช่นกัน เพราะเป็นท่วงท่าที่ผู้ชายอยู่บน ทำให้อสุจิผสมกับไข่ได้ง่ายกว่าท่าอื่น
  • Rear entry position – ท่าเซ็กส์แบบไหนก็ได้ ที่ผู้ชายเข้าทางข้างหลัง การเข้าจากข้างหลัง (ไม่ใช่ประตูหลัง) ทำให้อสุจิอยู่ใกล้กับปากมดลูกของผู้หญิง ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์แฝด

 

ใครมีโอกาสตั้งครรภ์ลูกแฝดบ้าง?

 

สำหรับใครที่อยากจะรู้ว่าตัวเองนั้นมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ลูกแฝดได้ไหม? หรือคนที่สามารถตั้งครรภ์ลูกแฝดได้จะต้องมีลักษณะอย่างไรบ้าง เชื่อเลยว่าสิ่งนี้อาจเป็นข้อสงสัยสำหรับใครหลายๆ คน แต่ก็อาจจะยังไม่รู้ว่าต้องมีปัจจัยอะไรบ้างที่จะส่งผลทำให้เราตั้งครรภ์แฝดได้ เอาเป็นว่าเรามาไขข้อสงสัยไปพร้อม ๆ กันดีกว่า เราจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองสามารถมีลูก

 

  • คนในครอบครัวเป็นแฝดเทียม

การที่เราจะมีลูกแฝดได้นั้น อีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งผลทำให้เราท้องแฝดได้นั้นก็คือคนในครอบครัวของเราเคยมีลูกแฝดมาก่อน ซึ่งในที่นี้อาจจะเป็นคุณแม่ของเรา หรือยายของเราที่เป็นแฝดเทียมได้เช่นกัน และถ้าครอบครัวไหนที่มีแฝดในลักษณะแบบนี้ เราก็มีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะท้องแฝดได้เช่นกัน โดยร่างกายของเราอาจจะมียีนที่สามารถผลิตไข่ออกมาได้มากกว่า 2 ใบขึ้นไป และเมื่อร่างกายของเรามีการตกไข่มากกว่า 2 ใบขึ้นไป สิ่งนี้ก็จะส่งผลทำให้เรามีโอกาสท้องแฝดได้สูงขึ้นนั่นเอง

 

  • น้ำหนักตัวและส่วนสูงของแม่

จากการศึกษาพบว่าค่าดัชนีที่ใช้วัดความสมดุลน้ำหนักตัวของคุณแม่และส่วนสูง ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป หรือคนที่อยู่ในกลุ่มที่มีส่วนสูงเป็น 25 % ของประชากรนั่นเอง เรียกได้ว่าน้ำหนักและส่วนสูงก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการทำให้เรามีลูกแฝดได้อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : ตารางน้ำหนักและขนาดของทารกในครรภ์ ที่จะบอกว่าลูกในท้องแข็งแรงดีแค่ไหน

 

 

เราจะรู้ได้ยังไง? ว่าตัวเองท้องลูกแฝด

 

ช่วงของการตั้งท้องแรก ๆ เราก็อาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นท้องแฝดหรือไม่ ถ้าสังเกตด้วยตัวเองเราจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองท้องแฝดไหม สำหรับคุณแม่คนไหนที่อยากจะรู้แต่ก็ยังไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร หรือมีวิธีสังเกตยังไงกันบ้าง เรามาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลย

 

1. การตรวจอัลตราซาวด์

แน่นอนว่าสิ่งแรกที่จะทำให้เรารู้ได้ว่าท้องแฝดหรือไม่นั้น ก็อาจจะเป็นการอัลตราซาวด์ เพราะนอกจากจะทำให้เราได้เห็นพัฒนาการต่างๆ ของลูกได้แล้ว สิ่งนี้ยังสามารถบอกเราได้ชัดเจนว่าลูกของเรานั้นเป็นเพศอะไร และเราท้องแฝดไหม แต่การที่เราจะรู้สิ่งนี้ได้เราก็อาจจะต้องมีอายุครรภ์ประมาณ 12 – 18 สัปดาห์ก่อนนั่นเอง

 

2. การตรวจคลื่นเสียงความถี่แบบดอพเลอร์ (Doppler)

อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้คุณแม่รู้ได้ว่าลูกในท้องของเรานั้นเป็นลูกแฝดหรือเปล่า เราก็อาจจะใช้การฟังเสียงความถี่แบบดอพเลอร์เป็นตัวช่วยได้เช่นกัน โดยการฟังเสียงลักษณะนี้จะเป็นการฟังเสียงเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจของเด็กในท้อง ซึ่งถ้าการเต้นของหัวใจมีการเต้นที่แตกต่างกัน หรือมีการเต้นแยกกัน นั้นก็อาจจะกำลังบ่งบอกเราว่าลูกในท้องของเราเป็นลูกแฝดได้เช่นกัน

 

3. ลูกในท้องเคลื่อนไหวเร็วกว่าปกติ

สัญญาณที่จะบอกว่าเราได้ลูกแฝดอีกหนึ่งอย่างก็น่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของลูกที่เร็วกว่าปกติ เพราะโดยปกติแล้วถ้าเราท้องแบบธรรมดา คุณแม่จะยังไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของลูกจนกว่าจะมีอายุครรภ์ประมาณ 14 – หรือ 16 สัปดาห์ และถ้าคุณแม่คนไหนที่รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของลูกตั้งแต่อายุครรภ์ยังไม่ครบ 14 สัปดาห์ สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นสัญญาณบอกเราว่ากำลังท้องลูกแฝดได้เลย

 

4. คุณแม่ท้องใหญ่กว่าปกติ

การที่เราจะรู้ได้ว่าตัวเองกำลังท้องแฝดไหม เราก็อาจจะสังเกตได้อย่างน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าปกติ และท้องของเรามีขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยอาจจะสังเกตได้ง่ายมากขึ้น เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ประมาณ 3 เดือน อีกทั้งเรื่องของการกินอาหารก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ เช่นกัน บางคนอาจจะกินบ่อย และกินในปริมาณที่มากกว่าปกติเลยส่งผลทำให้มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นเร็ว

 

5. แพ้ท้องมากกว่าปกติ

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าตัวเองท้องลูกแฝดไหม อาการแพ้ท้องก็เรียกได้ว่าจะทำให้เราทราบได้เช่นกัน ใครที่มักมีอาการแพ้ท้องแบบรุนแรง ปัสสาวะบ่อย รู้สึกอ่อนเพลีย ประกอบกับบริเวณหน้าอกที่ขยายใหญ่ผิดปกติ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ก็อาจจะทำให้เราคาดเดาได้ว่ากำลังท้องลูกแฝดได้เหมือนกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 ผลไม้ที่ลดอาการแพ้ท้อง แพ้ท้องต้องกินยังไง รับมือไว้ให้หายชัวร์

 

 

เรื่องแปลกของครรภ์แฝด

  • ความแตกต่างของแฝดแท้

แม้ว่าฝาแฝดจะมี DNA ที่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการเลี้ยงดู การกิน อาจทำให้ลักษณะของแฝดไม่เหมือนกัน รวมถึงหน้าตาตอนโตที่ไม่เหมือนกันบ้างเล็กน้อย

 

  • ในครรภ์เดียวมีทั้งแฝดแท้และเทียม

การย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไป 2 ตัว แต่สุดท้ายกลับได้ทารกมากกว่า 2 คน เป็นการเกิดจากตัวอ่อนตัวใดตัวหนึ่งแบ่งตัวมากขึ้น ทำให้เกิดแฝดแท้และแฝดเทียมในเวลาเดียวกัน หรือบางกรณีเกิดจากการที่มีตัวอ่อนตัวเดียวที่ฝังตัวได้จากตัวอ่อนทั้งหมด 2 ตัว

 

บทความเคล็ดลับทำลูกแฝดแบบธรรมชาติ พร้อมท่าเซ็กส์ทำลูกแฝด เป็นเพียงการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์แฝดเท่านั้น เพราะการอุ้มท้องลูกแฝดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง แต่ถ้าคุณมีลูกยาก หากใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์จะช่วยให้มีลูกได้ ทั้งยังเพิ่มโอกาสการมีลูกแฝดได้มากกว่าการตั้งครรภ์แฝดแบบธรรมชาติอีกด้วย

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

เลี้ยงลูกแฝด ยังไงดี ความซนคูณสอง ต้องมีวิธีรับมืออย่างไร

10 ข้อดีของการมีลูกแฝด ลูกแฝดเจ๋งยังไง มาดูเหตุผลกันเถอะ

เลี้ยง ลูกแฝด ยังไง? ไม่ให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง สิ่งที่พ่อแม่ต้องรู้

คำถามจากประสบการณ์ตรงของคุณแม่ :

วิธีทําให้ได้ลูกแฝด อยากมีลูกแฝดต้องทำอย่างไรคะ

ที่มา : medthai, momjunction, huggies

บทความโดย

Tulya