เลี้ยงลูกอ่อนเหนื่อยมาก มากกกก! นี่แหละเรื่องเลอะของทารก ที่พ่อแม่มือใหม่ต้องเจอ!!
เจ้าตัวน้อยชอบทำเรื่องสกปรกๆ โดยไม่แคร์ว่า พ่อแม่จะทำความสะอาดเยอะแค่ไหน นี่แหละที่เขาว่า เลี้ยงลูกอ่อนเหนื่อยมาก ที่พ่อแม่มือใหม่ยังไง้ ยังไงต้องเจอ!!
เลี้ยงลูกอ่อนเหนื่อยมาก ที่พ่อแม่มือใหม่ยังไง้ ยังไงต้องเจอ!! เรามาดูกันเลยค่ะ
#เลอะอ้วกหรือน้ำลาย
เจ้าตัวเล็กจะเริ่มเล่นน้ำลายตั้งแต่ 1- 4 เดือน เด็กบางคนจะสนุกกับน้ำลายของตัวเองด้วยการเป่า พ่น หรืออม ที่ทำให้ของหรือแม้แต่หัวไหล่ของคุณแม่ที่อุ้มลูกนั้นชุ่มโชกไปด้วยน้ำลาย หรือบางครั้งการเล่นน้ำลายก็อาจถูกแทนด้วยการอาเจียนที่จะทำให้แม่เลอะโดยไม่รู้ตัว
ภาวะแหวะนมในทารก (infantile regurgitation) เป็นปัญหาทางเดินอาหารที่พบบ่อยในทารกโดยเฉพาะช่วงอายุ 2 ถึง 4 เดือน ภาวะนี้ถือเป็นอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหารในทารก ที่ไม่เกิดจากสาเหตุทางกายชนิดหนึ่ง โดยมีอาการคือทารกจะมีนมไหลย้อนจากกระเพาะอาหารเข้าสู่หลอดอาหารและไหลขึ้นมาออกมาทางปาก อาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วยได้บ้าง โดยที่ทารกจะไม่มีท่าทางพยายามที่จะขย้อนและไม่มีอาการอาเจียนเป็นเลือด หยุดหายใจ กลืนลำบาก หรือมีอาการที่ผิดปกติอื่นๆ
#เลอะอึ๊
ผ้าอ้อมอาจจะไม่ได้เก็บซึมซับอึ๊ได้ในปริมาณมาก ๆ และแน่นอนว่าเจ้าตัวน้อยคงไม่ปล่อยให้อึ๊ที่เต็มก้นมาทำให้เขาไม่สบายตัวแน่ ๆ
ปัญหารบกวนจิตใจและเสียเวลามากๆของแม่ลูกอ่อนก็คือการซักผ้าเปื้อนอุจจาระของลูกน้อย ซักกี่รอบต่อกี่รอบก็ไม่สะอาด ทิ้งคราบเหลืองจนไม่กล้านำกลับมาใช้อีก เพราะกลัวลูกรักจะเกิดผดผื่นจากการซักไม่สะอาด
เคล็ดลับซักเสื้อผ้าลูกเปื้อนอึให้ขาวสะอาด
1.ฉีดด้วยน้ำแรงดันสูง
หลังพบว่าลูกอึกเปื้อนเสื้อผ้า หรือผ้าอ้อม ที่นอน ให้รีบนำไปล้าง ด้วยการใช้หัวฉีดชำระน้ำแรงพุ่งปรี๊ดๆเลยค่ะ การใช้แรงน้ำความดันสูงฉีด จะทำให้อึลูกน้อยที่ติดแน่นหลุดออกอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ หลังจากนั้นค่อยนำไปแช่น้ำยา หรือนำไปปั่น ตามลำดับที่คุณแม่แต่ละบ้านปฎิบัติอยู่
2.ใช้น้ำร้อน
กรณีปล่อยไว้นาน จนอึลูกแห้ง ฝังแน่นไปแล้ว ให้ทำตามข้อ 1 ก่อนลำดับแรก ถ้าเหลือคราบติดอยู่ ให้นำไปแช่ในน้ำร้อน รับรองคราบอึที่ติดแน่นหลุดออกมาอย่างแน่นอนค่ะ หลังจากนั้นค่อยนำไปแช่น้ำยา หรือนำไปปั่น ตามลำดับที่คุณแม่แต่ละบ้านปฎิบัติอยู่
#เลอะคราบอาหาร
เมื่อปล่อยให้เจ้าตัวเล็กเริ่มใช้มือสนุก กินเลอะเทอะ ใช้มือละเลงข้าวของตัวเอง บนโต๊ะอย่างสนุกสนาน มีผลวิจัยว่าหนูน้อยจะได้รับพัฒนาการที่ดี แต่ ที่ตามมาก็คือคราบอาหารที่เลอะเทอะเปรอะมือ เปรอะเปื้อนบนหน้าลูก ซึ่งก็อาจจะมาจบที่ตัวคุณแม่ หากเจ้ามือเล็กเผลอเอามือมาแตะหรือเอาหน้ามาซุกไซ้คุณแม่ ทำใจไว้ว่าแม่ก็ต้องเจอเรื่องเลอะๆ แบบนี้แหละ
ซึ่งล้วนแต่ทำความสะอาดยากทั้งนั้น สำหรับวิธีขจัดคราบอาหารบนเสื้อผ้าของเจ้าตัวน้อย แนะนำให้คุณแม่รีบนำเสื้อที่เปื้อนคราบไปแช่ในน้ำเย็นทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเป็นรอย จากนั้นนำไปแช่กับผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับเด็กอ่อน ประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วล้างด้วยน้ำอุ่น ก่อนที่จะนำไปซักอีกครั้ง (น้ำยาซักผ้าชนิดเหลวจะให้ผลดีกว่าชนิดผง) ส่วนวิธีขจัดคราบสกปรกที่ไม่ใช่อาหาร จำพวกโลชั่น และน้ำมัน แนะนำให้ใช้ผงซักฟอกจะได้ผลดีกว่า โดยขั้นแรกให้เอาผงซักซอกไปละลายน้ำเล็กน้อย จากนั้นเอาไปป้ายไว้ที่คราบบนเสื้อ แล้วแช่ทิ้งไว้ 30 นาที
#เลอะเลือด
เด็ก ๆ นั้นทำตัวเองให้บาดเจ็บได้ตลอดเวลา ยิ่งในช่วงวัยหัดเดินยิ่งซุกซน ตั้งแต่ล้มหัวเข่าถลอก, โดนแมลงสัตว์กัดต่อย, กัดปากตัวเอง, มีแผลเลือดออก ดังนั้นหยูกยาที่จำเป็นสำหรับเด็กยาลืมที่จะมีติดบ้านไว้นะ
#เลอะน้ำมูก
อาการภูมิแพ้, เป็นหวัดหรือการร้องไห้หนักมาก ๆ สามารถทำให้น้ำมูกไหลได้ และการที่น้ำมูกไหลออกมาก็จะทำให้มีคราบน้ำมูกติดอยู่ที่จมูกหรือบริเวณใบหน้าที่ลูกป้าย เมื่อถึงเวลาที่ลูกน้ำมูกไหลก็ได้เวลาที่แม่จะดูแลอาการลูกแล้วล่ะ
น้ำมูก เป็นสารคัดหลั่งที่อยู่ในโพรงจมูก ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นภายในรูจมูก มีลักษณะใสๆ ถ้ามีการระคายเคืองภายในรูจมูกมาก จะมีการผลิตน้ำมูกออกมามาก และถ้าร่างกายได้รับเชื้อโรค เม็ดเลือดขาวจะออกมาแสดงตัวต่อสู้กับเชื้อโรค เม็ดเลือดขาวบางส่วนตาย สีของน้ำมูกก็เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เหลืองปนเขียว เขียวข้น จากจุดนี้เอง พ่อแม่หลายท่านใช้สังเกตอาการหวัดของลูก แต่การที่มีน้ำมูกไหล หรือสีของน้ำมูกเปลี่ยนไป ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ 100% เพราะการตรวจสุขภาพคุณหมอก็ต้องทำการฟังปอด ตรวจโพรงจมูก ตรวจคอ ตรวจหู ด้วยอยู่แล้ว
#เลอะมือเลอะเท้า
มันจะเป็นเรื่องสนุกของเจ้าตัวเล็กมาก ที่ได้มีมือเท้าเลอะ ๆ จากการเล่นดินเล่นทราย แต่นั้น ก็เป็นการเล่นที่ดีต่อพัฒนาการลูกน้อยหลายด้านทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และ อารมณ์ พื้นที่ธรรมชาติเป็นสนามเรียนรู้ของลูกที่ไม่มีขอบเขต เมื่อคุณแม่ต้องเจอกับการเปื้อนเป็นริ้วจากทั้งโคลน และ เศษดินบนตัว และเสื้อผ้าลูก ปล่อยให้ลูกได้เป็นอิสระแล้วค่อยมาทำความสะอาดหลังเสร็จกิจกรรมเพื่อพัฒนาการดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตัวลูกกันนะคะ
นักวิจัยของมหาวิทยาลัยไอโอวา ได้ลองศึกษาจากเด็กที่มีอายุ 16 เดือนว่า หนูน้อยเหล่านี้มีทักษะ พัฒนาทางด้านภาษาเกิดขึ้น เด็ก ๆ จะรู้จักชุดคำศัพท์จากวัตถุที่ไม่เป็นของแข็ง เช่น ข้าวโอ๊ต ซอส ฯลฯ ได้หรือไม่ โดยให้เด็ก ๆ ได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสูงสำหรับกินข้าวหรือในที่ที่เขาคุ้นเคย แล้วนำอาหาร เครื่องดื่ม หรืออะไรก็ตาม ที่ไม่ใช่ที่วัตถุที่เป็นของแข็งวางไว้ ซึ่งหนูน้อยเหล่านั้นสามารถเรียนรู้ชื่อของวัตถุได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น ซอสแอปเปิ้ล พุดดิ้ง ไปจนถึงน้ำผลไม้ ที่อยู่ตรงหน้า เด็ก ๆ จะสนุกสนานกับการใช้มือจุ่ม หยิบกิน ขว้างปา การหยิบขึ้นมาบดบี้ขยี้ และ ทามันลงบนโต๊ะแทบทุกส่วน
ที่มา : www.whatsupfagans.com
บทความใกล้เคียงที่น่าสนใจ :
เมนูอาหารสําหรับแม่ลูกอ่อน 10 อย่างที่ผู้หญิงหลังคลอดควรได้กิน
ควรพาลูกอ่อนออกนอกบ้านได้ตอนกี่เดือน?
ทารกชอบตีชอบกัด ทำไมทารกถึงชอบตีชอบกัด อะไรอยู่เบื้องหลังความรุนแรง