เที่ยวภูกระดึง ยุค New Normal เตรียมตัวให้พร้อม พาร่างกายไปสูดโอโซนกัน

เตรียมพร้อมกันหรือยัง สำหรับการ เที่ยวภูกระดึง ยุค New Normal เพราะ 1 ตุลาคม 2564 นี้ภูกระดึงเปิดแล้วจ้า สำหรับใครที่รอคอยจะไปชมน้ำตกสวย ๆ บนภูกระดึงห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะช่วงเปิดภูใหม่ ๆ น้ำจะเยอะ และสวยงามมาก ส่วนการเปิดภูกระดึงในครั้งนี้ต้องทำการเที่ยวแบบ New Normal Universal Prevention For Covid-19 ซึ่งต้องทำการจองในแอป Queq ล่วงหน้าก่อนเข้าอุทยาน และมีมาตรการต่าง ๆ ดังนี้

10 สิ่งที่ต้องเจอ และห้ามพลาดเมื่อมาภูกระดึง

1. การเดินทางเพื่อวัดใจ

หลายคนต้องวางแผนเพื่อจะมาท่องเที่ยวที่ภูกระดึง เพราะชื่อเสียงของความโหดความหิน ที่ปกติพวกเราคนเมืองไม่ค่อยได้พบเจอกัน ทำให้ต้องมีการวางแผน ทั้งการเตรียมการออกกำลังกายล่วงหน้า เพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายสมดังตั้งใจไว้ แต่ก็มีหลายคน ที่เดินขึ้นภูไปได้ระยะหนึ่งแล้วต้องถอดใจ เพราะช่วงของการเดินทางในระยะแรก ออกจะยากลำบาก และมีความชันอยู่พอสมควร หากคุณอดทน ผ่านจุดที่เรียกว่า “ซำแฮก” ได้แล้วล่ะก็ ไปต่อได้สบายเลยเชื่อเถอะ

แม้เขาจะบอกว่าซำต่าง ๆ หรือจะเอาให้เข้าใจง่าย คือจุดพักแต่ละจุด มีทั้งหมดด้วยกัน 10 จุด ก็เถอะ แต่ความยากง่าย ก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เตรียมรองเท้าให้ดี พกแต่ของที่จำเป็นติดตัว ที่เหลือ ฝากพี่คนหามหามขึ้นให้จะสะดวกที่สุด

ทุกจุดพัก หรือทุกซำ ปัจจุบันมีร้านค้าจำนวนมากพอสมควร ที่คอยให้บริการเพื่อคลายความเหนื่อยล้า ของเด็ดที่นี่สำหรับแอดแล้ว ต้องขอแนะนำแตงโมเย็น ๆ ฉ่ำ ๆ เวลาเดินมาเหนื่อย ๆ เจอแตงโมภูกระดึงเข้าไป ความรู้สึกจะเหมือนเป็นแตงโมที่อร่อยที่สุดในโลก เชื่อเถอะ แล้วราคาก็ไม่ได้แรงอย่างที่คิด เรียกได้ว่า บางครั้งเจอร้านขายผลไม้ตามแหล่งท่องเที่ยวในเมืองกรุง อาจจะแพงกว่าด้วยซ้ำไป

2. กำลังใจจากผู้ร่วมทาง

เป็นอีกหนึ่งความน่ารัก และความประทับใจของผู้ที่ได้เดินทางไปภูกระดึง เพราะตลอดการเดินทาง หากได้เจอผู้คนสวนทางมา มักจะมีการเอ่ยคำ ให้กำลังใจ ให้สู้ อดทนเดินขึ้นไปอีกนิดด้วยคำว่า “สู้ ๆ นะ” หรือ “ใกล้จะถึงแล้ว…อีกนิดเดียว” จนหลายคนต้องเอ่ยปากออกมาว่า คำว่า “อีกนิดเดียว” ไม่มีอยู่จริง จนกลายเป็นทั้งคำให้กำลังใจ และโมเมนต์ฮา ๆ ให้ได้หัวเราะ อาจจะมีปนบ่นบ้าง แต่เชื่อเถอะ เมื่อคุณเดินลงมาจากภู คุณก็จะพูดคำนี้เพื่อให้กำลังใจคนอื่นเช่นกัน

3. ถ่ายรูปคู่กับป้ายผู้พิชิตภูกระดึง

เมื่อขึ้นไปถึง ทุกคนต้องไม่พลาดที่จะต้องไปแชะกับป้ายผู้พิชิต ก่อนเป็นแน่ แต่บางคนก็บอกว่า สภาพขนาดนี้ ขอแชะตอนกลับแล้วกัน อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน

ถ้าเทียบกับสมัยก่อน ที่ยังไม่มีการทำทางเดินเพื่ออำนวยความสะดวก ต้องยอมรับว่า การขึ้นภูกระดึงนั้น เป็นการวัดใจ วัดกำลังร่างกายกันมากพอดู กว่าจะไปถึงยอดภูได้ แทบจะลมจับกันเป็นแถว ๆ จนคำว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง” คือคำที่ติดตราตรึงใจผู้ที่ไปเยี่ยมเยียนที่ภูแห่งนี้ แม้ว่าปัจจุบัน ทางเดินจะสะดวกขึ้น และสิ่งอำนวยความสะดวกจะมีมากยิ่งขึ้น แต่ความโหดของการเดินทาง ก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย

ดังนั้น ใครอยากทดสอบความแข็งแกร่ง ทั้งพลังกาย พลังใจ เตรียมแพ็คกระเป๋า แล้วไปตะลุยกันเลยจ้า แล้วรับรองได้ว่า ทั้งบรรยากาศ วิวทิวทัศน์ ที่คุณจะได้รับกลับมา มันคุ้มค่ากับสิ่งที่คุณได้ทุ่มเทไปอย่างแน่นอน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : กางเต็นท์ครั้งแรก ต้องทำยังไง? ควรเตรียมอะไรไปบ้าง มาดูกันเลย

4. โดดเดี่ยว แต่ไม่เดียวดาย

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของภูกระดึง ที่ทุกคนห้ามพลาดแชะรูปถ่ายมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก คือต้นสน ที่ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางทางเดินสัญจร ระหว่างทางขึ้นภู สู่จุดกางเต้นท์ หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง

เมื่อคุณขึ้นถึงบนภูแล้ว มันยังไม่จบแค่นั้นจ้า..า คุณยังต้องเดินต่อไปยังจุดกางเต้นท์ ซึ่งระหว่างทาง คุณจะได้พบกับต้นสนต้นหนึ่ง ที่ยืนต้นสูงอยู่กลางทางเดิน แม้จะดูโดดเดี่ยว แต่นักท่องเที่ยวทุกคนมักจะแวะถ่ายรูปกลับไปเป็นที่ระลึก เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คที่หลาย ๆ คนห้ามพลาดกันนะคะ

5. กางเต๊นท์นอนที่วังกวาง

เมื่อเราเดินทางมาจนถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านบนแล้ว ก็ทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ เพื่อขอกุญแจบ้าน หรือจุดกางเต้นท์ ซึ่งปัจจุบัน ทางอุทยานท่องเที่ยวภูกระดึงนั้น มีให้บริการจองห้องพักแบบลักษณะอาคารไม้ และเต้นท์ให้บริการ โดยสามารถจองผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้า หรือจะติดต่อกับทางศูนย์บริการด้านล่างภูกระดึง ก่อนเดินทางขึ้น

หากใช้บริการลูกหาบ อาจจะต้องรอกระเป๋าของคุณบ้าง หากเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก กระเป๋าจะถูกนำมาจัดวางไว้บริเวณด้านหน้าศูนย์บริการ ดังนั้นหากคุณต้องการอาบน้ำก่อน หรือเปลี่ยนเสื้อผ้า อาจจะต้องเตรียมแยกเซ็ตเอาไว้ แล้วพกขึ้นมาเอง

ณ บริเวณนี้ เดิมที่มักจะพบเห็นกวางเจ้าถิ่นมาเดินสำรวจพื้นที่ ตรวจความเรียบร้อยบริเวณจุดกางเต้นท์ แต่ช่วงหลังดูเหมือนว่า กวางเจ้าถิ่นจะชอบไปเดินสำรวจตามร้านค้าซะมากกว่า หากอยากใกล้ชิด ก็คงต้องส่องหากันหน่อยนะ

6. ขี่จักรยานวิบาก บนภูฯ

อีกหนึ่งกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นมาช่วงหลังมานี้ คือการเช่าจักรยานวิบากขี่รอบภูกระดึง ถามว่าวิบากแค่ไหน ต้องบอกว่าสะเทือนพอดู แต่หากถามว่าสะดวกมั้ย? สำหรับแอดตอบเลยว่าไม่ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด

ทำไมถึงไม่สะดวก เพราะปกติการเดินที่ภูกระดึงนั้น เราสามารถเดินเข้าทางหนึ่ง แล้วทะลุออกอีกฝั่งได้เป็นปกติ แต่หากเรามีจักรยานไปด้วยแล้ว เราคงต้องจอดเดิน แล้วพอทะลุอีกฝั่ง สุดท้ายเราต้องย้อนกลับมาเอาจักรยานอีกรอบ มันก็ดูจะเสียเวลาพอควรเลยทีเดียว แต่ถ้าคิดจะปั่นชมวิวทิวทัศน์ หรือทดสอบรูปแบบใหม่ของการท่องเที่ยว การเช่าจักรยานวิบากปั่นเล่น ก็ไม่เลวเลยนะ

7. สระอโนดาต สระที่ไม่เคยเหือดแห้ง

สระอโนดาต เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์ค ที่เราจะพลาดไม่ได้ โดยสระนี้จะอยู่ห่างจากวังกวางไปเพียง 3 กม. สระจะมีลักษณะคล้ายบึง บริเวณนี้ ต่อให้มีอากาศร้อน ก็มักจะมีลมเย็นพัดผ่าน ให้เรารู้สึกหายเหนื่อย คลายร้อนได้เยอะ และที่น่าประหลาดใจที่สุด คือ บึงแห่งนี้ไม่เคยเหือดแห้ง แม้จะอยู่ในช่วงแล้ง ปริมาณน้ำอาจจะลดลงบ้าง แต่ก็ยังคงมีน้ำไหลผ่านตามร่องหินอยู่ตลอด นับว่าเป็นแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์สำหรับสัตว์ป่า ที่อาศัยอยู่บนภูแห่งนี้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 9 จุดกางเต็นท์ หมดโควิดแคมป์ปิ้งไหนดี สถานที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ

8. 4 ผาแห่งความงาม ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว

ที่ภูกระดึงแห่งนี้ มีผาเยอะแยะมากมาย ที่เป็นจุดไฮไลท์ในการท่องเที่ยว และเป็นสิ่งที่ดึงดูดใครหลาย ๆ คน ให้มาเยี่ยมเยือนอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น

• ผาเหยียบเมฆ : ที่ให้ความรู้สึก เหมือนได้ยืนอยู่บนก้อนเมฆ ขณะที่ยืนอยู่ตรงผา
• ผาหล่มสัก : จุดชมพระอาทิตย์อัศดง ที่ทุกคนจำเป็นจะต้องไปแวะชม และเก็บภาพเป็นที่ระลึก
• ผานกแอ่น : จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ท่ามกลางอากาศอันหนาวเย็น โรแมนติกสุด ๆ
• ผาหมากดูก : จุดชมพระอาทิตย์ตกอีกจุดหนึ่ง ที่ใกล้กับจุดที่พัก หรือจุดกางเต้นท์ ส่วนมาก นักท่องเที่ยวที่เพิ่งมาถึง และยังหมดแรงกับการเดินทาง จะมาเริ่มต้นการชมวิวพระอาทิตย์ตกที่นี่ เพื่อเป็นการวอร์มร่างกายก่อนในคืนแรก

9. 5 น้ำตก อัศจรรย์บนภูกระดึง

ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน แล้วทางอุทยานกำลังจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมอีกครั้ง เป็นช่วงนี้เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทั้งหมอกที่เราจะได้พบเจอในยามเช้า และน้ำตกที่มีความสวยงามในฤดูนี้

• น้ำตกวังกวาง : น้ำตกแห่งนี้ อยู่ใกล้ที่พักศูนย์วังกวาง เพียงแค่ 1 กม. มีความสูงเพียงแค่ 7 เมตรเท่านั้น แต่ความสวยงามเกินจะหาคำมาบรรยายกันเลย
• น้ำตกเพ็ญพบใหม่ : เป็นน้ำตกที่ค่อนข้างใหญ่ มีระดับหินหลายระดับ ทำให้ความอลังการของน้ำตกนี้ เป็นที่ติดตราตรึงใจนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะหากใครได้มาเที่ยวช่วงฤดูหนาว จะได้พบกับใบเมเปิ้ลสีแดง ที่จะลอยอยู่บนผิวน้ำ สร้างความแปลกตา และสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
• น้ำตกถ้ำใหญ่ : น้ำตกแห่งนี้ จะหากจากน้ำตกเพ็ญพบใหม่ เพียงแค่ 1.4 กม. ณ จุดนี้ จะเป็นบริเวณป่าดงดิบ ซึ่งจะมีความชื้นสูง เสมือนได้หลุดออกไปอีกโลกหนึ่ง
• น้ำตกถ้ำสอเหนือ : เป็นน้ำตกที่มีขนาดกลาง มีความสูงของน้ำตก 10 เมตร ได้รับการกล่าวขาญว่าเป็นม่านน้ำธรรมชาติที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่ง
• น้ำตกธารสวรรค์ : จะได้ยลความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ได้เฉพาะช่วงหน้าฝน เนื่องจากช่วงหน้าแล้งนั้น น้ำบริเวณนั้น จะเหือดแห้งทั้งหมด จนไม่เห็นคราบของน้ำตกให้ได้พบเจอกันเลย

10. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ภูกระดึง

ถ้าให้พูดถึงเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหน แห่งหน ตำบลใด คนไทยเราก็มักจะต้องหาที่พึ่งทางใจ เอาไว้ปกป้องคุ้มครอง ให้เกิดความอุ่นใจ ดังจะพบเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่หลาย ๆ คนที่ไปภูกระดึง จะไปกราบไหว้ อธิษฐานกันนั้น คือ“พระพุทธเมตตา” ที่ประดิษฐานไม่ไกลจากจุดที่พัก

นอกจากตัวองค์พระแล้ว เราจะสังเกตุเห็นกระดิ่งน้อยใหญ่ล้อมรอบองค์พระไว้ เชื่อกันว่านอกจากจะกราบไหว้ พระพุทธเมตตา เพื่อขอการคุ้มครองปกป้องการภยันอันตรายทั้งปวงแล้ว การแขวนกระดิ่งจะทำให้เกิดบารมี ชื่อเสียงดังกระจาย เรียกได้ว่า เสียงกระดิ่ง เสียงระฆัง ก้องกังวาลดังไกลถึงยอดภู นั่นเอง

ที่มา : เพจ:เที่ยวจนแม่ด่า

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

7 จุดกางเต็นท์ริมทะเล บรรยากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ

150 แคปชั่นเที่ยวธรรมชาติ เที่ยวป่าทั้งที ต้องมีแคปชั่นโดน ๆ

50 สถานที่ท่องเที่ยวไทย ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต ทะเล หรือ ภูเขา เราก็มี