การพาเจ้าตัวเล็กเข้านอนอาจเป็นงานยากลำบาก ขอให้พึงตระหนักว่าเด็กวัยเตาะแตะร้อยละ 99 หลีกเลี่ยงการเข้านอนด้วยการอาละวาด พ่อแม่ที่โดนลูกเล่นงานด้วยวิธีนี้ต่างพยายามใช้ลูกล่อลูกชนสารพัด ไม่ว่าจะร้องเพลง เล่านิทาน ให้ดื่มนมและกระทั่งทำโทษลูกเพื่อจะให้ลูกเข้านอนให้จงได้ แต่บางครั้งพ่อแม่ก็ต้องยอมแพ้ไปด้วยความหงุดหงิดใจ อย่างไรก็ตาม หากมีความมุ่งมั่นบวกกับกลวิธีแยบยลอีกสักหน่อย คุณก็จะสามารถตัดไฟอาละวาดนี้ได้แต่ต้นลมค่ะ
เคล็ดลับพาเจ้าตัวน้อยเข้านอนมีดังต่อไปนี้
1. ให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก ๆ ในช่วงกลางวันเพื่อที่ลูกจะได้รู้สึกง่วงในตอนกลางคืน ลองพาลูกไปสวนสาธารณะหรือที่ที่น่าสนใจสัปดาห์ละครั้ง เช่น สวนสัตว์
2. ถ้าลูกงีบช่วงกลางวัน ก็อย่าให้งีบนานมา ลูกจะอยากเข้านอนแต่หัวค่ำถ้าไม่ได้พักผ่อนมากนักในช่วงกลางวัน
3. อย่าให้ลูกดื่มน้ำอัดลมหรือทานขนมและของหวานที่มีน้ำตาลในตอนเย็นโดยเฉพาะหลังอาหารเย็น เพราะน้ำตาลจะยิ่งทำให้ลูกคึก ควรให้ลูกได้ดื่มนมอุ่น ๆ สักแก้วซึ่งช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
4. คุณอาจเคยลองอ่านนิทานให้ลูกฟังแล้วแต่ไม่ได้ผล คราวนี้ลองปล่อยให้ลูกได้สำรวจหนังสือด้วยตัวเองดูบ้าง วิธีนี้จะช่วยให้ลูกผ่อนคลาย แล้วความง่วงจะตามมาเองค่ะ
5. อย่ายอมทำตามที่ลูกเรียกร้อง ไม่ว่าจะเป็นการโอดครวญหรือเว้าวอนแค่ไหนก็ตาม จำไว้ว่าคุณต้องมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว อย่าปล่อยให้ลูกนั่งกระโถน / เข้าห้องน้ำ หรือดื่มน้ำมากกว่าหนึ่งครั้งหลังได้เวลาเข้านอน อย่าตกหลุมเบี่ยงเบนความสนใจที่ลูกวางไว้ ขณะเดียวกันก็อย่าเพิกเฉยลูกโดยสิ้นเชิงเพราะนั่นรังแต่จะทำให้ลูกคึกขึ้นไปอีก ขอให้คุณเพียงบอกลูกอย่างหนักแน่นว่าลูกได้นั่งกระโถน/ดื่มน้ำไปแล้วและได้เวลากลับไปนอนตามเดิมแล้ว
6. ของเล่นหรือผ้าห่มพิเศษซึ่งเก็บไว้ใช้เฉพาะเวลานอนจะทำให้ลูกเฝ้ารอการได้กอดในตอนกลางคืน คุณจะพบว่าลูกมีพฤติกรรมในทางบวกมากกว่าเดิมยามจะเข้านอนหากใช้วิธีนี้
7. เป็นความคิดที่ดีที่จะสนับสนุนให้ลูกเข้านอนด้วยตัวเอง ยิ่งลูกอายุน้อยเท่าไรก็ยิ่งง่ายต่อลูกมากขึ้นเท่านั้น สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือขอให้ทำเป็นกิจวัตรให้ลูกเข้าใจชัดเจน ว่าหมดเวลาเล่นและลูกต้องพักผ่อนนอนหลับแล้ว
8. ห้องที่ลูกนอนควรจะมืดแต่ไม่มืดสนิทจนอาจทำให้ลูกหวาดกลัวได้ คุณควรเปิดไฟสลัวทิ้งไว้เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของลูก
9. อีกหนึ่งวิธีที่ดีคือกำหนดกิจวัตรการเข้านอนเพื่อสร้างบรรยากาศและให้ลูกรู้ว่ากำลังจะได้เวลาเข้านอนแล้ว ลูกควรเข้าใจว่าการได้อาบน้ำอุ่น ได้กอดคุณพ่อคุณแม่และนอนฟังนิทานนั้นหมายความว่าใกล้ได้เวลาต้องหลับแล้ว ไม่ช้าลูกอาจจะเป็นฝ่ายบอกคุณว่าคุณเองก็ต้องเข้านอนแล้วเหมือนกัน
ท้ายสุดแต่ความสำคัญไม่สุดท้ายคืออย่าอ่อนข้อและอย่ายอมแพ้ค่ะ ลองใช้วิธีการที่เรานำมาฝากแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง อย่าลืมเล่าสู่กันฟังนะคะ
บทความแนะนำ: ฝึกให้ลูกน้อยนอนเป็นเวลา