เข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้ ถึงแม้ว่าในปีนี้เราจะเผชิญหน้ากับโรคระบาด นักเดินทางหลาย ๆ ท่านคงอยากจะกลับเข้าสู่โหมดปกติเสียที วันนี้เราได้รวบรวม สถานที่ท่องเที่ยวไทย ติดอันดับโลก ซึ่งแต่ละที่ก็สวยไม่ธรรมดาจริง ๆ สมกับเป็น สถานที่ท่องเที่ยวไทย ติดอันดับโลก ไปดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง
1. วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา
วัดไชยวัฒนาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาองค์ที่ 24 โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2173 ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา
ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง ได้ชื่อว่าเป็นโบราณสถานที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่ง ความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ วัดนี้เป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลายกับเจ้าฟ้าสังวาลย์ซึ่งต้องพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สิ่งที่น่าชมภายในวัดได้แก่ พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานของวัดตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสและที่มุมฐานมีปรางค์ทิศประจำอยู่ทั้งสี่มุม การที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองซึ่งเป็นกษัตริย์สมัยอยุธยาตอนปลายทรงสร้างปรางค์ขนาดใหญ่เป็นประธานของวัด เท่ากับเป็นการรื้อฟื้นศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้นที่นิยมสร้างปรางค์เป็นประธานของวัด
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : พาทัวร์กรุงเก่า อยุธยา ไหว้พระ 9 วัด กับวัดที่ 8 วัดพุทไธศวรรย์
2. ตลาดน้ำกวางโจว จ.เพชรบุรี
ตลาดน้ำกลางน้ำตกที่กลายเป็นที่ฮือฮาสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ทุกวันนี้ตลาดน้ำกลางโจวกลายเป็นสถานที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มีมุมให้นั่งหลบร้อนฟังเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ แบบชิลๆ มีของขายมากมายทั้งอาหารการกินและของใช้ ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯด้วย
ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นตลาดน้ำแห่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนน้ำตก และเป็นตลาดที่แอบซ่อนตัวอยู่กลางป่าอีกด้วย ฟังดูลึกลับน่าค้นหาจริง โดยภายในตลาดจะมีสินค้าและอาหารมาขายมากมายจากชาวบ้านในพื้นที่ ที่ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ที่แต่ก่อนเป็นป่ารกร้างให้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่เป็นแลนด์มาร์คยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ ใครมีโอกาสได้มาเพชรบุรีลองแวะมาสัมผัสที่นี่ดูคุณจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวบ้าน รวมถึงได้พักผ่อนในมุมที่สงบ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น เคียงข้างกับสายน้ำของน้ำตก ทำให้คุณสุขใจได้เพียงแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมง
3. เกาะขาม จ.ชลบุรี
อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม เป็นเกาะเล็กๆ ในอำเภอสัตหีบ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกองทัพเรือภาคที่ 1 แบ่งเป็นสองฝั่ง คือฝั่งทิศเหนือ และฝั่งทิศใต้ โดยฝั่งทิศเหนือจะมีหาดทรายสีขาวนวล เหมาะกับลงเล่นน้ำ หรือเล่นกีฬาชายหาด ส่วนหาดฝั่งทิศใต้ เป็นหาดหินกรวดทรายหยาบ
เกาะขาม ตั้งอยู่ห่างออกไปจากฝั่งประมาณ 9 กม. โดยการเดินทางไปเที่ยวเกาะขาม สามารถเที่ยวได้แบบไปเช้าเย็นกลับ ไม่สามารถค้างคืนได้เนื่องจากเป็นเกาะที่อนุรักษ์ไว้โดยกองทัพเรือ การเดินทาง เริ่มจากเดินทางไปที่ท่าเรือเขาหมาจอ แล้วซื้อตั๋วยังจุดจำหน่ายตั๋ว ที่ทางกองทัพเรือได้จัดไว้ หากไม่ทราบสอบถามป้อมยามบริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ซึ่งเป็นทางเข้าไปขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือข้ามไปยังเกาะขาม หากมาเที่ยวในวันธรรมดานักท่องเที่ยวน้อยสามารถ walk in มาซื้อตั๋วตามรอบเรือได้เลยไม่ต้องโทรจองล่วงหน้า โดยมาก่อนเวลาเรือออกสัก 15-30 นาที
ที่นี่มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์กระจายอยู่รอบเกาะ ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ ปะการังสมอง ดอกไม้ทะเล และยังมีฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกหว่ายมาให้สัมผัสแบบใกล้ชิด รวมไปถึง กุ้ง หอย ปู เม่นทะเล และปลิงทะเล เรียกว่าดำเพลินจนตัวดำเลยทีเดียว
4. Hinoki Land จ.เชียงใหม่
ที่เที่ยวใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ หากใครที่กำลังเบื่อๆ กับเชียงใหม่ในมุมเดิมๆ อยู่นั้น Hinoki Land ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่จะสร้างความประหลาดใจให้คุณเป็นอย่างมาก ด้วยการตกแต่งสถานที่ที่เนรมิตพื้นที่ริมเขาในอำเภอไชยปราการให้กลายเป็นประเทศญี่ปุ่นขนาดย่อมๆ เลยทีเดียว มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังมาแรงสุดๆ ในตอนนี้
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :หยุด 3 วัน 2 คืน เที่ยวไหนดี? อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตอบโจทย์
5. พญาเต่างอย จ.สกลนคร
พญาเต่างอย ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะอำเภอเต่างอย ริมลำน้ำพุง จังหวัดสกลนคร พญาเต่างอย ถูกกล่าวขึ้นราว 400 ปี โดยไทยได้ทำสงครามกับลาว คนลาวพ่ายแพ้จึงถูกกวาดต้อนมาอยู่ในประเทศไทย เมื่อเดินทางมาถึงลำน้ำพุง ซึ่งเป็นลำน้ำขนาดใหญ่ของสกลนคร และมีเต่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก คนในสมัยก่อนเห็นว่าบริเวณนี้น่าจะมีพืชพันธุ์ธัญญาหารที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัย จึงได้ตั้งถิ่นฐานขึ้น โดยตั้งชื่อว่า “หมู่บ้านเต่างอย” ตามสถานที่พบเห็นเต่าที่กำลังลอยริมฝั่งแม่น้ำ หมู่บ้านแห่งนี้จึงมีสัญลักษณ์เป็น รูปเต่า และได้ตั้งชื่ออำเภอว่า เต่างอย เต่างอย หมายถึง เต่าที่อยู่บนที่สูงหรืออยู่ริมตลิ่งหรือโขดหิน
หลังจากนั้นชาวบ้านและทางราชการต้องการที่จะสร้างสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอเต่างอยขึ้นมา จึงได้ให้ช่างปั้นจากศูนย์ฝึกศิลปาชีพบ้านกุดนาขามมาสร้างรูปปั้นเต่ายักษ์ไว้บริเวณสวนสาธารณะหลังที่ทำการอำเภอเต่างอย รูปปั้นพญาเต่างอยตั้งอยู่ในสระน้ำ ที่ล้อมรอบด้วยรูปปั้นพญานาค และเต่าบริวารขนาดเล็กหลายตัว
6. เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ จ.ชุมพร
เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ทั้งสองเกาะมีลักษณะเป็นเกาะหินปูนขนาดเล็ก ไม่มีชายหาด บ้านพัก และคนอาศัยอยู่ มีเพียงแต่นกนางแอ่นและนกนางนวลเท่านั้น
ที่นี่มี ปะการังสีเหลืองอ่อน ปะการังสีขาว ปะการังสีทอง ปะการังครก ปะการังถ้วยส้ม รวมถึงฝูงปลาน้อยใหญ่ชุกชุม ทั้งปลากล้วยแถบเหลือง ปลาข้างเหลือง ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาการ์ตูน แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของระบบนิเวศได้เป็นอย่างดี
นอกจากฉลามวาฬที่เป็นไฮไลท์แล้ว ยังมีกำแพงหินใต้ทะเล กัลปังหารูปพัดเป็นจำนวนมาก และห้ามพลาดดำน้ำลอดใต้ถ้ำรูปหัวใจ หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษเก๋ๆ ว่า The heart of the sea
7. บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อค จ.กาญจนบุรี
อยากจะลองใช้ชีวิตท่ามกลางสายหมอกตลอดทั้งวันให้คุณลองไปที่บ้านอีต่อง ดินแดนกลางสายหมอกที่ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอันดับที่ 7 ของปีนี้ ด้วยบรรยากาศกลางหุบเขาแสนโรแมนติก ความสวยงามของธรรมชาติ วิถีชีวิตอันแสนน่ารักของผู้คน ทำให้ที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครองใจนักท่องเที่ยวหลายๆ คนไปโดยไม่ยาก
หมู่บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนไทยพม่า ทางฝั่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีการทำเหมืองแร่มาแต่สมัยโบราณ โดยมีผู้ประกอบการทำเหมืองแร่หลายแห่งในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันนี้เหมืองแร่ได้ปิดตัวลงไป เหลือไว้เพียงสถานที่ท่องเที่ยวภายในหมู่บ้านอีต่องเท่านั้น ซึ่งที่นี่ถือเป็นอันซีนไทยแลนด์ที่ซุกซ่อนอยู่หลังม่านหมอกของจังหวัดกาญจนบุรีเลยทีเดียว
การเดินทางขึ้นสู่หมู่บ้านอีต่องจากตัวเมืองกาญจนบุรีใช้เส้นทาง กาญจนบุรี – ทองผาภูมิ โดยตลอดเส้นทางจะเป็นทางลาดยางอย่างดี แต่เมื่อมาถึงช่วงที่เป็นทางขึ้นเขาสู่หมู่บ้านอีต่อง ประมาณ 30 กิโลเมตร ทางจะค่อนข้างอันตรายมีความแคบและถนนขรุขระเป็นบางช่วง ผู้ขับขี่รถขึ้นไปเองควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อย่างสูง และต้องมีความชำนาญในการขับขี่ แต่ก็ถือว่าไม่ยากจนเกินไปในการขึ้นสู่หมู่บ้านอีต่อง แม้เส้นทางอาจจะดูทุลักทุเลต้องผ่านเส้นทาง 399 โค้ง และใช้เวลานานมากจากตัวเมืองมาถึงบ้านอีต่อง แต่นักท่องเที่ยวทุกคนก็ต่างมีความตั้งใจที่จะเดินทางมาให้ถึงบ้านอีต่องให้ได้
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ต้นหนาวนี้ ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี ลองไปจองที่พักที่ จุดกางเต็นท์ที่กาญจนบุรี สิ
8. สระขุนน้ำมรกต จ.เชียงราย
นี่คือความสวยงามหลังฝนอย่างแท้จริงสำหรับสระขุนน้ำมรกต ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ทำให้เกิดสระมรกตแห่งนี้ขึ้นหลังถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน หลังจากที่ได้ปฏิบัติการช่วยเหลือน้องๆ ทีมหมูป่าได้สำเร็จ ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่ใครมาเที่ยวเชียงรายก็มักจะแวะมาเยี่ยมชมกันแทบทุกคน
สระขุนน้ำมรกต อยู่ในความดูแลของ วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางน
ส่วนบริเวณถ้ำหลวง ยังไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้า แต่สามารถเที่ยวชมบริเวณรอบถ้ำได้ โดยมีการจัดตั้งรูปปั้นจ่าแซม วีรบุรุษแห่งถ้ำหลวง ไว้ที่ศาลาอนุสรณ์สถาน เพื่อเชิดชูความเสียสละของจ่าแซม หรือ จ.อ.สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีล และเข้าไปฟังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการช่วยเหลือ 13 หมูป่า ซึ่งเป็นภารกิจระดับโลกเลยที่เดียว
9. ภูลังกา จ.พะเยา
หากจะพูดถึงสถานที่ชมทะเลหมอกที่มีความสวยงามแปลกตาและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์นั้นแน่นอนว่าปีนี้ ภูลังกา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์มากๆ ด้วยความที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปและถ่ายรูปมาโพสต์กันบนโซเชี่ยลเป็นจำนวนมาก ทำให้ภูลังกากลายเป็นกระแสในวงการการท่องเที่ยวในวงกว้าง กลายเป็น Dream Destination ของใครหลายๆ คน
ภูลังกา ตั้งอยู่ในอำเภอปง จังหวัดพะเยา เป็นเทือกเขาสูงในเขตเทือกเขาสันปันน้ำ มีความสูงของจุดยอดดอยอยู่ที่ 1,720 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นที่เที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติอย่างแท้จริง ในตอนกลางคืน ภูลังกา ถือว่าเป็นสถานที่นอนดูดาว ที่สวยอีกหนึ่งแห่งในประเทศไทย เพราะ สามารถมองเห็นดาวได้อย่างใกล้ชิดและชัดเจน ซึ่งคืนนี้ฟ้าค่อนข้างโปร่งทำให้ดาวเยอะเป็นพิเศษ และส่องประกายสวยงามเป็นภาพที่แสนประทับใจเต็มท้องฟ้า ยามเช้าเราสามารถความงดงามของ ทะเลหมอก ที่เยอะมาก วิวหมอกปกคลุมทั่วผาช้างน้อยสวยเกินคำบรรยาย และบริเวณพื้นที่โล่งที่เราเห็นในตอนกลางวัน อยากบอกว่าพื้นที่เยอะมาก แต่ถูกคลุมด้วยหมอกจนมิด ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการมาเยือน ภูลังกา ที่นักท่องเที่ยวต่างประทับใจในความอลังการของทะเลหมอกแห่งนี้
10. น้ำตกทีลอซู จ.ตาก
น้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ได้รับคำกล่าวขานถึงว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ ตัวน้ำตกมีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจาก ระดับน้ำทะเล 900 เมตร ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 50 0เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์
การเดินทางท่องเที่ยวน้ำตกทีลอซูหลังจากมาถึงจุดกางเต้นท์แล้ว จะมีเส้นทางเดินไปยังน้ำตก ระยะทาง 1.5 กม. เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติผ่านป่าไผ่และป่าเบญจพรรณ ระหว่างทางมีป้ายสื่อความหมายเกี่ยวกับธรรมชาติและ พืชพันธุ์ตามจุดต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา เมื่อถึงบริเวณน้ำตก จะเห็นละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วโขดหินเบื้องล่าง มองเห็นธารน้ำตกลงมาจากผาหินปูนซึ่งอยู่สูงประมาณ300ม. ตามแนวกว้างกว่า500 ม. ท่ามกลางป่าครึ้มอาจ แบ่งธารน้ำตกได้เป็นสามกลุ่ม คือ กลุ่มด้านซ้ายมือ (เมื่อหันหน้าเข้าหาน้ำตก) เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดสูงที่สุด และเป็นด้านที่สวยที่สุด มีธารน้ำตกหลายสายไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นเชิง ส่วนกลุ่มตรงกลาง สายน้ำไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันใกล้เคียงกบกลุ่มซ้ายมือแต่ไม่เป็นชั้นและแคบกว่า ส่วนกลุ่มทางขวามือ มีสายน้ำตกมากและ หน้าผาเตี้ยกว่าสองกลุ่มแรก เมื่อมองทั้งสามกลุ่มรวมกันจะเห็น น้ำตกทีลอซู ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามบริเวณ ด้านล่าง มีทางเดินไปยังจุดชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขาฝั่งตรงกันข้าม เป็นจุดที่มองเห็นน้ำตกทีลอซู ได้สวยงาม และชัดเจนขึ้น ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 1 ชม
ที่มา (Sanook) (paiduaykan) (mthai) (paapaii)
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
12 ที่เที่ยวน้ำตกในไทย วิวสวย อากาศดี นักเดินทางอย่างเราต้องไปสักครั้ง!
พาไปเยือนจังหวัดสมุทรสาคร เที่ยวง่ายๆ เที่ยวใกล้กรุงเทพ