ตากุ้งยิง เป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อยากเป็น เพราะทำให้ตาระคายเคือง และทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง หากลูกเป็นตากุ้งยิงจะทำยังไงดี อาการแบบไหนที่เรียกว่าตากุ้งยิง บรรเทาอาการได้ยังไงบ้าง วันนี้เราจะมาดูกัน
ตากุ้งยิงเป็นยังไง
ตากุ้งยิง เกิดจากการที่รูขุมขนบริเวณขนตาติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า สตาฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) โดยตากุ้งยิงนั้น ถือเป็นหนึ่งในอาการที่เด็กมักเป็นกันบ่อย ๆ หากเป็นตากุ้งยิง ก็มักจะมีอาการ เช่น
- มีก้อนเนื้อเล็ก ๆ สีแดงขึ้นที่บริเวณดวงตา ทำให้รู้สึกเจ็บ และกะพริบตาลำบาก
- ตาบวม และอาจมีน้ำตาไหลในบางครั้ง
- มีหนองไหลออกมาจากบริเวณที่เป็นตากุ้งยิง
หากเด็ก ๆ เป็นตากุ้งยิงก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเด็กส่วนใหญ่ เป็นตากุ้งยิงไม่นาน และก็หายได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน อีกทั้งตากุ้งยิงก็ไม่ใช่ภาวะที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อดวงตาอย่างร้ายแรง และส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้ทำให้เกิดโรคทางสุขภาพ อย่างไรก็ตาม หากเด็ก ๆ เป็นตากุ้งยิงอย่างรุนแรง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า โรคเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis) ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อใต้ผิวหนัง จนทำให้บริเวณที่ติดเชื้อแดง บวม อักเสบ แสบร้อน และเจ็บปวด โดยเด็กบางคน อาจมีไข้เกิดกับอาการเหล่านี้ด้วย ซึ่งเมื่อเข้าพบแพทย์ แพทย์ก็อาจแนะนำให้เด็กรับประทานยาอิริโทรมัยซิน (Erythromycin) และยาไดคลอกซาซิลลิน (Dicloxacillin) เพื่อบรรเทาอาการ
บทความที่เกี่ยวข้อง : การแพทย์เผย โรคตาขี้เกียจ โรคที่เป็นมากในเด็ก
วิธีดูแลเด็กที่เป็นตากุ้งยิง เบื้องต้นง่าย ๆ
อาการตากุ้งยิง เกิดขึ้นได้บ่อยกับเด็ก อย่างไรก็ตาม เด็กบางคนนั้น มีความเสี่ยงท่ีจะเป็นตากุ้งยิงได้มากกว่าเด็กทั่วไป หากว่าเด็กเป็นโรคเบาหวาน เป็นโรคผิวหนังเซ็บเดิร์ม (Seborrheic) หรือโรคโรซาเชียอยู่ (Rosacea) รวมทั้งในขณะที่เป็นตากุ้งยิง เด็กก็อาจกะพริบตาได้ลำบาก มองเห็นได้ไม่สะดวก หรือเคืองตา ซึ่งคุณแม่อาจช่วยน้อง ๆ บรรเทาอาการที่เกิดจากตากุ้งยิงได้ ดังนี้
- ประคบร้อน และนวดเบา ๆ เพื่อระบายหนองออกจากตากุ้งยิง ซึ่งอาจทำได้โดยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ๆ และนวดบริเวณที่เกิดตากุ้งยิงประมาณ 2 นาที ทำซ้ำวันละ 3 ครั้ง แต่ไม่ควรพยายามบีบหนองออกเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ตาอักเสบและบวมได้
- นำผงขมิ้นไปผสมน้ำเล็กน้อย และทาบริเวณที่เกิดตากุ้งยิงเพื่อบรรเทาอาการ หรือจะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำขมิ้นอุ่น ๆ ประคบตรงที่เป็นตากุ้งยิงก็ได้
- ใช้ถุงชาอุ่น ๆ ประคบตรงที่เป็นตากุ้งยิง 10 นาที โดยทำวันละ 5 ครั้ง ซึ่งวิธีน้ีอาจช่วยบรรเทาอาการปวดบวมได้
- หากเป็นตากุ้งยิงที่บริเวณตาด้านนอก อาจทาน้ำมะพร้าวลงบนบริเวณนั้นด้วยก็ได้ เพราะน้ำมะพร้าวอาจมีส่วนช่วยไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ
- ให้เด็กใช้ผ้าเช็ดมือแยกจากคนอื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- สอนให้เด็กล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้ออื่น ๆ อีก
- ไม่ให้เด็กสัมผัสบริเวณดวงตา หากยังไม่ได้ล้างมือให้สะอาด
- ให้เด็กล้างหน้า และล้างบริเวณดวงตาให้สะอาดอยู่เสมอ
- ห้ามไม่ให้เด็กขยี้ตา หรือจับบริเวณที่เป็นตากุ้งยิง เพราะอาจทำให้บริเวณนั้นอักเสบ
- ไม่ให้เด็กแต่งหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่บริเวณอื่น
- เมื่อเด็กต้องไปที่ ๆ มีฝุ่นเยอะ ควรให้เด็กสวมแว่นตากันแดดเพื่อกันฝุ่นเข้าตา
บทความที่เกี่ยวข้อง : กวาง กมลชนก ฝากเตือน ลูกเป็นตากุ้งยิงเพราะชอบขยี้ตา
เมื่อใดที่ควรไปเด็กไปพบแพทย์
แม้ว่าตากุ้งยิงส่วนใหญ่ จะไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อเด็ก แต่หากเด็ก ๆ เป็นตากุ้งยิงมาแล้วเกินกว่า 3 วัน มีไข้ ปวดศีรษะ หรือเบื่ออาหาร คุณแม่ควรพาเด็กเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาและวินิจฉัยอาการจะดีที่สุด ซึ่งคุณแม่ควรจดบันทึกอาการที่เกิดขึ้นกับเด็กให้ละเอียด เพื่อที่ว่าจะได้สามารถบอกอาการของเด็กกับคุณหมอได้ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อการตรวจโรค รวมทั้งควรจดคำถามที่อยากถามคุณหมอ หรือจดคำแนะนำจากคุณหมอเอาไว้ด้วยกันลืม
เมื่อเข้าพบหมอ หมอบางท่านอาจดึงขนตาของเด็กออก เพื่อให้น้ำหนองระบายออกมาได้ และช่วยทำให้เด็กหายจากตากุ้งยิงได้ไวยิ่งขึ้น หรือหมออาจให้เด็กทานยา เพื่อยับยั้งไม่ให้เชื้อกระจายไปบริเวณอื่น ๆ ในดวงตา อย่างไรก็ตาม หากเด็กคนไหนเป็นตากุ้งยิงซ้ำ ๆ หมอก็อาจแนะนำให้รับประทานยาปฏิชีวนะร่วมด้วย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดตากุ้งยิงได้อีกในอนาคต
แม้ว่าตากุ้งยิงจะเกิดขึ้นได้บ่อยกับเด็ก และไม่ได้ก่อให้เกิดโรคร้าย แต่คุณแม่ก็ควรดูแลน้อง ๆ ไม่ให้เป็นตากุ้งยิงได้ง่าย หรือเป็นตากุ้งยิงได้บ่อย ๆ นะคะ หากครั้งไหนที่แผลตากุ้งยิงของเด็กอักเสบมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนดังที่ได้บอกไปได้ ทำให้เด็กไม่สามารถใช้ชีวิตได้สนุกและมีความสุขเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง :
ระวังตาติดเชื้อ และ ตากุ้งยิงในเด็ก! อันตรายใกล้ตัวแม่จ้องช่วยระวัง
ทารกขี้ตาเขรอะ ตาแฉะ ลืมตาลำบาก แม่ลองสังเกต ลูกขี้ตาสีนี้เป็นโรคอะไรหรือเปล่า
ลูกตาแฉะ ตื่นมาขี้ตาเขรอะ จะหาวิธีแก้ยังไงดี?
ที่มา : raisingchildren.net.a , urmc.rochester.edu , momjunction.com , momjunction.com , mamastory.net