สาเหตุทั่วไปของอาการปวดท้องระหว่างตั้งครรภ์
อาหารไม่ย่อยหรือรู้สึกแสบร้อนที่หน้าอก (heartburn) – บางครั้งอาการปวดท้องอาจเกิดร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน
เส้นเอ็นรอบมดลูกของคุณยืดตัว – นี่เป็นสาเหตุของอาการปวดเกร็งท้องที่ไม่รุนแรง
ความรู้สึกตึงเครียด – อาจเป็นสาเหตุของอาการปวดเกร็งท้องระหว่างหรือหลังจากถึงจุดสุดยอด (orgasm)
เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ จะมีอาการเตือนหลายอย่างเกิดขึ้น เพื่อที่จะบอกคุณแม่ท้องว่าเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้อง พร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว โดยเฉพาะอาการเจ็บท้อง ซึ่งอาการเจ็บท้องนี่แหละที่มักจะทำให้คุณแม่ท้องสับสน เพราะมีทั้งอาการเจ็บท้องจริง และอาการเจ็บท้องเตือน เรามาดูกันว่าเราจะสังเกตอาการปวดท้องใกล้คลอดได้อย่างไร ปวดท้องคลอดเป็นแบบไหน ปวดแค่ไหนถึงต้องรีบไปโรงพยาบาล
สำหรับอาการปวดท้องใกล้คลอดนั้น คุณแม่ท้องสามารถสังเกตได้ดังนี้
- คุณแม่ท้องจะมีอาการอึดอัด กล้ามเนื้อเกร็งทุก ๆ 5 – 10 นาที และเริ่มมีอาการปวดหลัง
- มีอาการปวดท้องมากขึ้น ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะนอนพัก อาการปวดก็ไม่ทุเลาลง เมื่อเริ่มปวดท้องให้ลองจับเวลาดูจะพบว่า มีอาการปวดท้องสม่ำเสมอ ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง เจ็บครรภ์ 5 ครั้งขึ้นไป โดยเจ็บท้องทุก ๆ 10 – 15 นาทีและมีอาการปวดท้องถี่ ๆ สม่ำเสมอ มีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ปวดแต่ละครั้งนาน 30 – 70 วินาที
- เมื่อเอามือคลำท้อง จะพบว่าท้องแข็งเนื่องจากมดลูกแข็งตัว หากคุณแม่ท้องเคลื่อนไหว หรือขยับตัว ก็จะปวดมากขึ้น จากนั้นมดลูกจะบีบตัวถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนปวดทุก 2 – 3 นาที และเมื่อไหร่ที่การบีบตัวของมดลูก บีบตัวประมาณ 45 วินาที นั่นก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า คุณแม่ใกล้คลอดมากแล้ว
- ตำแหน่งที่มีอาการปวด คือบริเวณหลัง หรือบั้นเอว ร้าวมาทางหน้าท้องและลงไปถึงต้นขาในขณะที่มีการหดรัดตัวของมดลูก
- รู้สึกว่าท้องเคลื่อนต่ำลง หรือลดลง มีอาการปวดหน่วง ๆ เหมือนมีอะไรจะไหลออกมา ซึ่งอาการนี้เรียกว่า ท้องลด เนื่องจากในเวลาที่เด็กเคลื่อนลงต่ำเพื่อเตรียมเข้าสู่การคลอด จะทำให้ท้องดูมีขนาดลดลง
- มีมูกเลือดซึมออกมาจากช่องคลอด เรียกว่ามีอาการน้ำเดินแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่า มดลูกกำลังจะมีการเปิดออก เพื่อเข้าสู่การคลอดที่กำลังจะมาถึง
ปกติคุณแม่ท้องหลายท่านมักจะเข้าใจสับสนระหว่างอาการปวดท้องใกล้คลอด กับอาการเจ็บท้องเตือน ซึ่งอาการปวดท้องคลอด กับอาการเจ็บท้องเตือน จะต่างกันตรงที่ การเจ็บท้องเตือนนั้น เกิดจากมดลูกบีบหดตัว ทำให้ปวดบริเวณท้องเท่านั้น อาการปวดจะเป็นแบบไม่สม่ำเสมอเรียกว่า เป็น ๆ หาย ๆ ความถี่หรือความเจ็บปวดจะไม่รุนแรงมากขึ้น ปวดแต่ละครั้งน้อยกว่า 50 – 80 วินาที และเมื่อเดิน หรือเปลี่ยนท่า อาการปวดก็จะบรรเทาลง
อย่างไรก็ตาม การเตรียมพร้อมก็เป็นสิ่งที่สำคัญ แม้จะเป็นอาการเจ็บท้องเตือน แต่คุณแม่ควรเตรียมเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาล และเบอร์ฉุกเฉินอื่น ๆ ไว้ด้วยจะดีที่สุด
นอกจากอาการเจ็บท้องเตือน หรืออาการปวดท้องคลอดแล้ว คุณแม่ท้องก็ควรสังเกตสัญญาณ หรืออาการอื่น ๆ ด้วย หากมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้เกิดขึ้น ก็ควรรีบไปพบคุณหมอทันที
- เจ็บท้องคลอดหรือน้ำเดินก่อนครรภ์ครบกำหนด
- ลูกดิ้นน้อยลงหรือไม่ดิ้นเลย หรือดิ้นรุนแรงแล้วหยุดดิ้น
- มีเลือดออกทางช่องคลอด
- มีอาการผิดปกติอย่างเช่น มีอาการบวมมาก ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว
- ถุงน้ำคร่ำแตกหรือรั่วก่อนกำหนดคลอด
ได้ทราบกันแล้วนะครับว่า อาการปวดท้องคลอดเป็นแบบไหน แต่เมื่อถึงเวลาแล้ว หากคุณแม่ไม่แน่ใจ หรืออยากจะตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าคุณแม่จะคลอดแล้วแน่ ๆ ก็โทรศัพท์ไปปรึกษากับทางโรงพยาบาลก่อนก็ได้นะครับ หรืออาจจะไปพบคุณหมอเลย เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกในท้องนั่นเอง
บางครั้ง อาการปวดท้องอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างที่น่าเป็นห่วง ดังนั้น หากคุณพบกับอาการใดๆ ดังต่อไปนี้ โปรดปรึกษาแพทย์โดยทันที