น้ำมูกสีเขียว น้ํามูกสีเหลือง บอกโรค ได้นะ ขี้มูกเขียว สีขี้มูกออกมาเป็นแบบอย่างไรถึงเรียกว่าสุขภาพแข็งแรง อย่างไรที่บอกได้ว่าเป็นภูมิแพ้ สั่งน้ํามูกมีเลือดปนน้ำมูกสีเขียว ผิดปกติหรือไม่ แบบไหนอันตรายต้องไปพบแพทย์ ไปดูกันเลย
สีขี้มูกของทารก และผู้ใหญ่ บอกโรคได้ อ่านเพื่อให้รู้ !
ขี้มูกสีเขียว บอกอะไรกับเรา
เป็นสัญญาณเตือนแม่ให้ระวังว่าลูกกำลังติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา เพราะน้ำมูกสีเขียวหรือขี้มูกสีเขียว เป็นปฏิกิริยาของเม็ดเลือดขาวที่เกิดขึ้นเพื่อต่อต้านการติดเชื้อในร่างกาย ดังนั้น เมื่อเม็ดเลือดขาวตายแล้ว ก็จะปล่อยสารสีเขียว เมื่อสารสีเขียวปนกับเสมหะ จะทำให้เสมหะมีสีเขียว ตอนแรกจะออกเพียงสีเขียวอ่อนๆ จากนั้นค่อยๆ เข้มขึ้น 2-3 วัน หลังจากมีขี้มูกสีเขียวอ่อน
สีเขียวของน้ำมูกสัมพันธ์กับไซนัส
ถ้าเป็นหวัดเรื้อรัง หรือร่างกายอ่อนแอ ก็มีความเป็นไปได้ว่าน้ำมูกสีเขียวนั้นไปเกี่ยวเนื่องกับอาการไซนัสอักเสบ เมื่อมีอาการไซนัสอักเสบจะส่งผลให้โพรงจมูกบวม น้ำมูกที่ติดอยู่ภายในจมูก จึงเกิดการสะสมทั้งของแบคทีเรียและเชื้อราในน้ำมูก นอกจากนี้ ยังต้องสังเกตอาการอื่นๆ ประกอบไปด้วย เช่น อาการไข้ ปวดหัว ไอ เสมหะ ของลูก
ขี้มูกสีอื่น ๆ บอกอะไร เกี่ยวกับสุขภาพได้บ้าง
ขี้มูกสีขาว
ขี้มูกสีขาว อาจเป็น เพราะ กินอาหารประเภทนม และ โยเกิร์ตในปริมาณมาก ไขมันจากผลิตภัณฑ์ ประเภทนมสามารถเปลี่ยนลักษณะของขี้มูกทั่วไปให้มีลักษณะข้น และ เหนียวขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภท นี้ในช่วงที่กำลังเป็นหวัด หรือ ไซนัส เพื่อช่วยให้หายใจได้ง่ายขึ้น แต่ถ้า คุณสบายดี ถึงมีขี้มูกสีขาวก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ
ขี้มูกสีเหลือง น้ำมูกสีเหลือง
ขี้มูกสีเหลืองอันตรายไหม น้ำมูกสีเหลือง หรือ น้ำสีเหลืองออกจากจมูก อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่า มีการติดเชื้อไซนัส ร่างกายในตอนนี้ กำลังต่อสู้ กับ เชื้อโรคในช่วงที่เป็นหวัด ในช่วงแรก ที่เริ่มมีอาการ ขี้มูกจะมีสีเหลืองอ่อน หลังจากนั้น ประมาณ 2-3 วัน สีก็จะเข้มขึ้น เสมหะสีเหลืองเข้ม อาจเป็นสัญญาณของ โรคหลอดลมอักเสบ หรือ ติดเชื้อในอก การกินยาฆ่าเชื้อ ช่วยได้ลดการติดเชื้อของแบคทีเรียได้ ดังนั้น ควรดูแลสุขภาพตัวเองเพิ่มด้วยการนอนพักผ่อน งดน้ำเย็น รับประทานอาหารอุ่น ๆ เพื่อเสริมร่างกายให้แข็งแรง แต่ถ้าหาก มีอาการเป็นหวัดน้ำมูกเหลืองมาเกิน 1 อาทิตย์แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น แถมยังมีอาการหนักกว่าเดิมอีก หากมีไข้ ปวดหัว ไอแบบมีเสมหะร่วมด้วย ก็ควรไปพบแพทย์รักษาอาการนะคะ
ขี้มูกสีน้ำเงิน
ขี้มูกสามารถเปลี่ยนเป็น สีน้ำเงินได้หากมีแบคทีเรียที่ชื่อ Pseudomonas pyocyanea อยู่ในร่างกาย โดยเฉลี่ยแล้ว 1 ใน 10,000 คน จะมีขี้มูกสีน้ำเงิน ถ้าขี้มูกมีสีน้ำเงิน และ น้ํามูกเหนียวสั่งไม่ออกมากขึ้นมากหลายวัน นี่อาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณต้องไปพบแพทย์ หรือ อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากการสูดสารเคมี หรือ ฝุ่นแป้งสีน้ำเงินเข้าไปก็สามารถ ทำให้ขี้มูกเป็นสีน้ำเงินได้ แต่ลักษณะของขี้มูก จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมภายใน 1-2 วัน
บทความใกล้เคียงที่น่าสนใจ : เช็คด่วน! อาการ ลูกน้ำมูกไหล เรื้อรังอาจเกิดจาก “ขนม”
ขี้มูกสีส้ม แดงส้ม หรือสีสนิม สั่งน้ํามูกมีเลือดปน มีน้ํามูกปนเลือด
หากขี้มูกมีสีแดง หรือ แดงน้ำตาลปนนั่นก็เท่ากับว่า มีเลือดปนออกมานั่นเอง เลือดที่ปนกับน้ำมูก ออกมาอย่าเพิ่งตกทุกครั้งนะคะ เพราะอาจเกิดจากการเจ็บจมูก เส้นเลือดฝอย ในจมูกก็ขาดง่ายเลยทำให้เลือดปะปนไปกับขี้มูก สาเหตุก็มาจากอากาศที่แห้งเกินไป ซึ่งสามารถใช้น้ำเกลือหยอดจมูกเพื่อรักษาความชุ่มชื้นภายในจมูกเอาไว้ และสั่งน้ำมูกเบา ๆ หากคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ถ้ามีน้ำมูกหรือเสมหะออกมาเป็นสีนี้ อาจเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าเป็นหลอดลมอักเสบ และถ้ามีเลือดออกเป็นจำนวนมากติดต่อกันหลายวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุการรักษาต่อไป
ขี้มูกสีน้ำตาล มีน้ํามูกปนเลือด
ขี้มูกสีน้ำตาล ส่วนใหญ่พบในคนที่สูบบุหรี่ เนื่องจากขี้มูก ได้รับสารประกอบต่าง ๆ จากบุหรี่ การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อจมูกเลยทำให้เลือดไหลได้ เลือดและสารประกอบต่าง ๆ ในบุหรี่ผสมกับขี้มูกเลยทำให้ขี้มูกหรือเสมหะกลายเป็นสีน้ำตาล หากสูบบุหรี่น้อยลงก็จะสามารถช่วยบรรเทาการผลิตเสมหะสีนี้ได้
ขี้มูกสีดำหรือสีเทา
ขี้มูกสีดำ เทา หรือสีเข้มมีสาเหตุมาจากการหายใจเอามลภาวะทางอากาศเข้าไป เป็นสีขี้มูกปกติที่พบได้ในคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ อย่างกรุงเทพมหานคร ดังนั้นด่านแรกคือการกรองมลภาวะเหล่านี้จากจมูก น้ำมูกจึงทำหน้าที่ดักจับฝุ่นควัน สิ่งสกปรก ทั้งหลายในอากาศเอาไว้
วิธีบรรเทาอาการเมื่อมีขี้มูก
- ใช้เสปรย์พ่นจมูกเพื่อรักษาความชุ่มชื้นภายในโพรงจมูก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อลดความเหนียวของขี้มูก และทำให้โพรงจมูกมีความชุ่มชื้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการอดอาหารเมื่อคุณไม่สบาย เพราะว่าร่างกายต้องการพลังงานเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคในร่างกาย
- รับประทานยาแก้ปวดลดไข้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
- น้ำอุ่นช่วยให้บรรเทาอาการแน่นจมูกได้
- เมื่อมีเสมหะควรคายทิ้ง ไม่ควรกลืนลงคอ
- ใช้ยาอมเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในคอ หรือทานน้ำผึ้งสัก 1 ช้อนก็ช่วยบรรเทาเสมหะและไอลงได้
- หากเป็นภูมิแพ้ ก็สามารถทานยาแก้แพ้เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
- ถ้ามีขี้มูกสีเหลืองหรือสีเขียวติดต่อกันหลายวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องการใช้ยาแก้อักเสบ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และอยู่ใกล้กับควันบุหรี่
อย่าเพิ่งไปคิดว่าขี้มูกในจมูกน่าขยะแขยงไปซะก่อนนะคะ เพราะสีขี้มูกแปลกไม่แปลกนี่แหละที่จะบอกถึงความผิดปกติของร่างกายได้ ดังนั้นหากไม่มั่นใจว่าสีขี้มูกที่เปลี่ยนไปหรือแม้จะมีสีปกติก็ตามในขณะที่ร่างกายอ่อนแอ เนื่องจากแพ้อากาศ ติดเชื้อ ไซนัส ฯลฯ ทางที่ดีควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการนะคะ
บทความใกล้เคียงที่น่าสนใจ :
ลูกกินขี้มูก พ่อแม่อย่าห้าม! ปล่อยให้เป็นธรรมชาติดีแล้ว
ลูกไอแห้งๆ ไอเสียงวี้ด ไอตอนกลางคืน ลูกไอแบบไหนอันตราย วิธีสังเกตอาการไอของทารก
ล้างจมูก วิธีล้างจมูกให้ลูก ลูกป่วยภูมิแพ้ เป็นหวัด มีน้ำมูก ล้างจมูกให้ลูกโล่ง ช่วยให้ทารกหายป่วยไว