ดีที่แม่ตัดสินใจเปลี่ยนสถานพยาบาล จึงทำให้รู้ว่าลูกสาวมี ภาวะหัวใจสลับข้าง หัวใจข้างขวา หัวใจข้างซ้าย แม่ๆทุกท่านควรสังเกตอาการลูกน้อยอย่างใกล้ชิดนะคะ
ภาวะหัวใจสลับข้าง อาการเป็นอย่างไร มีวิธีใดสามารถสังเกตได้บ้าง ?
ผู้ปกครองหลายๆ ท่านอาจจะสงสัยว่า ภาวะหัวใจสลับข้าง (Situs inversus) เกิดจากอะไร มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร และมีวิธีไหนบ้างที่เราสามารถสังเกตลูกน้อยของเราว่ามี อาการภาวะหัวใจสลับข้าง (Situs inversus) รึเปล่า
คุณแม่ Bowie Bz จากทางบ้านได้มีโอกาสมาเล่าประสบการณ์จริงกับ theasianparent เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณแม่ท่านอื่น ๆ ผ่านเพจที่ชื่อว่า แหล่งรวบรวมคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ (mom) เกี่ยวกับลูกที่ป่วยภาวะหัวสลับข้าง (Situs inversus) มาเล่าให้ฟัง
คุณแม่ได้คลอดลูกสาวเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559 ด้วยน้ำหนักตัว 2,200 กรัม ถือเป็นการคลอดก่อนกำหนดตอนสัปดาห์ที่ 35 ตอนแรกหมอได้ตรวจเช็คแล้วว่าลูกสาวปกติดี สามารถกลับไปดูแลต่อที่บ้านได้
แต่พอกลับมาจากโรงพยาบาล ในช่วงที่น้องมีอายุได้หนึ่งเดือนหลังจากคลอด ก็เริ่มมีอาการไอ หายใจเร็ว ในช่วงแรกคุณแม่จึงพาลูกสาวไปหาหมอเพราะคิดว่าน่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดา ซึ่งผลตรวจของหมอก็บอกเช่นนั้น จึงได้กลับบ้านไป แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะลูกสาวยังคงมีอาการไอ หายใจเร็ว ที่ดูแล้วไม่ดีขึ้น จนเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา น้องต้องแอทมิทเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะหมอบอกว่าเป็นหอบหืดและหลอดลมตีบ น้องอยู่รักษาตัวได้ 7 วันก็กลับบ้าน แต่น้องกลับไอมากขึ้น จนทำให้คุณแม่เป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
จากความเป็นกังวลและลูกยังอายุไม่กี่เดือน คุณแม่จึงตัดสินใจกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้งในวันที่ 17 มีนาคม (1 เดือนหลังจากไปโรงพยาบาลอีกครั้ง) และผลการตรวจพบว่าลูกน้อยติดอาการ ปอดติดเชื้อ คราวนี้แอทมิทต่ออีก 9 วัน ตลอดระยะเวลารักษาน้องก็พ่นยาและให้ยาฆ่าเชื้อ และออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับมารักษาตัวที่บ้านในวันที่ 19 มีนาคม
เมื่อกลับมาจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นที่ลูกน้อยอยู่ในความดูแลของหมอ แต่ผลกลับเลวร้ายมากขึ้นและอาการเก่าๆ กลับมาอีกครั้ง เมื่อลูกเริ่มงอแง รู้สึกไม่สบายตัว ดูดนมได้น้อย ทานอาหารได้น้อย หายใจเร็วผิดปกติ และมีอาการหอบร่วมด้วย คุณแม่จึงตัดสินใจนำน้องมารักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น และผลจากการตรวจอย่างละเอียดทำเอาคุณแม่แทบช็อค !! เพราะคุณหมอบอกว่า ” ลูกสาวมีภาวะหัวใจสลับข้างกัน (Situs inversus) โดยน้องมีหัวใจอยู่ด้านขวา และตับอยู่ด้านซ้าย อวัยวะภายในสลับตำแหน่งกัน อีกทั้งหัวใจโต และมีภาวะหัวใจวายร่วมด้วย ไม่ใช่แค่นั้น น้องยังปอดบวมอีกด้วย !! “
หมอจึงถามคุณแม่ว่า ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยเหรอว่าลูกสาวมีหัวใจอยู่ที่ด้านขวา คุณแม่ก็เลยบอกหมอไปว่า ไม่เคยรู้มาก่อนเลย หมอที่ทำคลอดก็ไม่เคยบอกอะไร และ คุณแม่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
หมอจึงบอกว่า โชคดีที่คุณแม่พาลูกมาโรงพยาบาลเร็ว มิเช่นนั้นอาจจะไม่ทันการ เพราะเขาหายใจลำบาก มีโอกาสหยุดหายใจเมื่อไรก็ได้ เพราะขาดออกซิเจนไปเลี้ยงที่สมอง ตอนนี้ลูกสาวของคุณแม่ต้องให้ออกซิเจนตลอดเวลา และรอผลการทำเอคโค่เพื่อหาแนวทางการรักษาอยู่
ที่คุณแม่ตัดสินใจออกมาโพสต์เรื่องราวนี้ผ่านเพจก็เพราะว่า อยากให้เลือกโรงพยาบาลทำคลอดที่ดี ไว้ใจได้ และหมั่นคอยสังเกตความผิดปกติของลูกน้อยด้วย เพราะอาจจะไปเจอหมอแย่ ๆ ที่ไม่มีความรู้มากพออย่างโรงพยาบาลก็เป็นได้
อย่างไรขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ และ น้องไอติมด้วยนะคะ ขอให้หายไว ๆ และคุณแม่ทุกคนที่อ่านบทความนี้อย่าลืมสังเกตอาการลูกน้อยของคุณว่ามีอาการหัว
ที่มา: เพจแหล่งรวบรวมคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้(mom)
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เช็คด่วน! สัญญาณโรคปอดบวมในเด็ก
เรื่องจริงของแม่ผู้สูญเสียลูกด้วยโรคหัวใจ ถ้ารู้เร็วกว่านี้ แม่คงไม่เสียหนูไป
แม่แชร์ประสบการณ์ ลูกลำไส้อักเสบ นานไม่รู้ตัว พร้อมวิธีสังเกตอาการ
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ และ คอมมูนิตี้อันดับหนึ่งที่คุณแม่เลือก นอกจากสาระความรู้ที่เรามอบให้คุณแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ การวางแผนมีลูกแล้ว เรายังมีแอพพลิเคชั่นรวมถึงสื่อมัลติมีเดียหลากหลายที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำงานและดูแลลูกไปพร้อมกัน ให้มีความมั่นใจและพร้อมในการดูแลลูกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การให้นมบุตร การดูแลตนเองหลังคลอด ท่าออกกำลังกายหลังคลอดเพื่อให้หุ่นของแม่หลังคลอดกลับมาฟิตแอนเฟิร์มอีกครั้ง The Asianparent Thailand ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องการดูแลลูก ความรู้แม่และเด็กที่เต็มเปี่ยม และตอบทุกข้อสงสัยในแอพพลิเคชั่นที่เป็นสื่อกลาง และกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวไทย