วิจัยชี้ ! หลังหายโควิด เกินกว่าครึ่งมีอาการผิดปกติระยะยาว

โควิด หรือ โคโรน่าไวรัส ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง อัพเดทยอดผู้ป่วยล่าสุด (27 พ.ย. 2564) ยอดรวมทั้งโลกยังอยู่ที่ 169,073,843 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 3,511,927 ราย ซึ่งยอดป่วยและผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มต่อเนื่อง ไม่มีแนวโน้มลดลง

ปัจจุบัน มีสถิติผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว กว่า 150,814,994 ราย แต่แม้จะหายจากอาการป่วยแล้ว อดีตผู้ป่วยเกินกว่าครึ่ง ยังคงมีอาการจากโรคโควิดคงเหลืออยู่

ผลการวิจัย ที่ถูกตีพิมพ์ใน JAMA Network Open บอกไว้ว่า กว่า 73% ของผู้ป่วยโรคโควิด ที่รักษาหายแล้ว ยังคงมีอาการข้างเคียงในระยะยาว และมีอาการปานกลาง ถึงขั้นรุนแรง

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทบทวนงานศึกษา 45 งาน ซึ่งได้ทำการติดตามผู้ป่วยโรค โควิด ที่รักษาหายแล้ว จำนวนกว่า 9,751 คน ในช่วงหลายเดือนหลังการติดเชื้อ 

จากการศึกษาพบว่า 73% ของอดีตผู้ป่วยโควิด ยังคงแสดงอาการบ้าง อย่างน้อยคนละ 1 อาการ แม้เวลาจะผ่านไปนาน กว่า 2 เดือน หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการ หรือได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งการศักษาครั้งนี้สอดคล้องกัน แม้ในการศีกษาที่ติดตามอดีตผู้ป่วยกว่า 6 เดือน

กลุ่มนักวิจัยพบว่า กว่า 40% ของผู้เข้าร่วมการวิจัยมีอาการอ่อนเพลีย 36% มีอาการหายใจถี่ และอีก 25% รายงานว่ารู้สึกไม่มีสมาธิ และไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้

ดร.ทาห์มินา นาซเซอร์รี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ต ซึ่งเป็นผู้เขียนหลักของการศึกษา รายงานว่า ผู้ป่วยโควิดจำนวนมากยังคงได้รับเชื้อเป็นเวลานาน โดยมีอาการเหนื่อยล้าอย่างต่อเนื่อง หรือมีหมอกในสมอง แม้ว่าอาการจะไม่รุนแรงนัก

โดยประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่ง คือ การติดตามรายงานอาการ หรือการศึกษาต่าง ๆ เกี่ยวกับอดีตผู้ป่วยโควิด มีความแตกต่างกันมาก ทำให้ยากที่จะศึกษา และเปรียบเทียนมาตรการต่าง ๆ เช่นระยะเวลาที่ควรติดตามผู้ป่วย หรือรายงานอาการผู้ป่วย เป็นต้น

ที่มาข้อมูล : today.line.me

บทความที่เกี่ยวข้อง :

มาดูกันให้ชัด ๆ โควิด-19 (COVID-19) หรือ ไวรัสโคโรน่า คืออะไร ป้องกันได้ยังไง

ฉีดวัคซีนโควิด 50 รัฐ ในอเมริกา เงื่อนไขของรัฐมีอะไรบ้าง

วอร์คอินฉีดวัคซีนโควิด 19 พร้อมให้บริการได้ทันทีทั่วประเทศ