คุณพ่อคุณแม่ที่อยากพาลูก ๆ ไปช้อปปิ้ง บางทีก็กลัวว่าลูกจะเบื่อใช่ไหมล่ะคะ วันนี้เรามีหนึ่งสถานที่มาแนะนำ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ ช้อปปิ้งแบบไม่เบื่อ แถมคุณลูกก็มีที่ให้เล่นสนุกไปด้วย จะเป็นที่ไหนไปได้ นอกจากศูนย์การค้า เมกาบางนา ที่จะมอบประสบการณ์ ช้อปปิ้งแบบไม่เบื่อ และสนุกได้ทั้งครอบครัว ค่ะ
คุณแม่มาช้อปปิ้ง ส่วนเจ้าตัวเล็กได้เล่นสนุก
คุณณัฐพร รุ่งขจรกลิ่น รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดตัวโซนร้านค้าสำหรับเด็ก ๆ ที่มีมากกว่า 30 ร้าน โซน “เมกา คิดส์” ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่และเด็ก ๆ จากแบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมโรงเรียนและสถาบันพัฒนาทักษะความสามารถด้านต่าง ๆ ของเด็ก เพื่อตอบสนองวิธีความต้องการช้อปปิ้งที่สนุกได้ ไม่เบื่อ ทั้งคุณแม่และคุณลูก
นอกจากนี้ ยังมีโซนสนามเด็กเล่น ที่จัดทำขึ้นตามจุดทางเดินบริเวณชั้น 2 ตั้งแต่บริเวณหน้าห้างอิเกีย จนไปถึงโซนโรงหนังเมกา ซีนีเพล็กซ์ และบริเวณ Food Walk พื้นที่อินดอร์กึ่งเอ้าท์ดอร์ด้านนอกศูนย์การค้า ที่เปิดให้บริการฟรี อุปกรณ์เครื่องเล่นทุกอย่างนำเข้าจากประเทศสวีเดนที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของวัสดุ ทำให้ผู้ปกครองมั่นใจได้ว่า นอกจากดีไซน์ที่สวยงามของเครื่องเล่น ยังปลอดภัยและอุ่นใจทุกครั้งที่ใช้บริการ
คุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งมีเจ้าตัวน้อยก็มีบริการในส่วนของห้องให้นมบุตร ที่มีอุปกรณ์ครบครันไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างมือ เบาะรองเปลี่ยนผ้าอ้อม ของเล่นสำหรับเด็ก โซฟาของคุณแม่ ปุ่มฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ เป็นต้น ซึ่งมีบริการอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือ ห้องน้ำฝั่งโฮมโปร และโซนโรบินสันชั้น 2
ช้อปสนุกได้ทั้งคุณแม่คุณลูก ไม่มีเบื่อแบบนี้ที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม www.mega-bangna.com
ช้อปให้คุ้ม ให้ครบ จบในที่เดียว
ก่อนจะไปช้อปสนุก ช้อปเพลินกันที่เมกา บางนา คุณแม่มาดูเช็คลิสต์กันก่อนดีกว่าค่ะว่า อะไรบ้างที่ลูกต้องใช้ อะไรบ้างที่ไม่จำเป็น ช้อปทั้งที ก็ตจ้องช้อปให้คุ้ม ได้ของครบ แบบไม่สิ้นเปลืองนะคะ งานนี้เน้น ๆ ให้คุณแม่มือใหม่ ลองอ่านกันดูค่ะ
บทความ : คัมภีร์ซื้อของลูก อะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็น
ควรมี : โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม, เปล แต่อย่าใช้นานจนลูกโตกว่า 3 เดือน หรือ เมื่อลูกมีอายุ 6.8 กิโล, เก้าอี้โยก, เครื่องปรับอากาศ, ตู้เสื้อผ้า, ตะกร้า, Baby monitor หรือ เครื่องติดตามเด็ก
ไม่มีก็ได้ : เปลมือ 2 เราอยากให้คุณได้ใช้อันใหม่มากกว่า เพื่อความปลอดภัย เราไม่รู้ว่าของมือ 2 นั้น จะแข็งแรงมากแค่ไหนกับลูกของคุณ ยอมจ่ายแพงขึ้นนิดหน่อย เพื่อความปลอดภัยของลูกคุณเอง
ควรมี : หมอน เพราะเสี่ยงต่อ SIDS หรือ อาการที่หมอนมาทับหน้าลูก จนลูกหายใจไม่ออก เพราะเขาไม่สามารถขยับตัวได้, ที่จัดระเบียบท่านอน เสี่ยงต่อ SIDS เช่นกัน, โฟมรองเบาะเตียง
-
Babyproofing เครื่องป้องกันไม่ให้ทารกมีอันตราย
ควรมี : ล๊อกของประตูทุกห้อง, ที่กันมุมโต๊ะ เพื่อไม่ให้หัวโขก
ควรมี : เครื่องทำความสะอาดขวดนม, เครื่องอุ่นขวดนม
ควรมี : เครื่องปั๊มนม, ภาชนะสำรองนม, ขวดนมหลาย ๆ ขวด, ครีมทาหัวนม
ไม่มีก็ได้ : ของเล่นในน้ำ, ที่วัดอุณหภูมิน้ำ, ที่ป้องกันก๊อก, ผ้าคลุมไซส์เด็ก
ไม่มีก็ได้ : หนังสือนิ่ม, บล๊อก, ของเล่นที่ติดกับรถลาก, ของเล่นกุ๊งกิ๊ง, ของเล่นที่ติดกับ คาร์ซีท เพราะเสี่ยงต่ออันตราย
ของใช้แต่ละอย่างหมดอายุตอนไหน
แต่สำหรับคุณแม่ทุก ๆ ท่าน อย่าลืมสำรวจวันหมดอายุสำหรับของใช้ของลูกที่บ้านด้วยนะคะ เพราะว่าของทุกชิ้นก็มีอายุการใช้งานของมัน ถ้าของชิ้นไหน มีอาการแบบนี้ล่ะก็ ตรงไปช้อปใหม่ได้เลยค่ะ
ของใช้ลูกแต่ละอย่างหมดอายุเมื่อไหร่ ถึงเวลาซื้อใหม่ให้ลูกใช้หรือยัง
1. ขวดนม
ขวดนมทั่วไปจะมีอายุการเสื่อมสภาพอยู่ที่ประมาณ 3 ปี หลังจากที่ผลิตออกมาแล้วยังไม่มีการใช้งาน แต่เมื่อมีการนำมาใช้งานแล้ว ก็อาจจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานด้วย ยิ่งถ้าหากมีการใช้งานบ่อย โดนความร้อนจากการทำความสะอาดบ่อย ๆ จนสังเกตได้ว่าตัวเลขข้างขวดจางลง หรือขวดนมมีการเปลี่ยนแปลง เช่น บุบเบี้ยว มีรอยร้าว ไม่ใสดังเดิม หรือมีรอยขีดข่วนมาก ก็สามารถเปลี่ยนก่อนเวลาได้
2. จุกนม
จุกนมนั้นควรที่จะเปลี่ยนตามช่วงวัยของลูกน้อย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรจะเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือน แต่ถ้าหากจุกนมเริ่มบวม เนื้อยางเริ่มนิ่ม หรือจุกนมมีการเปลี่ยนสี เช่นสีซีดจางลง ก็แสดงว่าจุกนมเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว เปลี่ยนใหม่ให้ลูกน้อยได้เลย
3. ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
โดยทั่วไปแล้ว ผ้าอ้อมสำเร็จรูปมักจะมีอายุการใช้งานหลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 5 ปี แต่บางที เมื่อเวลาผ่านไป 2 – 3 ปี ก็อาจจะเกิดการเสื่อมสภาพได้เช่นกัน ซึ่งนั่นก็จะทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึมซับไม่ดี ยางยืดหมดประสิทธิภาพ จนทำให้เด็กบางคนเกิดอาการแพ้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเลยก็มี
4. คาร์ซีท
คาร์ซีทส่วนใหญ่ จะระบุวันหมดอายุไว้ที่ด้านหลังหรือด้านล่างของคาร์ซีท หรือไม่ก็อาจระบุวันที่ผลิต ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว คาร์ซีทจะมีอายุ 6 ปีนับจากวันที่ผลิต มีคาร์ซีทเพียงไม่มีแบบเท่านั้นที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่านั้น
source : outofmilk.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ช้อปปิ้งยังไงไม่ให้ Out ตกเทรนด์ ตามสไตล์คุณแม่สุดชิค !!!
ของใช้ลูก ซื้อเมื่อไหร่ดี ของใช้อะไรบ้าง ที่คุณแม่ต้องซื้อก่อนคลอด
ทีเด็ด!! คุณแม่นักช้อปออนไลน์ ซื้อของเข้าบ้าน อย่างไรให้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!