” สอง บทบาทแม่ ในร่างเดียว ” แม่แนน ร่วมแชร์ การเป็นแม่และแม่พิมพ์ของชาติ
บทบาทแม่ นับเป็นบทบาทที่ยิ่งใหญ่และยากที่สุดอีกหนึ่งบทบาท การเป็นแม่ นอกจากจะต้องคอยดูแล เลี้ยงดูจนกว่าเด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นมานั้น ยังไม่พอ แม่จะต้องคอยอบรมสั่งสอนลูกให้อยู่ในลู่ทางที่ดี และ เป็นคนดีของสังคม ทีม TheAsianparent ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับแม่แนน ( คุณปฏิญญา กาลายศ ) ที่รับบทบาทแม่ ทั้งการเป็นแม่ของลูกสาวทั้งสองคน ( น้องแอลฟ่า และ น้องบีต้า ) พร้อมทั้ง แม่พิมพ์ของชาติ ในเวลาเดียวกัน มาติดตามกันดีกว่าค่ะ ว่าคุณแม่แนนมีวิธีการสอนลูกอย่างไรและ สอนลูกศิษย์อย่างไร รวมทั้ง การเลี้ยงลูกที่น่าสนใจ มาฝากกันค่ะ
บทบาทแม่ กับ บทบาทคุณครู มีความยากง่าย แตกต่างกันอย่างไรคะ ?
แม่แนนเล่าว่า ในบทบาทของความเป็นแม่สอนลูกตัวเอง ยังไม่ได้ตั้งความหวังมาก ว่าลูกจะเป็นอย่างไร ในขณะนี้ เพียงแต่หวังว่า ขอให้น้องทั้งสองคนมีระเบียบวินัย ช่วยเหลือตัวเองได้ รับผิดชอบตนเองขั้นพื้นฐานได้
แต่ในทางกลับกัน การเป็นแม่พิมพ์ของชาติ กลับเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน สมมุติว่าเธอสอนเด็กสักร้อยคนในเวลาเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่ 100 คนก็ฝากความหวังที่เธอ เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องเต็มที่มากกว่าเดิม ต้องเป็นแบบอย่างที่เรียกว่าแบบอย่างจริงๆ ทั้งนี้ก็จะมีความต่างของวัยที่ลูกศิษย์อาจจะไม่กล้ามาพูดคุยด้วย เธอเองก็ต้องพยายามมากกว่าเดิมในการเข้าหา และ เข้าใจลูกศิษย์
อีกหนึ่งปัญหาที่พบในเด็กมัธยมปลาย คือ โรคซึมเศร้า เช่น ช่วงเรียนลูกศิษย์ก็เรียนปกติ แต่เมื่อถึงช่วงสอบก็ไม่สามารถสอบได้ เช่น มีอาการปวดหัวรุนแรง อาเจียน จนถึงต้องนอนพักที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เธอต้องใช้ความเข้าใจเป็นอย่างมาก และ พยายามบอกลูกศิษย์คนอื่นๆ ให้คอยช่วยเหลือ ช่วยดูแลเพื่อน ดูแลกันและกัน
มีวิธีการสอนลูกอย่างไร เหมือนกับการสอนลูกศิษย์ ในโรงเรียนไหม ?
สำหรับแม่แนน เนื่องจากเธอเป็นคนที่สบายๆ ไม่กดดัน ดังนั้น การสอนลูกศิษย์สำหรับเธอ เธอเพียงขอแค่ให้ส่งงานครบ ทันเวลา เน้นให้พวกเขารับผิดชอบตัวเอง และอย่าคุยกันระหว่างเรียน ในขณะเดียวกัน การเลี้ยงน้องแอลฟ่า และ น้องบีต้า เธอก็ไม่ได้เลี้ยงแบบซีเรียสตามแบบแผนที่โรงเรียน วันเสาร์ – อาทิตย์ ก็ปล่อยน้องๆนอนตื่นสายได้ แต่ก็จะแบ่งเวลาให้น้องๆทำการบ้าน อ่านหนังสือก่อนที่จะไปเล่น หากเป็นช่วงวันหยุดยาว เด็กๆก็อาจจะขอยังไม่ทำการบ้าน มีแอบขี้เกียจกันบ้าง เธอก็อาจจะใช้กลยุทธต่อรองเข้ามาช่วยบ้าง
สำหรับการเลี้ยงน้องทั้งสองคน เป็นอย่างไรบ้างคะ ?
การเลี้ยงพี่น้องสองคน ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ท้าทายมากๆสำหรับเธอ ” งานแม่เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน ถึงอ่านทฤษฎีมาเยอะแค่ไหน บางอย่างมันก็นำมาใช้ไม่ได้ บริบทมันไม่เหมือนกัน ” แม่แนนแชร์อย่างตรงไปตรงมา สำหรับปัญหาที่เธอกำลังเจออยู่ในขณะนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากๆค่ะ สำหรับการสอนพี่น้องให้รักกัน
ตามทฤษฎี หากมีการแย่งของกันเกิดขึ้น จะต้องให้คนที่เป็นพี่ก่อน แต่ลูกคนเล็กของแม่แนนนั้นร้องไห้ไม่ยอม ร้องกลั้นจนสลบไป จนทำให้เธอรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก หลายครั้งเมื่อมีปัญหาการแย่งของเล่นกันเกิดขึ้น เธอจึงมักแก้ปัญหาด้วยการบอกลูกสาวคนโตว่า “ให้น้องก่อนนะลูก เดี๋ยวน้องก็น่าจะเบื่อแล้วแหละ ” ลูกสาวคนโตก็ปฎิบัติตตามแต่โดยดี จนเมื่อสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา น้องแอลฟ่า ลูกสาวคนโตได้พรุ่งพรูความรู้สึกออกมา ” แม่ไม่รักหนูแน่เลย อะไรๆแม่ก็ให้บีก่อน ” เสียงเล็กๆของลูกสาว ทำให้เธอฉุกคิด ว่าเธอเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือ หลังจากวันนั้น เธอจึงได้ข้อคิดกับตนเองว่าเธอไม่ควรที่จะเพิกเฉยกับเรื่องเล็กๆน้อยๆของลูก เพราะภายใต้การยอมของลูกสาวคนโตนั้น คือเขารู้สึกเจ็บปวดนะ
อยากให้น้องทั้งสองคนเติบโตมาเป็นแบบไหนคะ ?
แม่แนนหวังเพียงว่า อยากให้น้องทั้งสอง อยู่รอดในสังคมที่ปรับไปอย่างรวดเร็ว อยากให้เขารู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรไม่ควรทำ คิดวิเคราะห์แยกแยะได้ แต่ไม่ได้ตั้งความหวังว่าลูกๆจะต้องเป็นหมอ จะต้องเป็นครู หรือ จะต้องเรียนเก่ง สิ่งที่คาดหวังจากลูกนิดนึงในตอนนี้ คือ อยากให้ลูกได้ภาษา แต่ก็ไม่ได้กดดันลูกขนาดนั้น
วิธีการเลี้ยงลูกที่อยากแชร์
ปกติที่บ้าน แม่แนนมักจะไม่ค่อยดุลูก เธอกล่าวเสริมว่า เธอไม่อยากดุลูก เพราะว่าถ้าดุ ลูกจะไม่พูดความจริง หากมีอะไรเธอก็จะพูดคุยกับลูกโดยตรงเพื่อให้ลูกไว้วางใจ ก่อนนอนทุกคืน เธอจะคุย จะถามไถ่ลูกตลอดว่าวันนี้ไปโรงเรียนมาเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรที่ชอบ อะไรที่ไม่ชอบ
แม่แนนตั้งเป้าหมายว่า เธออยากเลี้ยงลูกให้เหมือนเพื่อน อยากเป็นส่วนหนึ่งในทุกกิจกรรม และ ประสบการณ์ของลูก ซึ่งการที่เธอพุดคุยกับลูกทุกคืนนั้น ทำให้ลูกกล้าที่จะเปิดใจ เล่ารายละเอียดต่างๆให้เธอฟัง แล้วก็ถามกลับด้วยว่า เธอมีอะไรที่ชอบ หรือ ไม่ชอบเหมือนกันไหม
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
Source : ahaparenting
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
วิธีห้ามทัพ พี่น้องทะเลาะกัน พ่อแม่ควรจัดการด้วยวิธีนี้
นิสัยของลูกคนโต คนกลาง คนเล็ก และลูกคนเดียว พี่น้อง นิสัย เหมือนหรือต่างกัน
พี่น้องรักกัน เลี้ยงลูกยังไงให้พี่น้องรักกัน ช่วยเหลือ ดูแลกัน