ถึงแม้ว่า ลำพูน จะไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ในการไปเที่ยวภาคเหนือ แต่ถ้ากล่าวถึงความสวยงามของวัฒนธรรมและธรรมชาตินั้น บอกเลยว่าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าจังหวัดไหนๆ เลย ถึงเวลาย้อนเวลาสู่ อาณาจักรหริภุญไชย จุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ในดินแดนทางภาคเหนือกัน แล้วทุกคนจะรู้ว่า อาณาจักรหริภุญไชย หรือ จังหวัดลำพูน มีอะไรที่น่าค้นหากว่าที่คิดอีกเยอะ
เปิด ประวัติ จังหวัดลำพูน กับประวัติศาสตร์นับพันปี
ลำพูน เป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กมากที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย ด้วยพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 4,505.882 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,815,675 ไร่ เท่านั้น แต่จังหวัดเล็กๆ แห่งนี้เอง ที่มีศักยภาพต่อการพัฒนาเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญทางภาคเหนือตอนบนอยู่ไม่น้อย เนื่องจากตั้งอยู่ใน ลุ่มแม่น้ำโขง หรือพื้นที่สี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจร่วมกับ จังหวัดเชียงใหม่ นั่นเอง จึงทำให้เหมาะแก่การทำมาค้าขาย การคมนาคม และทำเป็นพื้นที่ทางการเกษตร
สภาพอากาศใน จังหวัดลำพูน นั้นมีอยู่ 3 ฤดู คือฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ด้วยความที่อยู่ห่างไกลจากทะเลพอสมควร จึงทำให้ที่นี่มีฤดูแล้งที่ยาวนานและอากาศค่อนข้างร้อนในฤดูร้อน เวลาเข้าสู่ฤดูฝนก็จะมีฝนตกชุกชุมและยาวนานถึง 6 เดือน พอเข้าสู่ฤดูหนาวก็จะมีอากาศหนาวเย็นโดยเฉพาะในป่าเขา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่อยากไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ก็จะไปเยี่ยม ลำพูน ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจนถึงช่วงหน้าหนาว เพราะเป็นช่วงที่อากาศดีมาก เหมาะแก่การไปเที่ยวธรรมชาติ ขึ้นดอย เข้าป่า หรือแม้กระทั่งทำบุญไหว้พระในเมืองก็ชิลไม่น้อยเหมือนกัน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แนะนำทริป สัมผัสเมือง 3 หมอก เที่ยวภาคเหนือ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน
วัดพระธาตุหริภุญชัย
จังหวัดลำพูน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ถึง หริภุญไชย
แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่ประวัติศาสตร์ของ ลำพูน ถือว่ามีความเป็นมาที่ยาวนานที่สุดในภาคเหนือเลยค่ะ จากหลักฐานที่ขุดพบจากแหล่งโบราณคดีบ้านวังไฮ ทางริมฝั่งตะวันออกของ แม่น้ำกวง ตำบลเวีงยองอ อำเภอเมืองลำพูน ก็สันนิษฐานได้ว่าพื้นที่แถบนี้มีอารยโบราณอายุกว่า 2,000-,3000 ปีมาแล้ว ซึ่งคนกลุ่มแรกที่มาสร้างชุมชนแห่งนี้เองที่เป็นบรรพบุรุษของ ชาวลัวะ และ ชาวเม็ง (มอญ) นั่นเอง
ต่อมาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 คือจุดกำเนิดของ อาณาจักรหริภุญไชย ราชธานีแห่งแรกของภาคเหนือที่มีอายุยาวนานถึง 1,343 ปี อีกทั้งยังเป็นรากฐานความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้านต่ออาณาจักรล้านนา ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร ประเพณี วัฒนธรรม รากฐานทางด้านภาษา และอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีต้นแบบจากวัฒนธรรมทวารวดีทางฝั่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจาก พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย เป็นราชธิดาของกษัตริย์ละโว้ในยุคนั้น จึงทำให้ได้รับอิทธิพลทางด้านความเชื่อทางศาสนาและศิลปะวัฒนธรรมมาไม่น้อย
กษัตริย์ในยุคหริภุญไชยครองราชสมบัติยาวนานถึง 620 ปี มีกษัตริย์ทั้งหมดประมาณ 50 พระองค์ และมีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-17 ยุคนี้เองที่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของหริภุญไชยเริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่มีหลักฐานทางโบราณคดีเท่านั้น แต่มีหลักฐานทางอักขระโบราณอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการบูรณะและสร้างวัดอยู่หลายแห่ง ทั้ง วัดพระยืน หรือ วัดอรัญญิการาม และ วัดเชตวนาราม หรือ วัดดอนแก้ว ต่างก็มีความสำคัญและเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนมาจนถึงปัจจุบัน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เชียงใหม่ เที่ยวไหนดี แจกทริป สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ 3 วัน 2 คืน
สะพานทาชมภู
จังหวัดลำพูน สมัยล้านนา จนถึง สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พอเข้าสู่พุทธศตวรรษที่ 19 ในสมัยของ พระยายีบา อาณาจักรหริภุญไชยก็ได้ตกไปอยู่การปกครองของ พ่อขุนเม็งรายมหาราช ซึ่งเป็นผู้รวบรวมดินแดนฝั่งทางเหนือให้เข้ามาอยู่ในอาณาจักรล้านนาทั้งหมด พระองค์ทรงย้ายศูนย์กลางการปกครองไปที่ เมืองเชียงใหม่ และให้ นหครหริภุญไชย เป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาแทน จึงไม่แปลกใจเลยว่า เหตุใดพุทธสถานและประเพณีความเชื่อในพุทธศาสนาใน ลำพูน ถึงยังมีความมั่นคงและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
จนกระทั่งสมัย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมืองลำพูนก็ถูกรวมเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทย แต่ช่วงนั้นเป็นยุคที่บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามไม่หยุดหย่อนมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น อีกทั้งยังเป็นช่วงที่พม่า (เมียนมาในปัจจุบัน) ยึดครองดินแดนล้านนา จึงทำให้ชาวบ้านต้องพากันหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่าเพื่อความอยู่รอด ปล่อยให้บ้านเมืองร้าง แต่เมื่อ พระยาบุรีรัตน์ (คำฝั้น) มาเป็นเจ้าเมืองลำพูน ก็ได้ทำการอพยพผู้คน ชาวยอง มาตั้งรกราก สร้างบ้านเมืองใหม่ตรงแถบ ริมน้ำกวง น้ำปิง และ น้ำทา และนำเอาวัฒนธรรม ศิลปกรรม และงานช่างต่างๆ มาด้วย จึงทำให้บ้านเมืองอยู่ในความร่มเย็นสงบสุขมาจนถึงปัจจุบัน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : หน้าหนาวนี้ พาเที่ยวลำปาง เมืองแห่งรถม้า ที่ไม่ได้มีดีแค่รถม้า
จุดชมวิวผาแดง
ประวัติศาสตร์อันยาวนาน จังหวัดลำพูน
กล่าวถึง พระธาตุหริภุญชัย พระธาตุคู่บ้านคู่เมือง จังหวัดลำพูน มาเป็นเวลาเนิ่นนาน อีกทั้งยังมี พระรอด จาก วัดมหาวัน สุดยอดพระเครื่องใน พระเบญจภาคี ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อเสียงและหายากมากๆ ในประเทศไทยอีกด้วย ส่วนทางด้านประวัติศาสตร์ เราก็พอจะรู้กันแล้วว่าเดิม ลำพูน มีต้นกำเนิดจาก อาณาจักรหริภุญไชย มีปฐมกษัตริย์คือ พระนางจามเทวี พระองค์ทรงปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม เผยแพร่พุทธศาสนาแก่ราษฎร และนำความเจริญมาสู่ดินแดนแห่งนี้ไม่น้อย จึงทำให้พระองค์ยังคงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองลำพูนมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากประวัติศาสตร์อันยาวนานแล้ว ลำพูน ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของ ลำไย และ กระเทียม เนื่องจากแหล่งปลูกลำไยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังมีกระเทียมเป็นพืชเศรษฐกิจอีกด้วย เรียกว่าไปถึงลำพูนก็ต้องได้มีลำไยติดไม้ติดมือมาเป็นของฝากให้กับที่บ้านสักหน่อย แถมยังเป็นจังหวัดที่มีประเพณีและวัฒนธรรมอันงดงามไม่แพ้จังหวัดไหนๆ ทางภาคเหนือเลย
น้ำตกก้อหลวง
ที่เที่ยวสำคัญใน จังหวัดลำพูน
แน่นอนว่ามาถึง ลำพูน ก็ต้องมาเที่ยววัด ไม่อย่างนั้นก็เหมือนมาไม่ถึง วัดสำคัญๆ ที่พลาดไม่ได้เลยคือ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร วัดปันป่ายางหลวง วัดจามเทวี วัดพระพุทธบาทตากผ้า วัดมหาวัน และอื่นๆ อีกมากมาย ไหว้พระกันจนอิ่มบุญแล้วก็ต้องไม่พลาดไปถ่ายรูปสวยๆ ที่ สะพานทาชมภู สะพานเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี จากนั้นก็ไปชมผ้าทอสวยๆ ที่ สถาบันผ้าทอมือหริภุญชัย ซึ่งมีการอนุรักษ์ผ้าทอโบราณที่มีการสืบทอดกันยาวนานหลายชั่วอายุคน เรียกว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้คนหลงรัก ลำพูน เลย
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : หนาวนี้เที่ยวดอยไหนดี แนะนำยอดดอย และภูผา ที่เที่ยวในหน้าหนาว
ที่เที่ยวธรรมชาติ จังหวัดลำพูน
อยากบอกว่า ที่เที่ยวธรรมชาติ จังหวัดลำพูน ก็ดีงามไม่เบาเหมือนกันนะ เริ่มด้วย อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ซึ่งเป็นแหล่งรวมธรรมชาติสุดตระการตาให้ทุกคนได้ไปสัมผัสกับกลิ่นอายอันบริสุทธิ์ของป่าเขาให้เต็มอิ่ม เช่น น้ำตกก้อหลวง จุดชมวิวผาแดง แก่งก้อ ทุ่งกิ๊ก เป็นต้น ยิ่งถ้าไปในช่วงปลายฝนต้นหนาวจนถึงช่วงฤดูหนาวนี่คงฟินสุดๆ ไปเลย
ที่มา : travel.trueid.net
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
พาทัวร์ Unseen ที่เที่ยวในภาคเหนือ ที่คุณอาจยังไม่เคยไป
แนะนำสถานที่ เที่ยวธรรมชาติ จุดเช็คอินป่าสน ฝนนี้ต้องรีบไปรับความชุ่มฉ่ำ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!