ชวนคุณแม่ ฝึกลูกน้อยเคลื่อนไหว เสริมพัฒนาการร่างกาย ในวัยขวบปีแรก

อยากให้ลูกมีพัฒนาการร่างกายอย่างสมวัย พ่อแม่สามารถ ฝึกลูกน้อยเคลื่อนไหว ตั้งแต่วัยเริ่มต้น โดยเฉพาะวัยขวบปีแรกเป็นต้นไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการ ฝึกลูกน้อยเคลื่อนไหว เพื่อเสริมพัฒนาการร่างกาย ควรเริ่มทำตั้งแต่วัยขวบปีแรกเป็นต้นไป เพราะช่วงวัยนี้ น้องหนูจะมีพัฒนาการร่างกายและกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง เช่น เดือนแรกทารกจะพลิกคอซ้ายขวาได้ เดือนที่ 2 ยกคอขึ้นชั่วครู่ได้ เดือนที่ 3 เริ่มชูคอได้นานขึ้น เดือนที่ 4 ยกอกพ้นพื้นได้ เดือนที่ 5 สามารถพลิกคว่ำได้ เดือนที่ 6 น้องหนูสามารถนั่งโดยใช้มือค้ำยันได้ ครบ 7 เดือนจะนั่งหลังตรงได้ เมื่อ 8 เดือนจะเริ่มหาที่เกาะ เข้าสู่เดือน 9 จะเกาะยืนได้ เดือนที่ 10 ลูกน้อยจะเริ่มคลาน เดือนที่ 11 น้องจะเกาะเดินและตั้งไข่ และเมื่อครบ 12 เดือนหรือ 1 ปี เด็กจะสามารถเดินเองได้ แต่การทารกจะมีพัฒนาการได้สมวัยแบบนี้ จำเป็นต้องมีการฝึกกล้ามเนื้อ ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่อย่างนั้นอาจทำให้น้องมีพัฒนาการร่างกายล่าช้าได้ 

 

10 ท่า ฝึกลูกน้อยเคลื่อนไหว เสริมพัฒนาการร่างกาย

เราได้รวบรวมท่าต่าง ๆ ที่ช่วย ฝึกลูกน้อยเคลื่อนไหว เสริมพัฒนาการร่างกายทารกในวัยขวบปีแรกมาฝากคุณพ่อคุณแม่ มีด้วยกันหลายท่าให้นำไปใช้ สามารถเลือกท่าที่ถนัดโดยไม่จำเป็นต้องฝึกทั้งหมดก็ได้

1. ท่า Tummy Time

วิธีทำ: สามารถเริ่มฝึกให้น้องได้ช่วงอายุ 2 เดือนขึ้นไป หรือช่วงที่น้องสามารถตั้งคอเองได้ โดยให้คุณพ่อคุณแม่จับน้องนอนคว่ำบนที่นอนหรือเบาะรองนอน แล้ววางของเล่นไว้ใกล้ ๆ หรืออาจจะใช้เสียงช่วยเพื่อให้น้องหันมองไปหาต้นทางของเสียง หรือจะเปลี่ยนให้ลูกน้อยนอนบนหน้าท้องของคุณพ่อคุณแม่แล้วร้องเรียกก็ได้เช่นกัน

ประโยชน์ของการฝึก: การฝึกให้ลูกเคลื่อนไหวในท่านี้ เป็นการออกกำลังกายช่วงลำคอ ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณลำคอของน้องแข็งแรง

2. ท่า Football Hold

วิธีทำ: ให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกน้อย โดยให้แขนสอดเข้าไปประคองบริเวณหน้าอกและหน้าท้องของลูกน้อย (เหมือนการอุ้มลูกฟุตบอล) จากนั้นอุ้มพาลูกน้อยมองไปรอบ ๆ ตัว

ประโยชน์ของการฝึก: ท่านี้จะช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ เหมาะกับเด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไป

3. ท่า Baby Happy

วิธีทำ: จัดท่าให้ลูกนอนหงาย จากนั้นให้คุณแม่ค่อย ๆ ยกขาลูกขึ้นมาบนอากาศ แล้วปล่อยให้ลูกจับขาตัวเองแกว่งไปแกว่งมา แต่หากลูกยังทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องฝืน คุณแม่สามารถช่วยจับได้ และสอนให้ลูกค่อย ๆ ซึมซับวิธีทำ ในครั้งต่อไปลูกก็จะทำได้เอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ประโยชน์ของการฝึก: ช่วยบริหารช่วงสะโพกให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารในเด็กได้ดีอีกด้วย

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4. ท่า Butterfly Twist

วิธีทำ: ให้ลูกนอนหงายลงบนเบาะ แล้วจับขาลูกยกขึ้นช้า ๆ โดยที่แขนอยู่ข้างลำตัว จากนั้นค่อย ๆ จับขาแยกออกทั้งสองข้าง คล้ายกับผีเสื้อกำลังกางปีกบิน

ประโยชน์ของการฝึก: ช่วยฝึกกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรง เด็กจะได้มีพลังขามาก สามารถฝึกคลานและฝึกเดินได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นท่าที่ช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่ายอีกด้วย

5. ท่า Downward Dog

วิธีทำ: ท่านี้สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ให้ลูกน้อยอยู่ในท่าคว่ำหน้า วางมือทั้งสองลงที่พื้น จากนั้นก็ดันก้นขึ้น คุณแม่อาจต้องทำให้ลูกน้อยดูก่อนแล้วให้ลูกน้อยเลียนแบบตาม ท่านี้จะเหมาะกับเด็กวัยคลาน หรือช่วงอายุ 6 – 10 เดือน

ประโยชน์ของการฝึก: เป็นการเสริมสร้างพัฒนาร่างกาย และกล้ามเนื้อหลายส่วนของลูก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

 

 6. ท่า Hand Exercises

วิธีทำ: วิธีทำง่าย ๆ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ยื่นของเล่น หรือสิ่งของให้ลูกจับเล่น แนะนำให้นวดฝ่ามือลูกด้วยก็ดีเช่นกัน  กิจกรรมนี้เหมาะกับเด็กวัยกำลังคลานเป็นต้นไป

ประโยชน์ของการฝึก: ช่วยให้กล้ามเนื้อมือและนิ้วของลูกดีขึ้น หยิบจับสิ่งของได้ดี

7. ท่า Sitting on a Stool

วิธีทำ: ให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมเก้าอี้หรือม้านั่งสำหรับลูกน้อย จากนั้นให้ลูกได้ลองนั่งโดยที่เท้าต้องสัมผัสกับพื้น แล้วนำของเล่นมาวางไว้ด้านหน้าเพื่อให้ลูกได้ลุกขึ้นไปหยิบ แล้วกลับมานั่งในท่าเดิม

ประโยชน์ของการฝึก: ช่วยเสริมสมดุลของร่างกายและการควบคุมน้ำหนักที่เท้า

8. ท่า Bounce Baby

วิธีทำ: เริ่มจากให้คุณแม่นั่งในท่าที่สบาย จากนั้นอุ้มลูกขึ้นวางบนตักของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ยกตัวลูกให้ยืนขึ้นบนตัก โดยให้เท้าทั้งสองข้างของลูกเหยียบอยู่บนขาของคุณแม่ จากนั้นคอยกระตุ้นให้ลูกเดินอยู่บนขาของคุณแม่ โดยที่คุณแม่อาจจะช่วยพยุงหรือช่วยจับขาของลูก เพื่อให้ทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น 

ประโยชน์ของการฝึก: เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาของลูก

9. ท่า Cruising

วิธีทำ: จับเด็กให้ลุกขึ้นยืน โดยให้มือแตะเข้าที่เฟอร์นิเจอร์ชนิดใดก็ได้ภายในบ้านเพื่อเกาะยืน เช่น โซฟา คอกกั้นที่สามารถเกาะยืนได้ เมื่อลูกเริ่มทรงตัวได้ก็ลองปล่อยให้เขายืนเองหรือเดินเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ประโยชน์ของการฝึก: ช่วยส่งเสริมให้ลูกได้ทรงตัวได้ดี รู้จักการพยุงตัว และเป็นการปูพื้นฐานสู่การก้าวเดิน

10. ท่า Bubble Gaze

วิธีทำ: ท่านี้ต้องมีอุปกรณ์ช่วย นั่นคือ ฟองสบู่ เริ่มต้นด้วยการให้ลูกนั่งอยู่บนเก้าอี้ รถหัดเดิน หรือบนรถของเล่น จากนั้นให้คุณแม่เป่าฟองสบู่ให้ลูกดู ลูกจะเกิดความสนใจแล้วใช้มือคว้าจับฟองสบู่ให้แตก หรือเกิดการขยับก้าวเดินเพื่อไปหาฟองสบู่ ซึ่งการกระตุ้นให้ลูกเดินไล่จับฟองสบู่ จะช่วยให้ลูกเกิดความสนใจที่จะฝึกท่านี้อย่างดี

ประโยชน์ของการฝึก: ช่วยฝึกประสาทส่วนตา ตลอดจนกล้ามเนื้อมือ แขน และขา

 


 

รู้ไหม ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ดีช่วยให้คุณแม่  ฝึกลูกน้อยเคลื่อนไหว อย่างไม่สะดุด

ในขณะที่ลูกน้อยต้องฝึกเคลื่อนไหวในท่าต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการด้านร่างกาย หากสวมเสื้อผ้าที่ใส่ไม่สบาย หรือผ้าอ้อมที่ระบายเหงื่อได้ไม่ดี ก็จะทำให้ลูกไม่สนุก หรือไม่อยากทำกิจกรรมต่อ เพราะรู้สึกไม่สบายตัว และอาจจะร้องไห้งอแงได้ ดังนั้น คุณแม่ควรเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีคุณสมบัติพิเศษ เหมาะกับเด็กวัยนี้ อย่าง มามี่โพโค แพ้นท์ พรีเมี่ยม เอ็กซ์ตร้า ดราย (MamyPoko Pants Premium Extra Dry) ที่มาพร้อมคุณสมบัติช่วยลดอุณหภูมิภายในผ้าอ้อม เพราะมีขอบเอวระบายเหงื่อ ให้ลูกน้อยเย็นสบายตัว แห้ง ไม่เหนียวเหนอะหนะ ด้วยคุณสมบัติดี ๆ แบบนี้

 

 

  • ครั้งแรกในไทยจาก มามี่โพโค ผ้าอ้อมสำเร็จรูปพรีเมี่ยมแบบกางเกง ที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในผ้าอ้อมได้ถึง 2 องศา เพราะมีขอบเอวระบายเหงื่อ (Sweat Ventilation Waistband) ดูดซับเหงื่อที่เกิดขึ้นภายในผ้าอ้อม พร้อมระบายออกได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผิวลูกน้อยเย็นสบาย แห้ง และไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ
  • มีแผ่นซึมซับ สปีด แอร์ เวฟ (Speed Air Wave) ซึมซับปัสสาวะได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังซึมซับได้มากถึง 6 แก้ว หรือ ยาวนาน 12 ชั่วโมง ช่วยให้ผิวหน้าแห้ง คลายกังวลเรื่องความเปียกชื้น
  • ตัวขอบขาเป็นแบบ เพอร์เฟค ล็อก (Perfect Lock) สำหรับขนาด S – M และแบบดับเบิ้ล ล็อก (Double Lock) ในขนาด L – XXXL ซึ่งมีความนุ่มกระชับไม่เสียดสีกับผิวลูก แต่ในขณะเดียวกันก็ป้องกันการรั่วซึมได้ดี ทำให้ลูกน้อยขยับฝึกท่าต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
  • ขอบเอวรูระบายอากาศ ช่วยระบายความอับชื้นจากภายในสู่ภายนอกได้ 360 องศา ลูกน้อยจึงสามารถสวมใส่ผ้าอ้อมได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่ต้องพักผิว
  • พิสูจน์แล้วว่ามีความอ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวของลูก เพราะผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  •  มีลวดลายโพโคจังและผองเพื่อน แยกชาย – หญิง สุดน่ารัก และมีขนาดตั้งแต่ S – XXXL ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

 

 

ช้อปออนไลน์ง่าย ๆ คลิกเลย

 

คิดถึงรอยยิ้มเจ้าตัวเล็ก #คิดถึงมามี่โพโค #MamyPokoThailand #ผ้าอ้อมลดอุณหภูมิ #PremiumExtraDry

 

 * ผลทดสอบในห้องปฏิบัติการของฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ยูนิชาร์ม คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มามี่โพโครุ่นก่อน * ผลการระบายความร้อนขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการใช้งาน

** ปริมาณและระยะเวลาการซึมซับ ขึ้นอยู่กับปริมาณปัสสาวะของลูกน้อยแต่ละคน

^ การระบายอากาศเกิดจากรูเล็กๆรอบขอบเอวและแผ่นฟิล์มรอบตัวผ้าอ้อม

^^ จากผลการทดสอบในกลุ่มทดลองโดยบริษัท Dermscan Asia ไม่รวมถึงการระคายเคืองส่วนบุคคลและการใช้ผ้าอ้อมเป็นเวลานาน

 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team