นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกวัย 0-6 เดือน แต่หากคุณแม่มีความจำเป็นต้องให้นมชงแก่ลูกน้อยวัยทารก โดยเฉพาะเด็กแรกเกิด 0-3 เดือน ซึ่งมีระบบย่อยอาหารที่ยังไม่แข็งแรง การชงนมผิดวิธีอาจทำให้ลูกน้อยท้องอืด ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการอีกด้วย ดังนั้น ก่อนจะชงนมให้ลูกน้อยแต่ละครั้ง คุณแม่ลองมาตรวจสอบกันดีกว่า ว่าวิธีการที่ทำอยู่นั้นถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ และเรียนรู้ วิธีชงนมที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกน้อยสบายท้องและเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง
ทำความเข้าใจสาเหตุของอาการท้องอืดในทารก
อาการท้องอืดในเด็ก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และมักทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วง สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ลูกน้อยท้องอืด มีดังนี้ค่ะ
1. อากาศที่ปนเข้าไปในขวดนม
- สาเหตุ: เมื่อลูกน้อยดูดนม อาจกลืนอากาศเข้าไปด้วย ซึ่งอากาศเหล่านี้จะไปสะสมอยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้ลูกน้อยรู้สึกอึดอัด ท้องป่อง และอาจร้องไห้
- ป้องกันได้อย่างไร:
-
- เลือกจุกนมที่เหมาะสม จุกนมควรมีขนาดและรูปทรงที่พอดีกับปากของลูกน้อย เพื่อป้องกันการดูดอากาศเข้าไปมากเกินไป
- อุ้มลูกให้ถูกวิธี หลังจากให้นมเสร็จ ควรอุ้มลูกในท่าตั้งตรงและตบหลังเบาๆ เพื่อให้อากาศที่อยู่ในท้องออกมา
- ตรวจสอบขวดนม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขวดนมไม่รั่ว และไม่มีรอยร้าว เพราะอาจทำให้มีอากาศเข้าไปในขวดนมได้
- ตรวจสอบวิธีชงนม ตรวจสอบให้แน่ใจว่า วิธีการชงนมถูกต้อง ไม่ทำให้เกิดฟองอากาศ
2. การย่อยนมไม่สมบูรณ์
- สาเหตุ: ระบบย่อยอาหารของเด็กทารกยังไม่สมบูรณ์ อาจมีปัญหาในการย่อยนม ทำให้เกิดก๊าซในกระเพาะอาหารและลำไส้
- ปัจจัยเสี่ยง: การเปลี่ยนสูตรนมบ่อยๆ หรือการให้อาหารเสริมเร็วเกินไป อาจทำให้ระบบย่อยอาหารของลูกน้อยปรับตัวไม่ทัน
- ป้องกันได้อย่างไร:
- เลือกสูตรนมที่เหมาะสม ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเลือกสูตรนมที่เหมาะสมกับอายุและสภาพร่างกายของลูกน้อย
- เปลี่ยนสูตรนมอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากจำเป็นต้องเปลี่ยนสูตรนม ควรเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ระบบย่อยอาหารของลูกน้อยมีเวลาปรับตัว
- ให้อาหารเสริมตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่ควรให้อาหารเสริมเร็วเกินไป เพราะอาจทำให้ระบบย่อยอาหารของลูกน้อยทำงานหนักเกินไป
3. ปฏิกิริยาต่อโปรตีนในนม
- สาเหตุ: บางครั้งลูกน้อยอาจมีอาการแพ้โปรตีนในนมวัว ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย และผื่นแดง
- อาการอื่นๆ: นอกจากอาการท้องอืดแล้ว อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาเจียน ถ่ายเหลว มีเลือดปนในอุจจาระ
- ป้องกันได้อย่างไร: ปรึกษาแพทย์ หากสงสัยว่าลูกน้อยแพ้นมวัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและแนะนำสูตรนมที่เหมาะสม
4. ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง
- การติดเชื้อ: การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เช่น ไวรัส หรือแบคทีเรีย อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย และอาเจียนได้
- ปัญหาสุขภาพอื่นๆ: โรคทางพันธุกรรม หรือความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร อาจเป็นสาเหตุของอาการท้องอืดได้
- การกลืนอากาศเข้าไปขณะร้องไห้: เมื่อลูกน้อยร้องไห้ อาจกลืนอากาศเข้าไป ทำให้เกิดอาการท้องอืดได้
วิธีชงนมที่ถูกต้อง ใส่นม หรือ น้ำก่อน?
วิธีชงนมที่ถูกต้อง ใส่น้ำก่อน แล้วค่อยใส่นมผงตามค่ะ
เหตุผลก็คือ ถ้าเราใส่นมผงลงไปในขวดก่อน แล้วค่อยเติมน้ำลงไป ปริมาณน้ำที่เราเติมลงไปจะน้อยกว่าปริมาณที่ต้องการ เนื่องจากนมผงจะดูดซับน้ำ ทำให้ความเข้มข้นของนมสูงขึ้น นมที่ได้จะข้นเกินไป ซึ่งนมที่ข้นเกินไปจะย่อยยาก ทำให้ลูกน้อยมีโอกาสท้องผูกได้ง่ายขึ้น และยังอาจเป็นภาระต่อไตด้วย
หากเราใส่น้ำก่อน แล้วค่อยใส่นมผงตวงเข้าไป เมื่อชงเสร็จจะได้ปริมาณน้ำนมที่เพิ่มขึ้นในขวด จากมวลของนมผงกับมวลของน้ำผสมกันอย่างพอดี
วิธีชงนมที่ถูกต้อง ใช้น้ำร้อน หรือ นำ้อุ่น หรือ น้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว?
ควรใช้น้ำอุ่นที่ต้มสุกแล้ว ปล่อยให้เย็นลงจนถึงอุณหภูมิที่ระบุบนกระป๋องนมค่ะ
ทำไมต้องใช้น้ำอุ่นที่ต้มสุก?
- ฆ่าเชื้อโรค การต้มน้ำจะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนในน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสุขภาพของลูกน้อย
- รักษาคุณค่าทางอาหาร การใช้น้ำร้อนจัดเกินไป อาจทำลายวิตามินและแร่ธาตุในนมผงได้
- ป้องกันการลวกปาก หากน้ำร้อนเกินไป อาจลวกปากและลิ้นของลูกน้อยได้
สิ่งที่ไม่ควรทำ
- ใช้น้ำเย็น อาจทำให้นมผงไม่ละลายหมด และอาจทำให้ลูกน้อยท้องอืดได้
- ใช้น้ำร้อนเกินไป อาจทำลายคุณค่าทางอาหารในนมผง และอาจลวกปากลูกน้อยได้
- ใช้น้ำประปาโดยตรง น้ำประปาอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน ควรต้มน้ำให้เดือดก่อนนำมาใช้ชงนม
อุณหภูมินมที่เหมาะสม
- อุณหภูมิที่เหมาะสม อุณหภูมิที่เหมาะสมในการชงนมจะระบุไว้บนกระป๋องนมของแต่ละยี่ห้อ
- น้ำอุ่นๆ กำลังดี ผสมน้ำต้มสุก 3 ส่วน กับน้ำร้อน 1 ส่วน เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนเกินไปจนทำลายคุณค่าทางอาหาร และไม่เย็นเกินไปจนนมผงไม่ละลาย
- หยดน้ำนม หยดน้ำนมเล็กน้อยลงบนข้อมือของตัวเอง เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิ หากรู้สึกอุ่นกำลังดี ก็สามารถให้ลูกน้อยกินได้ค่ะ
วิธีชงนมที่ถูกต้อง ไม่ทำให้ลูกท้องอืด ?
การเขย่านมแรงๆ ทำให้เกิดฟองอากาศจำนวนมาก เมื่อลูกน้อยดูดนมเข้าไป จะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้ลูกน้อยท้องอืดและไม่สบายตัว
วิธีชงนมที่ถูกต้อง แทนที่จะเขย่านมแรงๆ ลองใช้วิธีหมุนวนขวดนมเบาๆ เป็นวงกลม จะช่วยให้นมผงละลายเข้ากับน้ำได้ดี โดยไม่ทำให้เกิดฟองอากาศมากเกินไป นอกจากนี้ การหมุนวนเบาๆ ยังช่วยรักษาคุณค่าทางสารอาหารในนมให้อยู่ครบถ้วนอีกด้วย
เทคนิคการลดฟองอากาศเพิ่มเติม
- ชงนมในขวดนมโดยตรง การชงนมในขวดนมเลยจะช่วยลดโอกาสที่ฟองอากาศจะเกิดขึ้นขณะเทนมจากภาชนะอื่นๆ
- ใช้ช้อนที่มีรู การใช้ช้อนที่มีรูในการตวงนมผงจะช่วยให้ผงนมละลายได้ดีขึ้น และลดการเกิดฟองอากาศ
- เลือกจุกนมที่เหมาะสม จุกนมที่มีขนาดและรูปทรงเหมาะสมกับอายุของลูกน้อย จะช่วยให้ลูกน้อยดูดนมได้ง่ายขึ้น และลดการกลืนอากาศเข้าไป
- อุ้มลูกน้อยในท่าที่ถูกต้อง หลังจากให้นมเสร็จ ควรอุ้มลูกน้อยในท่าตั้งตรงและตบหลังเบาๆ เพื่อให้อากาศที่อยู่ในท้องออกมา
นมผงชงแล้วอยู่ได้กี่ชั่วโมง ?
เพื่อสุขภาพของลูกน้อย ไม่ควรเก็บนมผงที่ชงแล้วไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง หากลูกกินไม่หมดภายใน 2 ชั่วโมง ควรทิ้งทันที อย่าเสียดาย ทางแก้ที่แนะนำคือ ชงนมในปริมาณที่ลูกน้อยทานได้พอดีในแต่ละมื้อ
ทำไมต้องทิ้งนมที่เหลือ?
- เชื้อโรค เมื่อนมสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานาน เชื้อโรคต่างๆ อาจเจริญเติบโตได้ ทำให้ลูกน้อยท้องเสีย
- การเปลี่ยนแปลงทางเคมี คุณค่าทางอาหารในนมอาจลดลง หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้
- ความเสี่ยงต่อการปนเปื้อน หากภาชนะที่ใส่นมไม่สะอาด หรือมีการสัมผัสกับสิ่งสกปรก อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้
นมผงเปิดใช้แล้วเก็บได้นานแค่ไหน ?
ไม่ควรเก็บนมผงที่เปิดแล้วเกิน 1 เดือน เนื่องจาก
- คุณค่าทางอาหารลดลง เมื่อเปิดกระป๋องนมแล้ว นมผงจะสัมผัสกับอากาศ ทำให้คุณค่าทางอาหารต่างๆ เช่น วิตามิน และแร่ธาตุ ลดลง
- เสี่ยงต่อการปนเปื้อน นมผงที่เปิดแล้วอาจปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่ายขึ้นเมื่อสัมผัสกับอากาศ
- กลิ่นและรสชาติเปลี่ยนแปลง นมผงอาจมีกลิ่นและรสชาติเปลี่ยนไป ทำให้ลูกน้อยไม่ยอมกิน
สรุปขั้นตอน วิธีชงนมที่ถูกต้อง
-
เตรียมความพร้อม
- ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนเตรียมนม
- ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ชงนม เช่น ขวดนม จุกนม ให้สะอาดด้วยน้ำร้อนและสบู่ จากนั้นนำไปต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำ
-
เตรียมน้ำ
- ใช้น้ำสะอาดที่ต้มสุกแล้ว ปล่อยให้เย็นลงจนถึงอุณหภูมิที่ระบุบนกระป๋องนม
- ปริมาณน้ำที่ใช้ในการชงนมแต่ละครั้ง ควรดูตามคำแนะนำบนฉลากของนมผงแต่ละยี่ห้อ
-
ผสมนม
- ใส่น้ำลงในขวดนมก่อน แล้วจึงค่อยเติมนมผงตามลงไป
- คนหรือหมุนขวดนมเบาๆ เพื่อให้นมผงละลายเข้ากับน้ำ โดยไม่ต้องเขย่าแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดฟองอากาศ
-
ตรวจสอบอุณหภูมิ
- ตรวจสอบอุณหภูมิของนมก่อนให้นมลูกน้อย โดยหยดน้ำนมเล็กน้อยลงบนข้อมือ หากรู้สึกอุ่นกำลังดี ก็สามารถให้นมลูกน้อยได้
-
เก็บรักษา
- หากลูกน้อยกินนมไม่หมด สามารถวางไว้ในอุณหภูมิห้องไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง
- นมผงที่เปิดแล้ว ควรปิดฝาให้สนิท เก็บในที่แห้งและเย็น และใช้ให้หมดภายใน 1 เดือน
การลดฟองอากาศในการชงนมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสุขภาพของลูกน้อย วิธีชงนมที่ถูกต้อง และขั้นตอนที่เหมาะสมจะช่วยให้ลูกน้อยสบายตัวและไม่ร้องไห้งอแงจากอาการท้องอืด ที่สำคัญอย่าลืมสังเกตอาการของลูก หากลูกมีอาการท้องอืดบ่อย ควรปรึกษาแพทย์นะคะ
ที่มา : โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ , pobpad , pantip , hellokhunmor
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
นมผงเด็กแรกเกิด มีสูตรอะไรบ้าง เลือกยังไง ? ให้ลูกน้อยแข็งแรง
ลูกไม่ยอมกินนมผง ทำไงดี? 6 วิธีทำให้ลูกยอมกินนมผง
กินนมแล้วท้องเสีย อย่าปล่อยไว้นาน อาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการลูกน้อย