กินฝรั่งตอนท้องได้ไหม อันตรายรึเปล่า

กินฝรั่งตอนท้องได้ไหม อันตรายรึเปล่า ฝรั่งจะทำให้อาหารไม่ย่อยรึเปล่า หรือกินมากไปจะทำให้ท้องเสียไหมนะ แล้วฝรั่งมีประโยชน์ยังไงต่อแม่และลูกบ้างนะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

กินฝรั่งตอนท้องได้ไหม อันตรายรึเปล่า

กินฝรั่งตอนท้องได้ไหม อันตรายรึเปล่า ไหน ๆ ฝรั่งเองก็เป็นผลไม้ที่ราคาไม่แพง และ มีให้กินตลอดทั้งปี แต่รู้ไหมคะว่า ฝรั่งเองก็มีทั้งคุณและโทษเช่นกัน

กินฝรั่งต้องระวังอะไรบ้าง

  • ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์ หรือ กากใยอาหารเยอะ ดังนั้น การกินฝรั่งสำหรับคุณแม่บางคน อาจจะทำให้ถ่ายท้องมากกว่าปกติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝรั่งที่สุกจนเนื้อเริ่มเละ
  • การกินฝรั่งดิบ หรือ ฝรั่งที่ยังไม่สุก อาจจะทำให้ปวดฟัน หรือทำให้ฟันมีปัญหาได้
  • ควรล้างฝรั่งให้สะอาด หลาย ๆ น้ำได้ยิ่งดี เนื่องจากอาจมีการพ้นยาฆ่าแมลง หรือ การใช้สารเคมีในการเพาะปลูก
  • ไม่ควรกินสารสกัดจากฝรั่งที่เป็นรูปแบบอื่น ๆ ควรจะกินฝรั่งในรูปแบบเดิม คือ เป็นผลไม้ เป็นลูกเท่านั้น
  • สำหรับคุณแม่บางคนหากกินฝรั่งแล้วท้องอืด หรือ ทำให้ลมเยอะขึ้น อยากกินก็กินแค่นิดหน่อยพอนะคะ

ฝรั่ง มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ต่อตนเองและลูกในท้อง

14 ข้อดี ของการกินฝรั่งตอนท้อง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ฝรั่ง เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่ และ ลูกที่อยู่ในท้องนะคะ คุณแม่สบายใจได้ หากจะกินฝรั่ง แม้ว่าจะท้องอยู่ อ่อ ฝรั่งเป็นผลนะคะ

1. เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

ฝรั่งมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ปกป้องร่างกายคุณแม่จากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญอีกด้วยค่ะ

2. ช่วยปรับสมดุลระดับความดันเลือด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หากคุณแม่มีความดันเลือดสูงในระหว่างที่ตั้งครรภ์ สารอาหารในฝรั่ง จะเข้าไปช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงจนเกินไป ทำให้ความเสี่ยงแท้ง หรือ คลอดก่อนกำหนดลดลงค่ะ

3. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

แม้ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์จะเป็นเรื่องที่คุณแม่หลาย ๆ คนต้องเจอ โดยเฉพาะ ประมาณสัปดาห์ที่ 24 ของคุณแม่ แต่การกินฝรั่ง จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่ ให้ห่างไกลจากภาวะเบาหวานได้ค่ะ

4. ป้องกันท้องผูก และ ริดสีดวง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อีกหนึ่งอาการน่ารำคาญ ที่คุณแม่หลายๆ คนไม่อยากเจอ และ เนื่องจากฝรั่งมีกากใยสูง จะทำให้คุณแม่ถ่ายคล่องขึ้น และป้องกันไม่ให้คุณแม่ท้องผูก หรือ เป็นริดสีดวงในช่วงตั้งครรภ์

5. ช่วยระบบย่อย

ฝรั่ง ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี ป้องกันอาการแพ้ท้องคลื่นไส้ กรดไหลย้อน

นอกจากฝรั่งแล้ว อย่าลืมทานผลไม้ชนิดอื่นๆ ด้วยนะคะ

6. ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง

ฝรั่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ แม้การเกิดมะเร็งในคนท้องจะมีความเสี่ยงแค่ 1 ต่อ 1,000 ก็ตาม แต่ยังไง ๆ การป้องกันก็ย่อมดีกว่า นอกจากนี้ ฝรั่งยังมีสารไลโคปีน และ วิตามินช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วยค่ะ

7. บำรุงสายตา

วิตามินเอในฝรั่ง ช่วยป้องกันอาการตาพร่ามัว ช่วยไม่ให้ตาบอดได้ และ ยังช่วยในการมองเห็น ทั้งตัวคุณแม่เอง และ ลูกน้อยในครรภ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

8. ช่วยในการทำงานของระบบประสาทในทารก

ฝรั่งมีกรดโฟลิค และ วิตามินบี 9 ช่วยในการพัฒนาสมอง และ ระบบประสาท

9. ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรค

วิตามิน C E carotenoids, isoflavonoids และ polyphenols ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อโรค และ การติดเชื้อ ลดโอกาสที่คุณแม่จะป่วยลงได้ค่ะ

10. คลายเครียด

ฝรั่งมีแมกนีเซียม ช่วยออกฤทธิ์ผ่อนคลายประสาท และ กล้ามเนื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเครียด ร่างกายจะปล่อยคอร์ติซอล ซึ่งมีผลทำให้เครียดไปกันใหญ่ ฝรั่งจึงช่วยลดความเครียดลงได้ค่ะ

11. ควบคุมคอเลสเตอรอลในเลือด

ไฟเบอร์ หรือ กากใยของฝรั่งนั้น ดีต่อหัวใจคุณแม่นะคะ เพราะช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และ หลอดเลือด

12. ช่วยบรรเทาภาวะโลหิตจาง

ตอนที่ท้อง คุณแม่จะมีความต้องการธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น ฝรั่งมีปริมาณธาตุเหล็กที่เพียงพอจะช่วยรักษาระดับฮีโมโกลบินเอาไว้ได้ค่ะ

13. มีแคลเซียม

ในฝรั่งมีแคลเซียมจากธรรมชาติ โดยฝรั่งหนึ่งผล ประมาณ 165 กรัม จะมีแคลเซียมประมาณ 30 มิลลิกรัมค่ะ

14. ลดอาการแพ้ท้อง

หากคุณแม่รู้สึกคลื่นไส้แพ้ท้อง ให้กินฝรั่งค่ะ การกินฝรั่งทันที จะสามารถป้องกันการอาเจียนได้

The Asianparent Thailand เพื่อลงทะเบียนรับการดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ช่วงไตรมาสแรก มาติดตามพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด ลูกโตขึ้นแค่ไหนกันนะ ไตรมาสที่ 2  มาฟังเสียงลูกน้อย นับว่าหนึ่งวันลูกดิ้นไหมนะ และลูกดิ้นวันละกี่ครั้งด้วยแอพพลิเคชั่น The Asianparent  นี่เป็นแค่ตัวอย่างกิจกรรมบนแอพพลิเคชั่นในส่วนแรก เพราะคุณแม่จะได้รับการดูแลทั้งอาหารการกินโดยการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญ ว่าควรทานอะไรบ้างในแต่ละช่วงอายุครรภ์ ยาที่เป็นอันตรายชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทาน กิจกรรมใดบ้างที่ทำได้ หรือ ทำไม่ได้ เคล็ดลับการตั้งชื่อลูกอย่างไรให้เป็นมงคลทั้งเด็กหญิง และ เด็กชาย รวมถึงเตรียมแผนการล่วงหน้าถึงอนาคต การเตรียมคลอด และ การดูแลตนเองหลังคลอด ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องการ


source หรือ บทความอ้างอิง : Momjunction

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

เหตุผลที่ไม่ควรกินฝรั่งตอนท้อง

14 ผลไม้ที่ควรกินตอนท้อง กินแล้วสุขภาพดีต่อแม่และลูกที่จะเกิด