กินฝรั่งตอนท้องได้ไหม อันตรายรึเปล่า
กินฝรั่งตอนท้องได้ไหม อันตรายรึเปล่า ไหน ๆ ฝรั่งเองก็เป็นผลไม้ที่ราคาไม่แพง และ มีให้กินตลอดทั้งปี แต่รู้ไหมคะว่า ฝรั่งเองก็มีทั้งคุณและโทษเช่นกัน
กินฝรั่งต้องระวังอะไรบ้าง
- ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์ หรือ กากใยอาหารเยอะ ดังนั้น การกินฝรั่งสำหรับคุณแม่บางคน อาจจะทำให้ถ่ายท้องมากกว่าปกติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝรั่งที่สุกจนเนื้อเริ่มเละ
- การกินฝรั่งดิบ หรือ ฝรั่งที่ยังไม่สุก อาจจะทำให้ปวดฟัน หรือทำให้ฟันมีปัญหาได้
- ควรล้างฝรั่งให้สะอาด หลาย ๆ น้ำได้ยิ่งดี เนื่องจากอาจมีการพ้นยาฆ่าแมลง หรือ การใช้สารเคมีในการเพาะปลูก
- ไม่ควรกินสารสกัดจากฝรั่งที่เป็นรูปแบบอื่น ๆ ควรจะกินฝรั่งในรูปแบบเดิม คือ เป็นผลไม้ เป็นลูกเท่านั้น
- สำหรับคุณแม่บางคนหากกินฝรั่งแล้วท้องอืด หรือ ทำให้ลมเยอะขึ้น อยากกินก็กินแค่นิดหน่อยพอนะคะ
14 ข้อดี ของการกินฝรั่งตอนท้อง
ฝรั่ง เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่ และ ลูกที่อยู่ในท้องนะคะ คุณแม่สบายใจได้ หากจะกินฝรั่ง แม้ว่าจะท้องอยู่ อ่อ ฝรั่งเป็นผลนะคะ
1. เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
ฝรั่งมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ปกป้องร่างกายคุณแม่จากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญอีกด้วยค่ะ
2. ช่วยปรับสมดุลระดับความดันเลือด
หากคุณแม่มีความดันเลือดสูงในระหว่างที่ตั้งครรภ์ สารอาหารในฝรั่ง จะเข้าไปช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงจนเกินไป ทำให้ความเสี่ยงแท้ง หรือ คลอดก่อนกำหนดลดลงค่ะ
3. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
แม้ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์จะเป็นเรื่องที่คุณแม่หลาย ๆ คนต้องเจอ โดยเฉพาะ ประมาณสัปดาห์ที่ 24 ของคุณแม่ แต่การกินฝรั่ง จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่ ให้ห่างไกลจากภาวะเบาหวานได้ค่ะ
4. ป้องกันท้องผูก และ ริดสีดวง
อีกหนึ่งอาการน่ารำคาญ ที่คุณแม่หลายๆ คนไม่อยากเจอ และ เนื่องจากฝรั่งมีกากใยสูง จะทำให้คุณแม่ถ่ายคล่องขึ้น และป้องกันไม่ให้คุณแม่ท้องผูก หรือ เป็นริดสีดวงในช่วงตั้งครรภ์
5. ช่วยระบบย่อย
ฝรั่ง ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี ป้องกันอาการแพ้ท้องคลื่นไส้ กรดไหลย้อน
6. ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง
ฝรั่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ แม้การเกิดมะเร็งในคนท้องจะมีความเสี่ยงแค่ 1 ต่อ 1,000 ก็ตาม แต่ยังไง ๆ การป้องกันก็ย่อมดีกว่า นอกจากนี้ ฝรั่งยังมีสารไลโคปีน และ วิตามินช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วยค่ะ
7. บำรุงสายตา
วิตามินเอในฝรั่ง ช่วยป้องกันอาการตาพร่ามัว ช่วยไม่ให้ตาบอดได้ และ ยังช่วยในการมองเห็น ทั้งตัวคุณแม่เอง และ ลูกน้อยในครรภ์
8. ช่วยในการทำงานของระบบประสาทในทารก
ฝรั่งมีกรดโฟลิค และ วิตามินบี 9 ช่วยในการพัฒนาสมอง และ ระบบประสาท
9. ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรค
วิตามิน C E carotenoids, isoflavonoids และ polyphenols ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อโรค และ การติดเชื้อ ลดโอกาสที่คุณแม่จะป่วยลงได้ค่ะ
10. คลายเครียด
ฝรั่งมีแมกนีเซียม ช่วยออกฤทธิ์ผ่อนคลายประสาท และ กล้ามเนื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเครียด ร่างกายจะปล่อยคอร์ติซอล ซึ่งมีผลทำให้เครียดไปกันใหญ่ ฝรั่งจึงช่วยลดความเครียดลงได้ค่ะ
11. ควบคุมคอเลสเตอรอลในเลือด
ไฟเบอร์ หรือ กากใยของฝรั่งนั้น ดีต่อหัวใจคุณแม่นะคะ เพราะช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และ หลอดเลือด
12. ช่วยบรรเทาภาวะโลหิตจาง
ตอนที่ท้อง คุณแม่จะมีความต้องการธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น ฝรั่งมีปริมาณธาตุเหล็กที่เพียงพอจะช่วยรักษาระดับฮีโมโกลบินเอาไว้ได้ค่ะ
13. มีแคลเซียม
ในฝรั่งมีแคลเซียมจากธรรมชาติ โดยฝรั่งหนึ่งผล ประมาณ 165 กรัม จะมีแคลเซียมประมาณ 30 มิลลิกรัมค่ะ
14. ลดอาการแพ้ท้อง
หากคุณแม่รู้สึกคลื่นไส้แพ้ท้อง ให้กินฝรั่งค่ะ การกินฝรั่งทันที จะสามารถป้องกันการอาเจียนได้
The Asianparent Thailand เพื่อลงทะเบียนรับการดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ช่วงไตรมาสแรก มาติดตามพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด ลูกโตขึ้นแค่ไหนกันนะ ไตรมาสที่ 2 มาฟังเสียงลูกน้อย นับว่าหนึ่งวันลูกดิ้นไหมนะ และลูกดิ้นวันละกี่ครั้งด้วยแอพพลิเคชั่น The Asianparent นี่เป็นแค่ตัวอย่างกิจกรรมบนแอพพลิเคชั่นในส่วนแรก เพราะคุณแม่จะได้รับการดูแลทั้งอาหารการกินโดยการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญ ว่าควรทานอะไรบ้างในแต่ละช่วงอายุครรภ์ ยาที่เป็นอันตรายชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทาน กิจกรรมใดบ้างที่ทำได้ หรือ ทำไม่ได้ เคล็ดลับการตั้งชื่อลูกอย่างไรให้เป็นมงคลทั้งเด็กหญิง และ เด็กชาย รวมถึงเตรียมแผนการล่วงหน้าถึงอนาคต การเตรียมคลอด และ การดูแลตนเองหลังคลอด ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องการ
source หรือ บทความอ้างอิง : Momjunction
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เหตุผลที่ไม่ควรกินฝรั่งตอนท้อง
14 ผลไม้ที่ควรกินตอนท้อง กินแล้วสุขภาพดีต่อแม่และลูกที่จะเกิด