การมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย โดยมีสาเหตุอาจมาจากหลายสาเหตุ ซึ่งแน่นอนว่าการที่คุณแม่ท้องต้องเผชิญกับการมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ จะต้องทำให้คุณแม่กังวล วันนี้เรามาหาคำตอบกันว่า มีเลือดออกตอนท้อง 1 เดือน อาการแบบนี้อันตรายหรือเปล่า
เลือดออกขณะตั้งครรภ์
การมีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุโดยทั่วไปที่ไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่โดยมากแล้วเลือดออกตอนท้องมักจะเป็นหนึ่งในอาการผิดปกติของการตั้งครรภ์ คุณแม่จึงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการสาเหตุที่แท้จริง และรักษาได้อย่างถูกวิธี
ที่มา : enfababy.com, bumrungrad.com
มีเลือดออกตอนท้อง 1 เดือน อันตรายไหม
การมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ 1 เดือน อาจเป็นสัญญาณอันตราย แต่ก็อาจไม่ได้อันตรายเสมอไป โดยการมีเลือดออกเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ แต่ในขณะเดียวกัน นั่นก็เป็นสัญญาณของภาวะแท้งคุกคาม ภาวะแท้งลูก หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ คุณแม่ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง โดยแพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจอัลตราซาวด์ ตรวจเลือด เพื่อหาสาเหตุของเลือดออก
สาเหตุที่พบบ่อยของการมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์
- การฝังตัวของตัวอ่อน: มักเกิดขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังจากการตกไข่ โดยเลือดที่ออกมักมีสีชมพูหรือสีน้ำตาลอ่อนไม่มาก และไม่มีอาการปวดท้องน้อย
- เลือดออกจากปากมดลูก: มักเกิดขึ้นหลังจากมีเพศสัมพันธ์ การตรวจภายใน ซึ่งเลือดที่ออกมักมีสีแดงสด ปริมาณน้อย และไม่มีอาการปวดท้องน้อย
- ภาวะแท้งคุกคาม: เลือดออกมักมีสีแดงสดหรือสีน้ำตาลเข้ม อาจมีปริมาณมากหรือน้อย และอาจมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย
- ภาวะแท้งลูก: เลือดออกมักมีปริมาณมาก อาจมีก้อนเนื้อหรือชิ้นส่วนของทารกหลุดออกมา อาจมีอาการปวดท้องน้อยที่รุนแรง
- ภาวะแท้งค้าง: ทารกเสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่หลุดออกมาจากมดลูก มักมีเลือดออกสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ปริมาณน้อย อาจมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย
- ภาวะรกเกาะต่ำ: รกเกาะต่ำในมดลูก มักมีเลือดออกสด ๆ ปริมาณมาก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สองหรือสามของการตั้งครรภ์
- ภาวะก่อนคลอด: มักเกิดขึ้นในช่วงปลายของการตั้งครรภ์ เลือดออกมักมีสีแดงสด ปริมาณมาก อาจมีอาการปวดท้องน้อย
การรักษาอาการเลือดออกตอนท้อง
การรักษา อาการเลือดออก ขณะตั้งครรภ์ นั้นขึ้นอยู่กับ สาเหตุของการมีเลือดออก ซึ่งแพทย์จะวินิจฉัยจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจทำการตรวจเพิ่มเติม สำหรับแนวทางการรักษาเบื้องต้น มีดังนี้
- การรับประทานยา: แพทย์อาจสั่งยาฮอร์โมนเพื่อหยุดเลือดออก ยาแก้อักเสบ หรือยาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการมีเลือดออก
- การพักผ่อน: แพทย์อาจแนะนำให้นอนพักผ่อน งดมีเพศสัมพันธ์ งดออกกำลังกายหนัก ๆ
- การผ่าตัด: แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดขูดมดลูก กรณีภาวะแท้งลูก ภาวะแท้งค้าง หรือภาวะรกเกาะต่ำ
- การติดตามผล: แพทย์จะมีการนัดติดตามผลอาการ ตรวจอัลตราซาวด์ หรือตรวจเลือด เพื่อดูว่าที่เลือดออกนั้นหยุดหรือไม่ และทารกในครรภ์แข็งแรงดีหรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น การรักษาที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรง และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
วิธีป้องกันเบื้องต้น ไม่ให้เกิดอาการเลือดออกตอนท้อง
การมีเลือดออก เป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ ซึ่งสำหรับวิธีป้องกันเบื้องต้น สามารถทำได้ดังนี้
ก่อนตั้งครรภ์
- ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์: เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย และรักษาโรคประจำตัวให้หายก่อนตั้งครรภ์
- ทานวิตามินโฟเลต: ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดข้อบกพร่องของท่อประสาทในทารก
- ควบคุมน้ำหนัก: ไม่ควรอ้วนหรือผอมจนเกินไป
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: เพราะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งของคุณแม่และของทารกในครรภ์
- หลีกเลี่ยงสารเสพติด: ส่งผลเสียต่อสุขภาพของทารกในครรภ์
ระหว่างตั้งครรภ์
- ฝึกสุขอนามัยที่ดี: ล้างมือให้สะอาดบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย
- ทานอาหารที่มีประโยชน์: ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ ธัญพืช และโปรตีน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น เดิน ว่ายน้ำ โยคะ
- พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
- หลีกเลี่ยงความเครียด: หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น ฟังเพลง นวด ฝึกสมาธิ
- งดมีเพศสัมพันธ์: ในกรณีมีเลือดออก หรือแพทย์สั่งห้าม
- แจ้งแพทย์ทันที: หากพบว่ามีเลือดออก ปวดท้องน้อย หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
การปฏิบัติเหล่านี้ อาจช่วยลดความเสี่ยงของการมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100% โดยหากคุณแม่พบว่ามีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ คุณแม่ควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับแต่ละบุคคล
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เลือดออกช่องคลอดตั้งครรภ์ เลือดออกตอนท้อง กับสาเหตุที่คุณต้องรู้
เลือดล้างหน้ากับประจำเดือน ต่างกันอย่างไร มาช่วงไหน หมายความว่าอะไร
11 สิ่งที่แม่ท้องต้องรู้ น้ำหนักตอนท้อง แท้งคุกคาม วิธีเร่งคลอด โดยคุณหมอสูติ