แม่ต้องรู้ก่อนให้ลูกกิน นมผงทารก นมผงดัดแปลง คืออะไร และสูตรไหนถึงจะเหมาะกับวัยลูก แล้วถ้าลูกเกิดแพ้นมผงล่ะ แม่จะรู้ได้ยังไง
นมแม่ดีที่สุด… เพื่อให้ทารกตั้งแต่แรกเกิดมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แม่ควรให้ลูกกินนมแม่ เพราะ นมแม่มีสารที่เป็นภูมิคุ้มกันต่อโรคอยู่มากมาย ทั้งยังเสริมสร้างความรัก ความผูกพัน ถักทอสายใยรัก ผ่านการโอบอุ้ม ลูกได้เข้าเต้ารับไออุ่นจากแม่ สร้างพื้นฐานชีวิตที่ดีให้กับลูกรักตั้งแต่แรกเกิด
แต่สำหรับคุณแม่บางท่าน ที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ ลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือ สอบถามทางคลีนิกนมแม่ เพื่อขอข้อมูล หาแนวทางแก้ไขอย่างถูกจุดเสียก่อน
นมผงทารก นมผงดัดแปลง สูตรต่าง ๆ
หากจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องให้ลูกกินนมผง แม่ต้องศึกษาก่อนว่า นมผงดัดแปลงสูตรต่าง ๆ แตกต่างกันอย่างไร
รศ. พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน อธิบายถึงนมผงดัดแปลงสูตรต่าง ๆ ไว้ว่า
นมผงดัดแปลงสำหรับทารก (นมผงสูตร 1)
นมผงดัดแปลงสำหรับทารก ( นมผงสูตร 1 ) เป็นนมผงที่ เหมาะสำหรับทารก วัย 0-12 เดือน หากไม่สามารถให้นมแม่ได้ และพยายามแก้ไขมาแล้วทุกวิธี จนต้องให้นมผงเสริม ก็ควรเลือกนมผงสูตร 1 สำหรับทารกที่อยู่ในวัยไม่เกิน 1 ปี
นมผงดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับทารกและเด็กเล็ก (นมผงสูตร 2)
นมผงดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับทารกและเด็กเล็ก ( นมผงสูตร 2 ) เป็นนมผงที่ เหมาะสำหรับเด็กที่อายุ 6 เดือนถึง 3 ปี มีปริมาณโปรตีนเพิ่มขึ้นจากนมผงสูตร 1 มาก โดยมีสัดส่วนของโปรตีนที่ย่อยยากเพิ่มขึ้น แคลเซียมและฟอสฟอรัส เกลือโซเดียม เพิ่มขึ้นจากนมผงสูตร 1
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจสงสัยว่า หากเดิมทานนมผงสูตร 1 อยู่ หลังจากลูกอายุ 6 เดือน จะต้องรีบเปลี่ยนเป็นนมผงสูตร 2 หรือไม่ ? ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ในช่วงอายุ 6-12 เดือนนั้น สามารถจะใช้นมผงสูตร 1 หรือ 2 ก็ได้
แม้ว่านมผงสูตร 1 จะมีปริมาณโปรตีนน้อยกว่าสูตร 2 แต่เนื่องจากทารกในวัยนี้ สมควรได้รับอาหารตามวัยที่เหมาะสม ซึ่งมีปริมาณโปรตีนที่เพียงพออยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องทานนม ที่มีโปรตีนสูงมากแต่อย่างใด นอกจากนั้นนมผงสูตร 2 อาจจะทำให้ลูกมีโอกาสเกิดปัญหาท้องผูกได้มากกว่านมผงสูตร 1 อีกด้วยนะคะ
นมผงดัดแปลงสูตร 3 และสูตร 4
เป็นนมผงที่ระบุความแตกต่างกันเล็กน้อย ใน 2 สูตรนี้ คือนมผงสูตร 3 สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปี ส่วนนมผงสูตร 4 สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 3 ปี จนถึงผู้ใหญ่ แต่แท้ที่จริงแล้ว นมผงทั้ง 2 สูตรนี้ก็คือนมวัวที่มาทำให้เป็นผง จึงแทบไม่มีความแตกต่างจากนมวัวธรรมดาที่เราดื่มกันจากกล่อง ขวด หรือถุง กันในทุกวันนี้ เพื่อให้ได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอนั่นเอง ดังนั้น เมื่อเด็กอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป หากไม่สามารถทานนมแม่ได้ ก็สามารถทานนมธรรมดา หรือนมผงได้ทั้ง 2 สูตร
วิธีชงนมผงที่ถูกต้อง
- ต้มน้ำให้เดือด แต่ห้ามใช้น้ำเดือดในการชงนมให้ลูกนะคะ เพราะ เราต้มน้ำเพื่อให้สุก สะอาด หลังจากน้ำเดือดแล้ว ให้ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องค่ะ
- พอน้ำเริ่มอุ่น ๆ ก็ใส่นมลงไป ตามคำแนะนำของแต่ละผลิตภัณฑ์
- ปิดฝาแล้วแกว่งเบา ๆ ห้ามเขย่านะคะ! ใช้มือหมุน ๆ ก็พอค่ะ แค่นี้นมผงก็ละลายแล้ว
- อย่าเพิ่งให้ลูกทานทันที พ่อแม่ คนเลี้ยง ควรเช็คอุณหภูมิก่อนว่า ร้อนเกินไปหรือเปล่า ด้วยการหยดนมลงท้องแขน หรือตรงข้อมือ
- เมื่อมั่นใจแล้วว่า อุณหภูมินมอุ่นพอดี ไม่ร้อนลวกปากลูก ก็เช็คสักหน่อยว่า นมที่ชงนั้นเกิดฟองหรือไม่ ถ้ามีฟองมาก ตั้งทิ้งไว้ให้ฟองเริ่มหาย ค่อยป้อนนมลูก
- สำหรับนมผงที่ชงแล้ว จะเสียไว แม่ต้องศึกษาวิธีเก็บนมผงอย่างละเอียด ทางที่ดี เมื่อชงนมแล้ว อุณหภูมิอุ่นพอดี ก็ควรป้อนลูกทันที ไม่ควรวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนาน ๆ
***ข้อควรระวัง คุณพ่อ คุณแม่ หรือคนดูแล ควรล้างมือให้สะอาด และ ทำความสะอาดขวดนม จุกนม แล้วอย่าลืม นึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อฆ่าเชื้อโรค หรือต้มขวดนม จุกนม ก่อนจะเริ่มชงนมให้ลูกนะคะ***
อ่าน วิธีล้างขวดนม ล้างอย่างไร ฆ่าเชื้อแบบไหน ให้สะอาด ไม่ให้มีคราบเหลือง
สังเกตว่าลูกแพ้นมผงหรือไม่
เด็กแต่ละคนจะแสดงอาการแพ้ต่างกันไป จึงจำเป็นต้องสังเกตสัญญาณบ่งชี้ต่อไปนี้เพื่อตัดสินว่า ลูกน้อยอาจแพ้นมผงสำหรับทารกหรือไม่
- บ้วนนมทิ้งบ่อยเกินไป หรืออาเจียนพุ่งออกมาอย่างแรง
- มีลมในท้องและรู้สึกไม่สบายท้องหลังดื่มนม
- คัดจมูกโดยไม่มีอาการร่วมอื่น ๆ ของโรคหวัดหรือไซนัสอักเสบ
- เกิดผื่นและ/หรือลมพิษบนผิวหนัง (ผื่นเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย)
- ความเปลี่ยนแปลงในการขับถ่าย ควรคำนึงด้วยว่า อาการแพ้ในเด็กทารก อาจไม่แสดงให้เห็นชัดในทันที
- น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น หรือกระทั่งน้ำหนักลดลง
หากลูกมีอาการผิดปกติ คล้ายกับอาการแพ้ ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ