X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

นั่งท่า W ท่านั่งสบายๆ แต่อาจเป็นอันตรายต่อลูก

บทความ 3 นาที
นั่งท่า W  ท่านั่งสบายๆ แต่อาจเป็นอันตรายต่อลูก

คุณแม่เคยสังเกตไหมคะว่า ลูกน้อยของเราชอบนั่งท่าไหน ใช่ท่า W หรือเปล่า? ในเด็กวัย 2-6 ขวบ ชอบนั่งท่านี้เพราะเป็นท่าที่สบาย ไม่ต้องออกแรงทรงตัวมาก ฐานการรับน้ำหนักทั้งหมดอยู่ที่สะโพก แต่ทำไมคุณหมอจึงไม่แนะนำให้ลูกนั่งท่า W เราไปหาคำตอบพร้อมกันค่ะ

นั่งท่า W คืออะไร ทำไมเด็กถึงไม่ควรนั่ง วิธีการนั่งที่ถูกต้องควรทารกควรเป็นแบบไหน ข้อเสียของท่านั่ง W ที่พ่อแม่ควรรู้ ก่อนที่จะสายเกินไป

 

ท่านั่ง W คืออะไร

ท่านั่ง W sitting คือท่าที่เด็กนั่งกับพื้น โดยสะโพกอยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสอง เข่างอ ขาแบะออกด้านข้าง จะสังเกตเห็นเป็นรูปตัวอักษร W หากเด็กๆ นั่งท่านี้เป็นประจำจะติดเป็นนิสัย เพราะเป็นท่าที่สบาย ไม่เอนล้มง่าย เด็กจะงอตัวเล็กน้อย ทำให้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายต่ำลง ด้วยฐานที่กว้างทำให้การนั่งมั่นคง สะดวกต่อการเล่น ไม่จำเป็นต้องคอยรักษาการทรงตัวขณะเล่น

ทำไมไม่ควรให้ลูก นั่งท่า W

การนั่งท่า W ส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางกายของเด็ก อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อสะโพก เข่า และข้อต่อของเด็ก  เด็กอาจขาดโอกาสฝึกพัฒนากล้ามเนื้อส่วนลำตัวหรือการเคลื่อนไหวเอื้อมซ้ายขวาเวลานั่งท่านี้ เด็กอาจมีปัญหาด้านสมดุลของร่างกาย กล้ามเนื้อมัดเล็กและการเคลื่อนไหวที่ไปพร้อมกัน นอกจากนี้เด็กอาจมีปัญหาในการเดินและการทรงตัว

  • การนั่งท่า W เป็นท่าที่เด็กไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อหลังในการทรงท่านั่ง แต่ใช้กล้ามเนื้อสะโพกแทน ซึ่งการทรงตัวเป็นพื้นฐานสำหรับพัฒนาการเคลื่อนไหวขั้นสูงต่อไปในอนาคต เช่น การทรงตัวเวลาที่โดนผลักหรือโดนเบียด การทรงตัวเวลายืนบนพื้นที่สูงต่ำต่างระดับ เวลาที่ต้องนั่งและเขียนหนังสือบนโต๊ะไปด้วย หากเด็กมีกล้ามเนื้อหลังที่ไม่แข็งแรง อาจมีปัญหาการเดินขาขวิดกัน หรือ หกล้มบ่อยๆ ทำให้มีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวที่ช้ากว่าเด็กคนอื่น
  • การนั่งท่า W จะทำให้เด็กไม่สามารถหมุนเอี้ยวลำตัว หรือเอื้อมไปหยิบของเล่นด้านข้างได้ ซึ่งเป็นสิ่งจะเป็นที่เด็กควรสามารถเอื้อมและหมุนลำตัวได้ หากเด็กไม่สามารถพัฒนาสหสัมพันธ์การใช้ร่างกายทั้งสองซีกได้ อาจทำให้เด็กขาดทักษะต่างๆ ในอนาคต เช่น การพัฒนามือข้างที่ถนัด การกระโดดขาเดียว การโยนรับบอล การเตะบอล เป็นต้น
  • การนั่งท่า W เป็นท่าที่ทำให้ข้อสะโพกอยู่ในตำแหน่งที่ถูกบิดออกจากตำแหน่งเบ้า เป็นอันตรายต่อข้อสะโพกในระยะยาว ทำให้อาจมีปัญหาปวดข้อ ปวดหลัง ปวดสะโพก หรือสะโพกเคลื่อนเมื่อโตขึ้น
  • การนั่งท่า W เป็นท่าที่ทำให้กล้ามเนื้อขาบางมัดมีการผิดรูป ส่งผลให้มีปัญหาการเดินผิดปกติ คือมีปลายนิ้วเท่าบิดเข้าด้านใน แทนที่จะชี้ตรงไปข้างหน้า ที่เรียกว่า (In-Toeing) พบบ่อยในเด็กอายุ 4 – 6 ปี เมื่อสังเกตจะเห็นว่าเด็กเดินปลายเท้าบิดเข้าใน  เวลายืนลูกสะบ้าบิดเข้ามาด้านใน การยืนเดินแบบนี้มักทำความลำบากใจให้พ่อแม่ กลัวว่าลูกจะพิการ อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กโตขึ้น ก็จะค่อยๆ ปรับเป็นปกติเอง ในรายที่เป็นมากอาจต้องได้รับการแก้ไขโดย การตัดรองเท้าพิเศษเพื่อดัดรูปเท้า หรือทำการผ่าตัดหมุนกระดูกต้นขาจัด ให้ปลายเท้าอยู่ในท่าปกติเมื่อเด็กอายุ 9-10 ปี
  • การนั่งท่า W ทำให้กระดูกขาท่อนบนบิดเข้าด้านในมากผิดปกติ โดยจะเพิ่มแรงกดบนสะโพก หัวเข่าข้อเท้า ทำให้สะโพกบิดเข้าด้านใน  ซึ่งการที่กระดูกขาท่อนบนบิดเข้าด้านในมากผิดปกติ (Internal Femoral Torsion)  เนื่องจากปกติคอกระดูกต้นขา จะต้องบิดมาข้างหน้า  โดยในเด็กเล็กจะบิดมาข้างหน้า  40  องศา ในผู้ใหญ่ ถ้าคอกระดูกบิดมาข้างหน้ามาก และหัวกระดูกอยู่ในเบ้าข้อสะโพก ก็จะทำให้ขาทั้งขา บิดเข้ามาด้านใน เวลาเดินต้นขาเท้าสองข้างจะบิดเข้าด้านในเหมือนเป็ด
  • งานวิจัยชิ้นหนึ่งแนะนำว่า การนั่งท่า W sitting ในเด็กก่อนวัยเรียน อาจเพิ่มโอกาสทำให้เด็กเท้าแบนทั้งสองข้างอีกด้วย (European Journal of Pediatrics, Chen KC, 2010)

เมื่อไปพบคุณหมอ คุณหมอจะทำการตรวจ ในท่านอนคว่ำ งอเข่า 90 องศา ข้อสะโพกเหยียด ซึ่งปกติจะหมุนขาเข้าใน และหมุนออกนอกได้ใกล้เคียงกันประมาณ 45 องศา ในกรณีที่หมุนกระดูกต้นขาเข้าในได้มาก (80 องศา) หมุนต้นขาออกนอกได้ 10 องศา แสดงว่ามีการบิดของคอกระดูกสะโพกมาข้างหน้ามาก

นั่งท่า w

 

วิธีป้องกันไม่ให้ลูกนั่งท่า W

วิธีป้องกันไม่ให้ลูกมีปัญหาการนั่งท่า w คือ ต้องคอยระวังไม่เปิดโอกาสให้ลูกนั่งท่านี้บ่อยๆ คอยจัดท่าให้ลูกนั่งในท่าที่เหมาะสมแทน และพยายามแก้ไขทุกครั้งที่ลูกนั่งผิดท่า

  • นั่งเหยียดขาตรงไปด้านหน้า
  • นั่งห้อยขาบนเก้าอี้
  • นั่งขัดสมาธิ
  • นั่งท่าวงแหวน (ฝ่าเท้าสองข้างปะกบกันอยู่ข้างหน้า)
  • นั่งพับเพียบโดยสลับซ้ายขวาให้สมดุลกันแทน

คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยบอกลูกทุกครั้งว่าให้นั่งเหยียดขาไปข้างหน้า พร้อมกับจัดท่านั่งที่ถูกต้องให้ลูกทุกครั้ง เด็กวัยเตาะแตะเป็นวัยที่พอจะเข้าใจและทำตามคำพูดของพ่อแม่ได้แล้ว หากคุณพ่อคุณแม่หมั่นบอกเขาเป็นประจำ และจัดท่านั่งให้เขาทุกครั้ง ลูกก็จะเคยชินไปเอง และไม่ติดนั่งท่า W อีก

ภาพประกอบ: https://www.under5s.co.nz/shop/Hot+Topics/Child+Development/W-sitting.html

 

บทความจากพันธมิตร
LPR โพรไบโอติก เกรด A กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ลูกรักแข็งแรงพร้อมเรียนรู้
LPR โพรไบโอติก เกรด A กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ลูกรักแข็งแรงพร้อมเรียนรู้
แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ
แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ
มารู้จักกับ Phenomenon-Based Learning กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการศึกษานอกห้องเรียนมากกว่าการท่องจำ
มารู้จักกับ Phenomenon-Based Learning กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการศึกษานอกห้องเรียนมากกว่าการท่องจำ
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

14 พัฒนาการลูกวัยเตาะแตะที่หาไม่ได้ในหนังสือ

วิธีสังเกตเด็กขาโก่ง แบบไหนปกติ? แบบไหนผิดปกติ?

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • นั่งท่า W ท่านั่งสบายๆ แต่อาจเป็นอันตรายต่อลูก
แชร์ :
  • ลูกขา..อย่านั่งขาแบะ ลูกชอบนั่งท่า W ดูชิลๆก็จริง แต่มันแย่กว่าที่คิด!!

    ลูกขา..อย่านั่งขาแบะ ลูกชอบนั่งท่า W ดูชิลๆก็จริง แต่มันแย่กว่าที่คิด!!

  • ทำไมไม่ควรห้ามลูกกินขนม ?

    ทำไมไม่ควรห้ามลูกกินขนม ?

  • อยากให้ลูกสูง 180 เป็นไปได้ไหมถ้าพ่อแม่ไม่สูง พร้อมสูตรทำนายส่วนสูงลูก

    อยากให้ลูกสูง 180 เป็นไปได้ไหมถ้าพ่อแม่ไม่สูง พร้อมสูตรทำนายส่วนสูงลูก

  • การกินยาคุม กับ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้

    การกินยาคุม กับ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้

  • ลูกขา..อย่านั่งขาแบะ ลูกชอบนั่งท่า W ดูชิลๆก็จริง แต่มันแย่กว่าที่คิด!!

    ลูกขา..อย่านั่งขาแบะ ลูกชอบนั่งท่า W ดูชิลๆก็จริง แต่มันแย่กว่าที่คิด!!

  • ทำไมไม่ควรห้ามลูกกินขนม ?

    ทำไมไม่ควรห้ามลูกกินขนม ?

  • อยากให้ลูกสูง 180 เป็นไปได้ไหมถ้าพ่อแม่ไม่สูง พร้อมสูตรทำนายส่วนสูงลูก

    อยากให้ลูกสูง 180 เป็นไปได้ไหมถ้าพ่อแม่ไม่สูง พร้อมสูตรทำนายส่วนสูงลูก

  • การกินยาคุม กับ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้

    การกินยาคุม กับ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ