เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นและเริ่มอยากทำกิจกรรมต่าง ๆ นั้น กีฬาเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่พ่อแม่อยากให้ลูกได้ใช้เวลาเพื่อพัฒนาร่างกายและทักษะของตนเอง “ปิงปอง” เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่เด็กสามารถเล่นควบคู่ไปกับการพัฒนาความสามารถและทักษะของตนเอง อีกทั้งยังสามารถเล่นได้ทุกเพศ ทุกวัยอีกด้วย
ปิงปอง คืออะไร
ปิงปอง หรือ เทเบิลเทนนิส เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองแบบคือ Swaythling Cup มีผู้เล่นครั้งละ 3 คน และ Corbillon Cup มีผู้เล่นครั้งละ 2-4 คน ซึ่งจะใช้ความคล่องแคล่วของร่างกายในการรับ-ส่งลูกอย่างมาก จึงทำให้กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลกเพราะมีความท้าทายและต้องอาศัยการใช้ไหวพริบ ปิงปอง หรือ เทเบิลเทนนิส เป็นกีฬาที่เล่นบนโต๊ะสี่เหลี่ยมยาวเหมือนกีฬาประเภทเทนนิส ซึ่งจะมีตาข่ายทอดยาวอยู่บนโต๊ะ ผู้เล่นต้องใช้ไม้ปิงปองในการรับ-ส่งลูกปิงปองตีไปมาจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ
ประวัติของปิงปอง
ปิงปองได้กำเนิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1890 หรือราว พ.ศ. 2433 ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งในอดีตนั้นไม้ที่ใช้เล่นกีฬาประเภทนี้จะทำมาจากหนังสัตว์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับไม้ตีในปัจจุบัน ส่วนลูกที่ตีนั้นจะทำมาจากพลาสติกกึ่งสังเคราะห์ ซึ่งมีน้ำหนักเบามาก โดยเวลาที่ลูกบอลกระทบกันบนโต๊ะนั้น จะทำให้เกิดเสียง “ปิก-ป๊อก” ซึ่งทำให้กีฬาชนิดนี้นั้นถูกเรียกว่าปิงปองในเวลาต่อมานั่นเอง
กีฬาปิงปองในประเทศไทยนั้น ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเริ่มเผยแพร่เมื่อไหร่และใครเป็นผู้นำเข้ามา แต่รู้กันว่าคนไทยมีความคุ้นเคยกันดี โดยกีฬาชนิดนี้มักถูกเรียกว่าปิงปอง สำหรับคนไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน จากหลักฐานทั่วไปนั้นพบว่ามีการเรียนการสอนปิงปองมายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งทำให้เกิดความนิยมต่อคนไทยในช่วงเวลาถัดไป
ประโยชน์จากการเล่นปิงปอง
- ลดการเล่นโซเชียลมีเดีย : ในยุคโลกาภิวัตน์ปัจจุบันนี้นั้น เด็กมักใช้เวลาอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ลูกไม่ได้ฝึกฝนหรือพัฒนาทักษะทางด้านร่างกายของตัวเอง การส่งเสริมให้ลูกได้เล่นปิงปองนั้นช่วยสร้างทักษะร่างกาย การสื่อสาร และการเข้าสังคมอีกด้วย ซึ่งหากลูกมีความสนใจในการเล่นกีฬาก็ช่วยลดเวลาที่อยู่หน้าจอกับมือถือและใช้เวลากับครอบครัวได้มากขึ้น
- พัฒนาสมอง : ผลการศึกษาพบว่าการเล่นปิงปองช่วยพัฒนาทักษะความจำและสมองของเด็กได้ดีในระยะยาว และยังเป็นการฝึกสมองได้ให้ลูกได้รู้จักคิดและวางแผนไปควบคู่กัน
- พัฒนาทักษะทางร่างกาย : การเล่นปิงปองจะทำให้เด็กมีสุขภาพที่ดี ร่างกายแข็งแรง และได้ฝึกฝนการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะบริเวณข้อมือและดวงตาได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การเล่นปิงปองยังช่วยเสริมสร้างการพัฒนากล้ามเนื้อและมวลกระดูกของเด็กให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว
- เกิดความสนุกสนาน เล่นง่าย และราคาไม่แพง : การเล่นปิงปองช่วยให้ลูกเกิดได้ออกกำลังกายและเกิดความสนุกสนาน และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพนักกีฬาในอนาคตได้ นอกจากนี้ปิงปองยังไม่จำกัดเพศ อายุ และรูปร่างในการเล่นอีกด้วย รวมทั้งยังเป็นกีฬาที่เล่นได้ง่าย และไม่แพง เพราะอุปกรณ์ในการเล่นนั้นมีราคาที่ไม่สูงและทนทาน สามารถเล่นได้นานและเล่นได้ที่บ้าน
บทความที่น่าสนใจ : 5 วิธีเลี้ยงลูกให้เป็นนักกีฬา ความสำเร็จที่พ่อแม่สร้างได้
วิธีการเล่นปิงปอง
- เตรียมส่งลูกโดยการนำลูกปิงปองวางไว้บนฝ่ามือ จากนั้นจึงโยนไปบนอากาศด้วยความเร็ว โยนให้สูงประมาณ 16 เซนติเมตรขึ้นไป
- เมื่ออีกฝ่ายส่งลูกปิงปองมา ให้เตรียมตั้งรับโดยเมื่อลูกปิงปองข้ามมาถึงแดนของเราแล้ว ให้ตีกลับข้ามตาข่ายด้วยความเร็วหรืออ้อมตาข่ายไปอีกฝั่ง เล่นสลับไปเรื่อย ๆ โดยหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำคะแนนได้ถึง 11 คะแนนก่อน ฝ่ายนั้นจะเป็นผู้ชนะ
เทคนิคการเล่นปิงปองสำหรับเด็ก
- สังเกตจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ : ในระหว่างการเสิร์ฟลูกปิงปองหรือกำลังตอบโต้กับฝ่ายตรงข้ามให้รู้จักสังเกตวิธีการเล่นของฝ่ายตรงข้ามด้วย รู้ว่าวิธีการรับ-ส่งลูกของอีกฝ่ายเป็นอย่างไร หากอีกฝ่ายส่งมาเราจะรับได้หรือไม่ ให้ลูกได้ฝึกการสังเกตและการตั้งรับ
- รู้จักวิธีการส่งลูกปิงปอง : การส่งลูกปิงปองควรส่งให้เร็วและมีระยะในการส่งที่ดี จะทำให้อีกฝ่ายตั้งตัวไม่ทันและไม่ทันได้สังเกตทิศทางการส่งลูกของเรา
- พยายามอย่าเสียคะแนนให้แก่อีกฝ่าย : ฝึกฝนให้ลูกเสิร์ฟลูกปิงปองบ่อย ๆ พยายามเสิร์ฟโดยไม่ให้ติดกับตาข่าย ซึ่งจะทำให้ฝ่ายเราเป็นฝ่ายเสียคะแนน หมั่นให้ลูกรู้จักการส่งลูกปิงปองให้ดี
- ควบคุมสติ : การควบคุมสติเป็นสิ่งสำคัญ พยายามบอกลูกให้รู้จักตั้งสติและฝึกสมาธิซึ่งจะช่วยในการเล่นกีฬาให้มีประสิทธิภาพได้อีกหลายประเภท ต้องจดจ่อกับลูกปิงปอง ไม่สนใจกับสิ่งรบกวนรอบข้าง
- เล่นให้เป็นประจำ : การฝึกซ้อมให้เป็นประจำถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการช่วยพัฒนาทักษะการเล่นของลูกได้อย่างต่อเนื่อง พยายามเรียนรู้ จนเก่งและชำนาญซึ่งจะทำให้เด็กได้ทักษะและได้ประโยชน์การจากเล่นปิงปองเพิ่มมากขึ้น
ฝึกเล่นปิงปองที่ไหนดี
ในประเทศไทย นอกจากจะมีการจัดการแข่งขันปิงปองแล้ว ยังมีสถานที่รับสอนการเล่นปิงปองอีกหลายแห่งทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด โดยวันนี้เราจะหยิบยก 3 ตัวอย่างสถานที่สำหรับการเรียนปิงปองในกรุงเทพฯ เพื่อพ่อแม่ที่อยากฝึกฝนให้ลูกได้เล่นกีฬาประเภทนี้ โดยมีดังนี้
ITC GROUP
มีรูปแบบการสอนที่เรียนตัวต่อตัวครูฝึกสอนที่เป็นนักกีฬาปิงปอง สามารถเข้าเรียนได้ทุกเพศทุกวัย โดยเปิดสอนตั้งแต่ระดับพื้นฐานสำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์ในการเล่นกีฬาประเภทนี้ รวมทั้งได้มีโอกาสเข้าลงแข่งขันในนามของนักกีฬา สังกัดทีมสโมสร ITC GROUP
การสอน : เรียนกับผู้ฝึกสอนและผู้ช่วยผู้ฝึกสอนภายในสโมสรสัมมากร สามารถเรียนได้ทุกเพศทุกวัย
ที่ตั้ง : ซอยรามคำแหง 112 (สโมสรหมู่บ้านสัมมากร) ตรงข้าม Golden Place เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร
เบอร์โทรศัพท์ : 064-782-6161 , 083-711-8487
เว็บไซต์ : https://www.itcpingpong.com/
สถาบันสอนปิงปอง ITTI
ที่นี่มีผู้ฝึกสอนที่มากด้วยประสบการณ์การอบรมหลักสูตรจากต่างประเทศ ซึ่งรับสอนตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับการแข่งขันอีกเช่นกัน ข้อดีของที่นี่คือชาวต่างชาติสามารถเรียนการเล่นปิงปองได้
การสอน : มีการสอนตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับการแข่งขันโดยผู้ฝึกสอนที่มากประสบการณ์
ที่ตั้ง : วังหิน เสนานิคม ตรงข้ามซอยลาดปลาเค้า 27 ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
เบอร์โทรศัพท์ : 094-291-9929
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/ittifanpage/
Mega Spin Thailand
อีกหนึ่งสถานที่ฝึกสอนการเล่นปิงปอง ซึ่งมีการฝึกในระดับเริ่มเล่นไปจนถึงในระดับการแข่งขัน โดยมีหลักสูตรการสอนถึง 3 หลักสูตร ได้แก่ ปิงปองขั้นพื้นฐาน เหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านปิงปองมาก่อน ปิงปองขั้นก้าวหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานเบื้องต้น และเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน และปิงปองเพื่อการแข่งขัน ซึ่งเหมาะสำหรับนักกีฬาที่มีการฝึกซ้อมเป็นประจำเพื่อการลงแข่งขัน
การสอน : สอนการเล่นปิงปองตั้งแต่ระดับฝึกหัด ไปจนถึงการแข่งขัน
ที่ตั้ง : ถนนกาญจนาภิเษก เลยห้างพาซิโอ 500 เมตร ซอย 9 เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
เบอร์โทรศัพท์ : 081-336-4351
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/pingpongmegaspin/
ปิงปอง ถือเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ให้ลูกได้ลองท้าทายความสามารถและพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ซึ่งการเล่นกีฬาประเภทนี้ จะช่วยให้เขาได้รู้จักการเข้าสังคม การสื่อสาร พร้อมพัฒนะทักษะการออกกำลังกายอีกด้วย รวมทั้งการปิงปองยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กเกิดการพัฒนาทางสมองและความจำในระยะยาว พ่อแม่จึงมีส่วนช่วยให้ลูกได้พัฒนาทักษะของเขา และส่งเสริมให้เกิดความสนุกสนานและความสามารถจากการเล่นกีฬาประเภทนี้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เทนนิส เหมาะสำหรับเด็กวัยไหน? เสริมสร้างร่างกายและจิตใจจริงหรือไม่
ยูโด (Judo) ศิลปะการต่อสู้แห่งความคิด และพัฒนาจิตใจสำหรับเด็ก
5 วิธีป้องกันลูกที่ชอบเล่นกีฬา ไม่ให้บาดเจ็บ วิธีรักษาดูอาการลูก
ที่มาข้อมูล : tabletennisspot , shanghaisportthailand , valoresdelmadridismo