เช็คสิ!!! พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบนี้ เหมาะสม VS ไม่เหมาะสม
การเลี้ยงลูกไม่มีกฎตายตัว : วิธีการเลี้ยงลูกแม้ไม่มีกฎตายตัว เพราะแต่ละครอบครัวมีพื้นฐานที่แตกต่างกันไป แต่ถึงอย่างไรพ่อแม่ทุกคนล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ อยากให้ลูกเป็นเด็กเก่ง เด็กดี และเด็กมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น นอกจากนี้ยังรวมไปอยากให้ลูกมีไอคิวและอีคิวที่ดีอีกด้วย ขั้นตอนต่อไปที่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองทบทวนถึงวิธีการเลี้ยงดูกันนะคะ ไม่ได้กล่าวหาว่าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูลูกไม่ถูกต้องนะคะ แต่อาจมีบางอย่างที่ยังไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็เป็นได้ มาดูกันค่ะว่า การเลี้ยงดูลูกที่เหมาะสม กับไม่เหมาะสม พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบนี้ ดีไหม รวมถึง วิธีแก้ไขปัญหานั้นมีอะไรบ้าง ลองเช็คสิคะ
เลี้ยงลูกแบบนี้ ไม่เหมาะสม
รักลูก ด้วยการให้ลูกสุขสบาย
อ้าว แบบนี้ไม่ดีหรือคะ คงเกิดคำถามขึ้นในใจ เลี้ยงลูกก็ต้องอยากให้ลูกสบาย แต่นิยามของคำว่า “สุขสบาย” ในที่นี้หมายถึงคุณพ่อคุณแม่บริการทำนั่น โน่น นี่ให้ลูกทุกอย่าง เช่น คอยเก็บของเล่นให้ลูกเวลาลูกเล่นเสร็จ ผูกเชือกรองเท้าให้ ใส่ถุงเท้ารองเท้าให้แม้จะอยู่ในวัยประถมแล้วก็ตาม
เลี้ยงแบบนี้ไม่ดียังไง ลูกจะไม่รู้จักเรียนรู้สิ่งต่าง ๆด้วยตนเอง ไม่คิดช่วยเหลือตนเองและรอความช่วยเหลือตลอด มักจะขาดความอดทน ไม่รู้จักการแก้ปัญหา และเมื่อเจอปัญหาจะไม่สามารถเผชิญปัญหาได้
เลี้ยงลูกแบบนี้ เหมาะสม
ความรักที่ถูกต้อง คือ การเลี้ยงดูโดยให้ให้ลูกช่วยเหลือตัวเองและพึ่งพิงตัวเองได้อย่างเหมาะสมกับวัย ขอเน้นว่า เหมาะสมกับวัยนะคะ
เลี้ยงแบบนี้ดีอย่างไร ลูกจะเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง การได้ลงมือทำ ได้รับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะกินอาหารด้วยตนเอง อาบน้ำแต่งตัวได้เอง หรือถ้าสามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ยิ่งทวีความภาคภูมิใจและปลูกฝังนิสัยความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นในตัวลูกตั้งแต่ยังเล็กค่ะ
เลี้ยงแบบนี้ ไม่เหมาะสม
ตามใจเพื่อให้ลูกรักสบายใจ
ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกอยากได้ เพราะคิดว่า พ่อแม่รักลูกต้องให้ลูกได้ทุกอย่าง ลูกอยากได้อะไร ของเล่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าเอาไปเลยลูก แบบนี้ไม่ดีนะคะ เพราะอะไรหรือ
การตามใจให้ลูกได้ทุกสิ่งที่ทุกโดยไม่ขัด เท่ากับฝึกนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เท่ากับปลูกฝังนิสัยฟุ่มเฟือยให้ลูกโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้จักการเป็นผู้ให้หรือเสียสละ ที่สำคัญไม่สามารถควบคุมตนเองได้ อยากได้อะไรต้องได้แบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ
เลี้ยงแบบนี้ เหมาะสม
ให้ความรักทางจิตใจ ความรักของคุณพ่อคุณแม่ต้องแสดงออกให้ลูกได้รู้ว่า รักและเข้าใจลูกนะคะ พร้อมทั้งให้ความรักและความหวังดีกับลูกนั้นซึมซับเข้าไปในจิตใจ วิธีการง่าย ๆ แต่ได้ใจลูกเต็ม ๆ คือ การโอบกอด คำพูดเชิงบวก ได้แก่ คำพูดชื่นชม เมื่อทำสิ่งดี การให้กำลังใจเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและลูกจะสามารถรับรู้ความรักของพ่อแม่มากกว่าการรักลูกด้วยสิ่งของ เงิน แต่ไม่มีเวลาให้ลูกได้โอบกอด
เลี้ยงแบบนี้ ไม่เหมาะสม
คนเรียนดีเท่านั้น จึงประสบความสำเร็จ
อยากให้คุณพ่อคุณแม่ถามใจตัวเองดูนะคะว่า เรากำลังเลี้ยงลูกด้วยความคาดหวัง หรือตั้งความหวังให้ลูกเป็นอย่างที่เราต้องการ
จนลืมมองไปว่าลูกเรานั้นพร้อมหรือเต็มใจหรือไม่ ค่านิยมเรื่องการเรียนในปัจจุบัน เด็ก ๆ แทบไม่มีเวลาส่วนตัวเพราะต้องเรียน เรียน และเรียน เลิกเรียนแล้วยังต้องไปเรียนพิเศษ ติว ติว ติว จนลืมไปว่า ชีวิตมันมีหลายด้านนะคะ
อยากให้คุณพ่อคุณแม่มองลองมองในมุมของลูกด้วยนะคะว่า ลูกกำลังเคร่งครียดเกินไปหรือไม่ แถมบางคนเสร็จจากเรียนพิเศษยังต้องไปเรียนดนตรี กีฬาสารพัน แทบไม่มีเวลาพักเวลาที่เป็นของตัวเองในการค้นหาความชอบหรือความสนใจของตนเองด้วยซ้ำ นอกจากรู้อย่างเดียวว่า นี่คือ ความสนใจและความหวังของพ่อแม่
ฝากข้อคิด : เกรดเฉลี่ยสูง ๆ ไม่ใช่ตัวชี้วัดว่า ลูกของคุณจะประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคต เลี้ยงแบบที่ว่าให้ลูกมีความสุขบนพื้นฐานของจิตใจที่ดีน่าจะดีว่านะคะ
เลี้ยงแบบนี้ เหมาะสม
คนเก่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิตควรความสามารถที่หลากหลาย ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงต้องเก่งไปทุกสิ่งทุกอย่างนะคะ
แต่ความหมาย คือ เก่งแบบ รู้จักคิด รู้วางแผน แก้ไขปัญหาเป็น และควรมีทักษะพื้นฐาน เช่น การช่วยเหลือตนเอง สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกเช่นกัน คือ มีทักษะการสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น หากลูกเรียน เรียน และเรียนอย่างเดียวนั้นจะทำให้ลูกสูญเสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง โอกาสในการพัฒนาทักษะทางอารมณ์และสังคม อีกทั้งยังเป็นเด็กที่เคร่งเครียดไม่สามารถปรับตัวได้ เมื่อพบกับความผิดหวังและการทำงานต่อไปในอนาคตนะคะ
พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบนี้ ไม่เหมาะสม
ให้ลูกเรียนรู้จากสื่อต่างๆ อย่างไม่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นทีวี อินเตอร์เน็ต เล่นเกมคอมพิวเตอร์ เล่นได้นาน ๆ เพราะจะได้ไม่รบกวนพ่อแม่เวลายุ่ง ๆ หรือกำลังทำงาน ช่วยฝึกสมองลูกอีกด้วย แบบนี้น่าจะดี ขอบอกเลยค่ะ คิดผิดถนัด เพราะข้อเสียของการเล่นปล่อยให้ลูกเล่นตามลำพังเพื่อดึงเวลาไม่ให้มารบกวนพ่อแม่ หรือปล่อยให้เล่นคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ นั้น เป็นผลเสียในการสกัดกั้นพัฒนาการในทุก ๆ ด้านของลูกจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านสมอง การเข้าสังคม พัฒนาการทางด้านอารมณ์ค่ะ
พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบนี้ เหมาะสม
ระลึกไว้เสมอว่า สื่อต่าง ๆ มีทั้งดีและไม่ดี โดยเฉพาะลูกยังเป็นเด็ก ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งใดดีไม่ดี ที่สำคัญลูกยังไม่สามารถควบคุมตนเองได้ และมักจะเลือกรับสื่อที่ไม่เป็นประโยชน์ ส่วนหนึ่งมันมีความสนุกหรือตื่นเต้นมากกว่า การรับสื่อที่ไม่เป็นประโยชน์ จะทำให้เด็กกลายเป็นคนเจ้าสำราญ เหมือนจะดีนะคะ แต่เจ้าสำราญเนี่ย มักคิดแต่เรื่องไร้สาระและยังขาดโอกาสในการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงมีหน้าที่เลือกสื่อหรือให้คำแนะนำกับลูกว่า อะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ อะไรดูได้ อะไรดูไม่ได้ กำหนดเวลาที่เหมาะสมและให้อยู่ในสายตาของพ่อแม่นะคะเพื่อจะได้แนะนำสิ่งที่เหมาะสมกับลูกได้นั่นเอง
พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบนี้ ไม่เหมาะสม
ลูกยังเล็กไม่ต้องสอนมากก็ได้ โตขึ้นเดี๋ยวเขาก็เรียนรู้เอง เลี้ยงแบบนี้พ่อแม่จึงมักจะปล่อยปละละเลย ไม่ค่อยว่ากล่าวตักเตือนเพราะเห็นว่าลูกยังเล็ก เช่น เห็นลูกพูดจาหยาบคายกับเพื่อน พ่อแม่คิดว่าเป็นเรื่องตลก น่าเอ็นดูเพราะลูกยังเด็กและยินยอม ให้ลูกทำเช่นนั้นต่อไป
พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบนี้ เหมาะสม
ช่วงวัยเด็กเป็นเวลาของการเรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบตัว การเรียนรู้เหล่านี้จะเป็นรากฐานของการเรียนรู้ในวัยที่โตขึ้น การเรียนรู้ทักษะทางด้านอารมณ์และสังคม เช่น
- สอนให้ลูกรู้จักควบคุมตนเอง
- เล่นกับเพื่อน ต้องรู้จักแบ่งปัน
- พูดจากันดี ๆ เล่นของเล่นแล้วต้องช่วยกันเก็บ เป็นต้น
หมายถึงสอนให้ลูกรู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ที่สำคัญระเบียบวินัย เป็นสิ่งที่ต้องสอนตั้งแต่วัยเด็ก ไม่เช่นนั้นจะเข้าตำราไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก อาจทำให้ทุกอย่างายเกินไปจนติดเป็นนิสัยที่ไม่ดีให้แก่ลูกไปจนโตนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เทคนิคเลี้ยงลูกวัยอนุบาล 3 – 6 ขวบ ลูกวัยนี้ควรเน้นเรื่องอะไรบ้าง
วิธีเลี้ยงลูกแบบสวีเดน เลี้ยงลูกอย่างไรให้ฉลาดแบบไม่ต้องยัดเยียด
วิธีเลี้ยงลูกแบบคนฟินแลนด์ พ่อแม่เลี้ยงลูกอย่างไรให้เก่ง ฉลาด แบบไม่บังคับ